“สรรพากร” เตรียมเสนอ คสช. เคาะยกเลิกการเสียภาษีคณะบุคคล เพราะเห็นว่ามีความซ้ำซ้อน คาดเริ่มภายในสิ้นปีนี้ พร้อมออกระเบียบใหม่ให้สรรพากรภาคออกสุ่มตรวจบัญชี
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวระหว่างร่วมงานสัมมนา “การสร้างความร่วมมือระหว่างกรมสรรพากรกับสำนักงานบัญชี” โดยระบุว่า เพื่อให้การเสียภาษีของคณะบุคคลมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงได้เสนอแก้ไขกฎหมายให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณา เพื่อยกเลิกการเสียภาษีในรูปแบบคณะบุคคล เพราะเห็นว่ามีความซ้ำซ้อน และในช่วงที่ผ่านมาได้มีกลุ่มบุคคลรวมตัวกันประกอบธุรกิจหลายประเภท และมีการหาช่องว่างด้วยการตั้งคณะบุคคลขึ้นมาอีกนับร้อยราย หวังเสียภาษีในอัตราต่ำ เพื่ออุดช่องโหว่ดังกล่าวด้วยการยกเลิกการเสียภาษีแบบคณะบุคคล โดยให้นำรายได้ของคณะบุคคลที่รวมกลุ่มไปรวมกับรายได้ประจำ เพื่อเสียภาษีเป็นรายบุคคล คาดว่ากฎหมายดังกล่าวจะเริ่มภายในสิ้นปีนี้
สำหรับวันนี้ได้เชิญสำนักงานบัญชีในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล กว่า 700 ราย ที่มีลูกค้าจำนวนมากกว่า 30 รายขึ้นไป มาทำความเข้าใจร่วมกัน เพราะได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการทำบัญชีให้กับนิติบุคคลจากสำนักงาน 1 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้สำนักงานบัญชีอย่าให้ความร่วมมือในการตกแต่งบัญชี เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี เพราะกรมสรรพากรเตรียมออกระเบียบให้สรรพากรภาคออกสุ่มตรวจบัญชีซ้ำอีกรอบสำหรับบัญชีที่มีปัญหาและได้ข้อยุติในพื้นที่ หากตรวจพบว่ามีความผิดเสียภาษีไม่ครบถ้วน จะต้องถูกปรับเพิ่มอีกร้อยละ 20 ของเงินภาษีต้องชำระ แต่สรรพากรไม่ต้องการให้เอกชนผู้เสียภาษีถูกปรับ จึงขอให้เสียภาษีอย่างครบถ้วน โดยความผิดจะมีทั้งสำนักงานบัญชี และเอกชนผู้จ้างให้จัดทำบัญชี
นอกจากนี้ ยังเดินหน้าผลักดันเสนอให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาการสั่งยุติธุรกรรม หากมีการกระทำความผิดหลีกเลี่ยงภาษี เพื่อให้อำนาจเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรทำการสอบสวนสำนวนและสั่งยุติการทำธุรกรรมทางการเงินของผู้กระทำความผิด เพราะความผิดดังกล่าวไม่ได้อยู่ในขอบข่ายหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เช่น กรณีการโกงภาษีมูลค่าเพิ่ม 4,000 ล้านบาท หากระงับธุรกรรมได้ทัน เงินดังกล่าวจะไม่หายไปไหน จนทำให้ไม่สามารถยับยั้งปัญหาได้ทันเหตุการณ์