ราคาน้ำมันตลาดโลกดิ่งหนักดันค่าการตลาดน้ำมันดีเซลและกลุ่มเบนซินของผู้ค้าพุ่งแตะ 1.7-2 บาทต่อลิตร “ปตท.” แย้มอาจมีลดราคา 1-2 วันนี้ ด้านนักวิชาการหนุนรัฐฉวยจังหวะน้ำมันขาลงปฏิรูปราคาดีเซลเลิกตรึงราคา 30 บาทต่อลิตรด้วยการลดเงินที่เก็บใส่กองทุนน้ำมันฯ 3 บาทต่อลิตรเหลือ75 สต. แล้วนำไปเก็บเป็นภาษีสรรพสามิตที่เดิมเก็บ 75 สตางค์ต่อลิตรไปเป็นเก็บ 3 บาทต่อลิตรให้เท่ากับกลุ่มเบนซิน
รายงานข่าวจาก บมจ.ปตท.ระบุว่ากำลังพิจารณาเรื่องการลดราคาน้ำมันใน 1-2 วันนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงปรับลดลงต่อเนื่อง โดยล่าสุดกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันโลก หรือโอเปก กังวลภาวะราคาน้ำมันดิบที่ลดลงอย่างรวดเร็ว มีการหารืออย่างไม่เป็นทางการว่าจะลดกำลังผลิตหรือไม่ รวมทั้งติดตามดูว่ากลุ่มสหภาพยุโรปจะหารือเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ค่าการตลาดน้ำมันของผู้ค้าอยู่ในเกณฑ์สูง โดยราคากลุ่มเบนซินเฉลี่ยอยู่ในระดับ 2 บาทต่อลิตร ดีเซล 1.70 บาทต่อลิตร หลังจากที่ราคาน้ำมันตลาดโลกปิดตลาด วานนี้ (15 ต.ค.) ดิ่งลงอย่างรุนแรง โดยราคาดิบดูไบลดลง 4.14 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ปิดที่ 83.5 ดอลลาร์/บาร์เรล เบรนต์ลดลง 1.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 83.78 ดอลลาร์/บาร์เรล เวสต์เทกซัสลดลง 0.06 ปิด 81.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ เบนซิน ลดลง 3.23 ดอลลาร์ ปิด 97.51 ดอลลาร์/บาร์เรล ดีเซล ลดลง 4.33 ดอลลาร์ ปิด 96.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพลังงาน กล่าวว่า ช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้ ราคาพลังงานในตลาดโลกยังมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นถือเป็นโอกาสดีสุดที่รัฐจะปรับโครงสร้างราคาพลังงานแต่ละชนิดให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยดีเซลรัฐควรจะใช้จังหวะนี้ยกเลิกการตรึงราคาขายปลีกไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร โดยให้สลับการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับดีเซลจากปัจจุบันเก็บอยู่ที่ 3 บาทต่อลิตรลดเหลือ 75 สตางค์ต่อลิตร และให้นำไปเพิ่มเป็นการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซลในระดับ 3 บาทต่อลิตรแทนจากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 75 สตางค์ต่อลิตรเพื่อให้อยู่ใกล้เคียงกับกลุ่มเบนซินซึ่งจะไม่กระทบต่อประชาชน
ทั้งนี้ จากการลดภาษีดีเซลที่เริ่มจากเดือนเมษายน 2554 ทำให้รายได้ของรัฐจัดเก็บต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และในปี 2557 ในส่วนของภาษีน้ำมัน จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 28,597 ล้านบาท หรือร้อยละ 31.1 กระทรวงการคลังระบุเป็นผลจากการขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลเพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชน และการเปลี่ยนไปใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ซึ่งมีอัตราภาษีต่ำและก๊าซ NGV ซึ่งไม่เสียภาษี ทดแทนการใช้น้ำมันเบนซิน
