ASTVผู้จัดการรายวัน- “อารีพงศ์” แย้มกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงระยะสั้นมีความจำเป็นต้องคงไว้เหตุต้องดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมันไม่ให้ผันผวนประกอบกับภาระหนี้ยังสูง ส่วนสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่รอรมว.พลังงานคนใหม่เคาะหวังเดินหน้าได้ปีนี้ ด้านกลุ่มปฏิรูปพลังงานชี้รีดต๋งเบนซินไม่เป็นธรรม ทำให้ราคาบิดเบือน ขณะที่กลุ่มจปพ.มองใช้แนวทางบริหารเดิมๆ เลี่ยงพูดถึงปิโตรฯชาติไม่ได้ประโยชน์
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลงตามแนวนโยบายของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) จะใช้แนวทางการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งในกลุ่มเบนซินและดีเซลเพื่อใช้หนี้กองทุนน้ำมันฯในระยะสั้นนี้โดยเฉพาะส่วนของกลุ่มเบนซินที่จะเรียกเก็บเข้ากองทุนฯควบคู่ไปกับการลดราคาขายปลีกให้กับผู้ใช้ไปพร้อมๆ กันหากค่าการตลาดมีความเหมาะสม
“ เราก็ติดตามค่าการตลาดน้ำมันในระยะนี้อยู่ซึ่งก็มีโอกาสที่จะเรียกเก็บหลังค่าการตลาดเริ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้เบนซินก็จะพยายามให้มีการลดราคาขายปลีกลงบ้างควบคู่กันไป แต่ส่วนของดีเซลคงจะยังตรึงราคาไว้ไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรจนกว่าจะมีการปรับโครงสร้างราคาพลังงานภาพรวมซึ่งในช่วง 1 เดือนนี้กระทรวงพลังงงานจะเร่งทำความรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชนก่อน”นายอารีพงศ์กล่าว
อย่างไรก็ตามกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงนระยะสั้นยังคงมีความจำเป็นที่จะยังคงเอาไว้เพื่อไว้เป็นเครื่องมือในการดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมันโดยเฉพาะในช่วงที่ราคาน้ำมันโลกเกิดความผันผวนอย่างรุนแรงเพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับประชาชนจนเกินไปประกอบกับปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯเองก็มีฐานะติดลบกว่า 8,000 ล้านบาทการปรับโครงสร้างจำเป็นจะต้องพิจารณาในส่วนนี้ด้วย
ส่วนระยะยาวหากราคาพลังงานต่างๆ ถูกจัดระเบียบโครงสร้างให้ถูกต้องและสะท้อนกลไกตลาดอย่างแท้จริงหากเห็นว่าไม่จำเป็นจะต้องคงไว้ก็น่าจะสามารถทำได้แต่คงไม่สามารถกำหนดเป้าหมายได้ว่าภายในกี่ปี ส่วนการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ครั้งที่21ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณาถึงกำหนดเวลาที่ชัดเจนในการเปิดประมูลสัมปทานฯซึ่งอาจต้องรอรมว.พลังงานคนใหม่มาตัดสินใจ แต่ในหลักการมีความจำเป็นต้องเร่งดำเนินการรวมถึงการพิจารณาสัญญาสัมปทานเดิมที่ใกล้จะหมดอายุลงด้วย โดยคาดว่าภายในปี2557 จะมีข้อสรุปที่ชัดเจนได้
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าขณะนี้ยังมีความเห็นที่หลากหลายในเรื่องรูปแบบการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมระหว่างระบบสัมปทานเดิมที่ใช้อยู่กับระบบแบ่งปันผลผลิต ซึ่งจำเป็นต้องเร่งทำความเข้าใจให้มากขึ้น
นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา กรรมการกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานไทย(จปพ.) กล่าวว่า การรีดเงินจากคนใช้เบนซินไปโปะหนี้น้ำมันที่สุดก็เป็นการใช้หลักการเดิมๆ ที่ทำกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนานไม่ได้มีการเปลียนทิศทางแต่อย่างใดโดยสิ่งที่ทุกคนพยายามเลี่ยงพูดคือ การใช้ในภาคปิโตรเคมีที่หาข้อพิสูจน์การใช้ในเรื่องราคาที่แท้จริงไม่ได้อ้างเพียงแค่อิงราคาตลาดโลกแล้ว
ทางกลุ่มฯไม่ได้คัดค้านการขึ้นแอลพีจีแต่การขึ้นต้องคำนึงถึงความเสมอภาคและเท่าเทียมกันของผู้ใช้ทุกภาคส่วนทั้ง ครัวเรือน ขนส่ง อุตสาหกรรม และปิโตรเคมีต้องเอามากางว่าทุกส่วนจ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯเท่าใด เสียภาษีสรรพมิตเท่า และเหตุผลทำไมปิโตรเคมีจึงต่ำกว่าทุกภาค หากการปฏิรูปโครงสร้างพลังงานยังใช้แนวทางเดิมๆ เช่นนี้ก็เท่ากับประเทศชาติไม่ได้อะไรดีขึ้น
นายมนูญ ศิริวรรณ กรรมการกลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน กล่าวว่า กองทุนน้ำมันฯยังเห็นว่ามีความจำเป็นต้องคงอยู่ไว้ดูแลเสถียรภาพราคาพลังงานช่วงผันผวนสูงเพื่อพยุงเศรษฐกิจ โดยต้องปรับวิธีการบริหารจัดการโครงสร้างราคาพลังงานแต่ละชนิดไม่ให้บิดเบือนจนกระทั่งทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯต้องติดลบเช่นปัจจุบันซึ่งขณะนี้มีการพยุงราคาแอลพีจีครัวเรือนและขนส่งต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริงแล้วใช้วิธีมารีดเก็บจากคนใช้น้ำมันโดยเฉพาะขณะนี้จากกลุ่มคนใช้เบนซินไปล้างหนี้ซึ่งถือว่าเป็นโครงสร้างไม่ยุติธรรม
“เป็นการใช้กองทุนน้ำมันฯแบบผิดวัตถุประสงค์ ขณะนี้แอลพีจีขนส่งก็ต่ำกว่าครัวเรือนควรจะขึ้นมาให้เท่ากันและขึ้นไปจนสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงไม่ใช่ต่ำเกินจริงเช่นที่ผ่านมาแล้วต้องให้คนอื่นมาอุดหนุนเป็นการเอาเปรียบซึ่งขณะนี้การใช้แอลพีจีขนส่งรถเก๋งใช้ถึง 97% แต่รถแท็กซี่ใช้แค่ 3% แต่ระดับนโยบายก็ไม่กล้าตัดสินใจโครงสร้างราคาควรจะทำให้การใช้มีประสิทธิภาพสูงสุด “นายมนูญกล่าว
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลงตามแนวนโยบายของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) จะใช้แนวทางการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งในกลุ่มเบนซินและดีเซลเพื่อใช้หนี้กองทุนน้ำมันฯในระยะสั้นนี้โดยเฉพาะส่วนของกลุ่มเบนซินที่จะเรียกเก็บเข้ากองทุนฯควบคู่ไปกับการลดราคาขายปลีกให้กับผู้ใช้ไปพร้อมๆ กันหากค่าการตลาดมีความเหมาะสม
“ เราก็ติดตามค่าการตลาดน้ำมันในระยะนี้อยู่ซึ่งก็มีโอกาสที่จะเรียกเก็บหลังค่าการตลาดเริ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้เบนซินก็จะพยายามให้มีการลดราคาขายปลีกลงบ้างควบคู่กันไป แต่ส่วนของดีเซลคงจะยังตรึงราคาไว้ไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรจนกว่าจะมีการปรับโครงสร้างราคาพลังงานภาพรวมซึ่งในช่วง 1 เดือนนี้กระทรวงพลังงงานจะเร่งทำความรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชนก่อน”นายอารีพงศ์กล่าว
อย่างไรก็ตามกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงนระยะสั้นยังคงมีความจำเป็นที่จะยังคงเอาไว้เพื่อไว้เป็นเครื่องมือในการดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมันโดยเฉพาะในช่วงที่ราคาน้ำมันโลกเกิดความผันผวนอย่างรุนแรงเพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับประชาชนจนเกินไปประกอบกับปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯเองก็มีฐานะติดลบกว่า 8,000 ล้านบาทการปรับโครงสร้างจำเป็นจะต้องพิจารณาในส่วนนี้ด้วย
ส่วนระยะยาวหากราคาพลังงานต่างๆ ถูกจัดระเบียบโครงสร้างให้ถูกต้องและสะท้อนกลไกตลาดอย่างแท้จริงหากเห็นว่าไม่จำเป็นจะต้องคงไว้ก็น่าจะสามารถทำได้แต่คงไม่สามารถกำหนดเป้าหมายได้ว่าภายในกี่ปี ส่วนการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ครั้งที่21ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณาถึงกำหนดเวลาที่ชัดเจนในการเปิดประมูลสัมปทานฯซึ่งอาจต้องรอรมว.พลังงานคนใหม่มาตัดสินใจ แต่ในหลักการมีความจำเป็นต้องเร่งดำเนินการรวมถึงการพิจารณาสัญญาสัมปทานเดิมที่ใกล้จะหมดอายุลงด้วย โดยคาดว่าภายในปี2557 จะมีข้อสรุปที่ชัดเจนได้
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าขณะนี้ยังมีความเห็นที่หลากหลายในเรื่องรูปแบบการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมระหว่างระบบสัมปทานเดิมที่ใช้อยู่กับระบบแบ่งปันผลผลิต ซึ่งจำเป็นต้องเร่งทำความเข้าใจให้มากขึ้น
นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา กรรมการกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานไทย(จปพ.) กล่าวว่า การรีดเงินจากคนใช้เบนซินไปโปะหนี้น้ำมันที่สุดก็เป็นการใช้หลักการเดิมๆ ที่ทำกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนานไม่ได้มีการเปลียนทิศทางแต่อย่างใดโดยสิ่งที่ทุกคนพยายามเลี่ยงพูดคือ การใช้ในภาคปิโตรเคมีที่หาข้อพิสูจน์การใช้ในเรื่องราคาที่แท้จริงไม่ได้อ้างเพียงแค่อิงราคาตลาดโลกแล้ว
ทางกลุ่มฯไม่ได้คัดค้านการขึ้นแอลพีจีแต่การขึ้นต้องคำนึงถึงความเสมอภาคและเท่าเทียมกันของผู้ใช้ทุกภาคส่วนทั้ง ครัวเรือน ขนส่ง อุตสาหกรรม และปิโตรเคมีต้องเอามากางว่าทุกส่วนจ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯเท่าใด เสียภาษีสรรพมิตเท่า และเหตุผลทำไมปิโตรเคมีจึงต่ำกว่าทุกภาค หากการปฏิรูปโครงสร้างพลังงานยังใช้แนวทางเดิมๆ เช่นนี้ก็เท่ากับประเทศชาติไม่ได้อะไรดีขึ้น
นายมนูญ ศิริวรรณ กรรมการกลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน กล่าวว่า กองทุนน้ำมันฯยังเห็นว่ามีความจำเป็นต้องคงอยู่ไว้ดูแลเสถียรภาพราคาพลังงานช่วงผันผวนสูงเพื่อพยุงเศรษฐกิจ โดยต้องปรับวิธีการบริหารจัดการโครงสร้างราคาพลังงานแต่ละชนิดไม่ให้บิดเบือนจนกระทั่งทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯต้องติดลบเช่นปัจจุบันซึ่งขณะนี้มีการพยุงราคาแอลพีจีครัวเรือนและขนส่งต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริงแล้วใช้วิธีมารีดเก็บจากคนใช้น้ำมันโดยเฉพาะขณะนี้จากกลุ่มคนใช้เบนซินไปล้างหนี้ซึ่งถือว่าเป็นโครงสร้างไม่ยุติธรรม
“เป็นการใช้กองทุนน้ำมันฯแบบผิดวัตถุประสงค์ ขณะนี้แอลพีจีขนส่งก็ต่ำกว่าครัวเรือนควรจะขึ้นมาให้เท่ากันและขึ้นไปจนสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงไม่ใช่ต่ำเกินจริงเช่นที่ผ่านมาแล้วต้องให้คนอื่นมาอุดหนุนเป็นการเอาเปรียบซึ่งขณะนี้การใช้แอลพีจีขนส่งรถเก๋งใช้ถึง 97% แต่รถแท็กซี่ใช้แค่ 3% แต่ระดับนโยบายก็ไม่กล้าตัดสินใจโครงสร้างราคาควรจะทำให้การใช้มีประสิทธิภาพสูงสุด “นายมนูญกล่าว