คมนาคมปรับแผนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานฯ จากระยะ 8 ปี เป็น 10 ปี (59-68) เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดสรรงบประมาณระยะยาว 10 ปี ยันโครงการเดิมไม่ลดหรือเพิ่ม “สร้อยทิพย์” ยันชะลอสุวรรณภูมิเฟส 2 ยังไม่ยุติ ชี้เป็นความเห็นบอร์ด ทอท.เท่านั้น รมว.คมนาคมยังไม่อนุมติ และยังบรรจุในยุทธศาสตร์คมนาคมอยู่
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับสำนักงบประมาณวันนี้ (4 ก.ย.) ว่า สำนักงบประมาณต้องการวางแผนการใช้จ่ายงบประมาณของประเทศในภาพรวมระยะยาว ( Long Term Expenditure Framework : LTEF) ระยะ 10 ปี (ปี 2559-2568) ซึ่งการวางแผนดังกล่าวต้องทำความเข้าใจกับทุกหน่วยงานที่ต้องการใช้เงินลงทุนเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันและเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการจัดสรรงบประมาณของสำนักงบประมาณ ว่าในการลงทุนในทุกยุทธศาสตร์ของประเทศจะใช้เงินอย่างไร จำนวนเท่าไร โดยในส่วนของกระทรวงคมนาคมมีความชัดเจนแล้ว คือปรับยุทธศาสตร์ โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย 4 ด้าน 5 แผนงาน ระยะเวลา 8 ปี (2558-2565) เป็นระยะ 10 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการจัดสรรงบประมาณของสำนักงบประมาณ โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ปรับแผนงานให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้าเพื่อนำเสนอ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ทั้งนี้ ในการปรับแผนยุทธศาสตร์คมนาคมจาก 8 ปีเป็น 10 ปีมีเป้าหมายเพื่อให้สอดคล้องกับการจัดสรรงบประมาณของประเทศที่มองในระยะยาว 10 ปี ซึ่งเป็นโครงการตามแผนเดิมและวงเงินเท่าเดิมไม่มีการปรับลดหรือเพิ่มขึ้น แต่เป็นการจัดทำกรอบเวลาให้เป็น 10 ปี และจะมีการจัดลำดับความสำคัญโครงการก่อนหลัง และการลงทุนรวมและกรอบแต่ละปี แบ่งเป็นงบประมาณ เงินกู้ ร่วมทุนเท่าไร และเป็นผูกพันการดำเนินงานที่ชัดเจนต่อไปจนแล้วเสร็จ โดยในปี 2557 กระทรวงคมนาคมมีกรอบลงทุนโครงการเร่งด่วนประมาณ 3 หมื่นกว่าล้านบาท ส่วนปี 2558 จะใช้งบลงทุนในส่วนของยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐาน 19,718.27 ล้านบาท จากกรอบงบประมาณปี 2558 รวมที่ 144,000 ล้านบาท
“ในปี 2558 ยังเหลือโครงการรถไฟทางคู่ เบื้องต้นได้รับงบประมาณในส่วนของค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือค่ารื้อย้าย ซึ่งคาดว่าทางคู่เส้นทางจิระ-ขอนแก่น วงเงินลงทุน 26,000 ล้านบาทที่ผ่านการพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว เหลือขั้นตอนการนำเสนอขอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติประกวดราคา จะสามารถนำเสนอขอวงเงินลงทุนในปี 2558 เพิ่มเติมได้” นางสร้อยทิพย์กล่าว
ส่วนแผนการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 ซึ่งคณะกรรมการ (บอร์ด) ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ที่มีนายประสงค์ พูนธเนศ เป็นประธาน มีมติให้ชะลอและศึกษาและจัดทำรายละเอียดการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ (Multi Terminal) แทนนั้น เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะเป็นเพียงความเห็นจากบอร์ด ทอท.เท่านั้น ขณะที่แผนยุทธศาสตร์ฯ มีการบรรจุเรื่องการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 ไว้แล้ว หากมีการปรับเปลี่ยนก็ต้องผ่านการพิจารณาจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมก่อน
“เรื่องปรับรูปแบบลงทุนพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เรายังให้ความเห็นอะไรไม่ได้ เพราะ AOT ยังไม่ส่งเรื่องมา และถือว่าเป็นเพียงความเห็นจากบอร์ดเท่านั้น อีกทั้งโครงการพัฒนาเฟส 2 นี้ เราบรรจุอยู่ในแผนยุทธศาสตร์ของกระทรวงไปแล้ว ถ้าจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรก็ต้องผ่านการพิจารณาจากกระทรวงคมนาคมและรัฐมนตรีว่าการฯ ก่อน” นางสร้อยทิพย์กล่าว