xs
xsm
sm
md
lg

ลุ้นเรกูเลเตอร์ 28 ส.ค.เคาะตรึงค่าไฟ โยน “กฟผ.” รับภาระ 2,000 ลบ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เรกูเลเตอร์หารือค่าเอฟทีงวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค. 57) วันที่ 28 ส.ค.นี้ แนวโน้มส่อตรึงราคาไว้ที่ 69 สตางค์ต่อหน่วยคงเดิมเพื่อดูแลค่าครองชีพประชาชน โยน “กฟผ.” แบกรับ 2,000 ล้านบาท “กฟผ.” พอรับได้เหตุต้นทุนอื่นๆ ไม่ได้ขึ้นมาก แต่ยังกังวลปีหน้าน้ำน้อย

แหล่งข่าวจากคณะอนุกรรมการพิจาณาอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (อนุเอฟที) คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือเรกูเลเตอร์ เปิดเผยว่า วันนี้ (25 ส.ค.) คณะอนุฯ ได้ประชุมหารือถึงต้นทุนการผลิตไฟฟ้าเพื่อพิจารณาอัตราค่าเอฟทีที่จะเรียกเก็บในบิลค่าไฟประชาชนงวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค. 57) นี้ โดยมีแนวโนมว่าจะพิจารณาตรึงค่าเอฟทีไว้ที่ 69 สตางค์ต่อหน่วยแม้ว่าต้นทุนการผลิตไฟจะสูงขึ้นเพื่อดูแลค่าครองชีพประชาชนที่ขณะนี้กำลังซื้อยังไม่ดีขึ้นเนื่องจากมีภาระหนี้ครัวเรือนที่สูง โดยจะให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แบกรับภาระต้นทุนเอาไว้ก่อน โดยจะมีการเสนอให้เรกูเลเตอร์เห็นชอบวันที่ 28 ส.ค.นี้

นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ.พร้อมที่จะดำเนินงานตามนโยบายหากต้องตรึงค่าเอฟทีงวดใหม่จริง โดยคาดว่าจะกระทบไม่เกิน 2,000 ล้านบาทเนื่องจากต้นทุนภาพรวมมีการปรับขึ้นไม่มากนักโดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติและอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท ขณะที่การใช้ไฟเริ่มมีอัตราการเติบโตที่เริ่มสูงขึ้น โดยคาดว่าปีนี้ทั้งปีน่าจะโตได้ในระดับ 2% เมื่อเทียบกับปีก่อน

สำหรับเอฟทีงวดแรกของปี 2558 จะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับจะสามารถปล่อยน้ำจากเขื่อนได้มากน้อยขนาดไหน เนื่องจากขณะนี้มีความเป็นห่วงปริมาณน้ำค่อนข้างต่ำ อย่างไรก็ตาม ในปี 2558 ยังมีปัจจัยที่ดีต่อระบบการผลิตไฟฟ้า เนื่องจากโรงไฟฟ้าถ่านหินหงสาจาก สปป.ลาวจะเริ่มเข้าระบบทำให้ต้นทุนต่ำลงเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง

ทั้งนี้ กฟผ.ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจกับสำนักงานใต้ร่มพระบารมีในโครงการ 87พรรษาสู่สังคมแห่งการแบ่งปัน โดยจะนำหญ้าสายพันธุ์ 4190 ซึ่งเกิดจากการผสมและคัดสายพันธุ์จากจีนที่นำหญ้าเนเปียร์ผสมกับไผ่และอ้อย ซึ่งทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดี โดยหญ้าพันธุ์นี้สามารถนำมาผลิตกระแสไฟฟ้าได้ทั้งระบบก๊าซชีวภาพและชีวมวล โดยเมื่อนำมาอัดเม็ดจะให้พลังงานสูงถึง 4,190 กิโลแคลอรีต่อกิโลกรัม มีค่าซัลเฟอร์ 0.10% ซึ่งทาง กฟผ.เตรียมพร้อมที่จะสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนผสมผสานทั้งระบบชีวภาพ ชีวมวล และพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 10 เมกะวัตต์ในพื้นที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะเพื่อรองรับการทดลองและส่งเสริมพลังงานทดแทน

“สำนักงานใต้ร่มพระบารมีในฐานะเจ้าของสิทธิบัตรหญ้าสายพันธุ์ 4190 จัดส่งมอบต้นพันธุ์ให้ กฟผ.เพื่อนำไปส่งเสริมให้กับชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดลองปลูกเพื่อนำมาเป็นเชื้อเพลิง โดยโครงการนี้เป็นหนึ่งในการดำเนินงานเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคม 2557” ผู้ว่าการ กฟผ.กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น