ปตท.จ่อลงทุนท่อก๊าซหลักเส้นที่ 5 จากระยองอ้อมไปตะวันตกเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานหลังท่อก๊าซหลักเส้นแรกเต็ม เผยรอแผน PDP 2015 และนโยบายรัฐเกี่ยวกับการแยกท่อก๊าซฯ ของ ปตท.ด้วย ชี้ราคาน้ำมันดิบร่วงหลุด 90 เหรียญ/บาร์เรล ทำให้กลุ่ม ปตท. และ SCC ขาดทุนสต๊อก แต่มาร์จิ้นธุรกิจปิโตรเคมียังดีอยู่
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมลงทุนท่อก๊าซฯ หลักเส้นที่ 5 ซึ่งจะเชื่อมจากฝั่งตะวันออกอ้อมไปยังพื้นที่ด้านตะวันตกของประเทศเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ซึ่งขณะนี้ ปตท.อยู่ระหว่างรอแผนพัฒนากำลังการผลิตของประเทศไทยปี 2558-2579 (PDP 2015) ก่อนตัดสินใจ
ส่วนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงมาอยู่ระดับต่ำกว่า 90 เหรียญสหรัฐ/ตัน หรือปรับลดลงถึง 13-14% ทาง ปตท.เห็นว่าเป็นระดับราคาที่อ่อนตัวลงมากแล้ว ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวทำให้มีการคาดการณ์การใช้น้ำมันโลกจะอ่อนตัวตาม รวมทั้งซาอุดีอาระเบียในฐานะผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ในกลุ่มโอเปกก็ไม่ได้ลดกำลังการผลิตน้ำมันลงเพื่อพยุงราคาเหมือนในอดีตด้วย
จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงดังกล่าวนี้ ทำให้ ปตท.และเครือบริษัทได้รับผลกระทบจากการสต๊อกน้ำมันตามที่กฎหมายบังคับให้มีการสำรองน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป 6% ของปริมาณการขาย แต่มาร์จิ้นในธุรกิจการกลั่นและปิโตรเคมีก็ยังดีอยู่ เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบอ่อนตัวลงตามราคาน้ำมัน
นายไพรินทร์กล่าวต่อไปว่า จากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงอย่างมากนี้ เป็นสัญญาณบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงของโลกจากยุคน้ำมันเข้าสู่ยุคก๊าซธรรมชาติ จะเห็นได้ว่าราคาก๊าซฯ อยู่ที่ระดับ 14 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งไทยเองก็มีการใช้พลังงานหลัก คือ ก๊าซฯ ในการผลิตไฟฟ้า จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ ปตท.ต้องมาศึกษาความเป็นได้ในการวางท่อก๊าซฯ หลักเส้นที่ 5
นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนการลงทุนท่อก๊าซหลักเส้นที่ 5 จะเป็นการสร้างตามแนวท่อก๊าซเส้นที่ 1 จาก จ.ระยอง ไปฝั่งภาคตะวันตก และ ผ่านโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ และโรงไฟฟ้าพระนครใต้ ซึ่งโครงการนี้ยังไม่ได้มีการศึกษาอย่างจริงจัง และยังไม่ได้บรรจุอยู่ในแผนการลงทุนด้วย
ทั้งนี้ การลงทุนโครงการวางท่อก๊าซหลักเส้นที่ 5 จะต้องรอแผน PDP ฉบับใหม่ รวมทั้งนโยบายรัฐในการแยกท่อก๊าซฯ ออกจาก ปตท.ด้วย
ซึ่งทันทีที่แผน PDP บังคับใช้ก็จะเริ่มศึกษาความเป็นไปได้โครงการ ซึ่งจะเชื่อมกับการลงทุนโครงการสร้างแอลเอ็นจี เทอร์มินอล เฟส 2 อีก 5 ล้านตัน และต้องทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ซึ่งจะใช้เวลา 2 ปีจึงจะเริ่มก่อสร้างได้
SCC ชี้ Q3 ขาดทุนสต๊อก
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง ทำให้บริษัทมีการบันทึกขาดทุนสต๊อกสินค้าคงคลังและแนฟทาในช่วงไตรมาส 3/2557 แต่ราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงทำให้ต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตปิโตรเคมีลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้มีมาร์จิ้นสูงขึ้น โดยส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์พลาสติก PE กับแนฟทา (สเปรด) เฉลี่ยไตรมาส 3 นี้อยู่ที่ 670 เหรียญสหรัฐ/ตัน และสเปรดเม็ดพลาสติก PP อยู่ 700 เหรียญสหรัฐ/ตัน สูงกว่าไตรมาส 2/2557
หากในไตรมาส 4 ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ก็จะทำให้บริษัทกลับมามีกำไรจากสต๊อกสินค้าได้อีกครั้ง
นายกานต์กล่าวต่อไปว่า จากสถานการณ์การเมืองในตะวันออกกลาง และเศรษฐกิจยุโรปไม่ดี ทำให้กระทบความต้องการใช้น้ำมันโลกทำให้ราคาปรับตัวลง ขณะที่เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 นี้ก็แผ่วด้วย แต่เชื่อว่าไตรมาส 4 แนวโน้มเศรษฐกิจไทยจะกระเตื้องขึ้น เนื่องจากรัฐบาลส่งสัญญาณอัดฉีดงบประมาณรายจ่ายออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าทั้งปี 2557 จะมียอดขายเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4.8 แสนล้านบาท เนื่องจากการส่งออกยังทำได้ดี
โดยปีนี้บริษัทฯ คาดว่ายอดขายในกลุ่มอาเซียนเพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ 8 หมื่นล้านบาท โดยครึ่งแรกของปีนี้ยอดขายกลุ่มอาเซียนอยู่ที่ 21 ซึ่งมาจากฐานการผลิตในอาเซียนเอง 10% ที่เหลือเป็นการส่งออกจากฐานการผลิตในไทยไปอาเซียน ซึ่งจะช่วยชดเชยยอดขายในประเทศไทยที่หดตัว
วันนี้ (13 ต.ค.) สมาคมเพื่อนชุมชน ก้าวสู่ปีที่ 5 ประกาศจับมือร่วมกันเพื่อปรับเปลี่ยนทุกโรงงานในกลุ่มสมาชิกให้เป็นโรงงานเชิงนิเวศแห่งแรกในไทย โดยมีเป้าหมายในปี 2561 ให้มาบตาพุดเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศตามเป้าหมายที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดไว้
