มีรายงานว่าอนุกรรมการค่าไฟฟ้าเอฟที กกพ. ประชุมในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) เบื้องต้นมีแนวโน้มจะตรึงค่าเอฟที งวดใหม่อัตราเดิมที่ 69 สตางค์ แม้ต้นทุนค่าไฟฟ้าจะเพิ่มสูงขึ้น โดยให้ กฟผ. แบกรับภาระบางส่วน โดยจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ กกพ.วันที่ 28 สิงหาคมนี้
ด้านนายสุนชัย คำนูญเศรษฐ์ ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า หากให้ กฟผ. ร่วมรับภาระก็พร้อม โดยคาดว่าจะใช้เม็ดเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ซึ่งต้นทุนค่าไฟภาพรวมไม่ได้มีปรับขึ้นมาก เนื่องจากทั้งราคาก๊าซธรรมชาติ และอัตราแลกเปลี่ยนไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ขณะที่การใช้ไฟฟ้าล่าสุดเริ่มปรับเพิ่มขึ้น โดยเดือนสิงหาคมปรับขึ้นประมาณร้อยละ 0.7 และจากนี้ไปความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นจะทำให้การใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจและทำให้ปี 2557 ความต้องการใช้ไฟฟ้าจะปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนค่าเอฟทีงวดแรกปี 2558 จะเป็อย่างไรขึ้นอยู่กับจะสามารถปล่อยน้ำจากเขื่อนได้มากน้อยขนาดไหน เนื่องจากขณะนี้น่าเป็นห่วงปริมาณน้ำค่อนข้างต่ำ
อย่างไรก็ตาม ปีหน้ามีปัจจัยที่ดีต่อระบบการผลิตไฟฟ้า เนื่องจากโรงไฟฟ้าถ่านหินหงสาจาก สปป.ลาวจะเริ่มเข้าระบบ ทำให้ต้นทุนต่ำลงเมื่อเปรียบเทียบกับ การใช้ก็าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง
ทั้งนี้ กฟผ.ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจกับสำนักงานใต้ร่มพระบารมีในโครงการ 87 พรรษาสู่สังคมแห่งความแบ่งบัน โดยจะนำหญ้าสายพันธุ์ 4190 ซึ่งเกิดจากการผสม และคัดสายพันธุ์จากจีนที่นำหญ้าเนเปียร์ผสมกับไผ่และอ้อย ซึ่งทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดี โดยหญ้าพันธุ์นี้สามาาถนำมาผลิตกระแสไฟฟ้าได้ทั้งระบบก๊าซชีวภาพและชีวมวล เมื่อนำมาอัดเม็ดจะให้พลังงานสูงถึง 4,190 กิโลแคลอรีต่อกิโลกรัม มีค่าซัลเฟอร์ร้อยละ 0.10 ซึ่งทาง กฟผ.เตรียมพร้อมที่จะสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนผสมผสานทั้งระบบชีวภาพ ชีวมวล และพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 10 เมกะวัตต์ในพื้นที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ เพื่อรองรับการทดลอง และส่งเสริมพลังงานทดแทน
ขณะที่สำนักงานใต้ร่มพระบารมีในฐานะเจ้าของสิทธิบัตรหญ้าสายพันธุ์ 4190 จัดส่งมอบต้นพันธุ์ให้ กฟผ. เพื่อนำไปส่งเสริมให้กับชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดลองปลูก เพื่อนำมาเป็นเชื้อเพลิง โดยโครงการนี้เป็นหนึ่งในการดำเนินงานเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคม 2557
ด้านนายสุนชัย คำนูญเศรษฐ์ ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า หากให้ กฟผ. ร่วมรับภาระก็พร้อม โดยคาดว่าจะใช้เม็ดเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ซึ่งต้นทุนค่าไฟภาพรวมไม่ได้มีปรับขึ้นมาก เนื่องจากทั้งราคาก๊าซธรรมชาติ และอัตราแลกเปลี่ยนไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ขณะที่การใช้ไฟฟ้าล่าสุดเริ่มปรับเพิ่มขึ้น โดยเดือนสิงหาคมปรับขึ้นประมาณร้อยละ 0.7 และจากนี้ไปความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นจะทำให้การใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจและทำให้ปี 2557 ความต้องการใช้ไฟฟ้าจะปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนค่าเอฟทีงวดแรกปี 2558 จะเป็อย่างไรขึ้นอยู่กับจะสามารถปล่อยน้ำจากเขื่อนได้มากน้อยขนาดไหน เนื่องจากขณะนี้น่าเป็นห่วงปริมาณน้ำค่อนข้างต่ำ
อย่างไรก็ตาม ปีหน้ามีปัจจัยที่ดีต่อระบบการผลิตไฟฟ้า เนื่องจากโรงไฟฟ้าถ่านหินหงสาจาก สปป.ลาวจะเริ่มเข้าระบบ ทำให้ต้นทุนต่ำลงเมื่อเปรียบเทียบกับ การใช้ก็าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง
ทั้งนี้ กฟผ.ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจกับสำนักงานใต้ร่มพระบารมีในโครงการ 87 พรรษาสู่สังคมแห่งความแบ่งบัน โดยจะนำหญ้าสายพันธุ์ 4190 ซึ่งเกิดจากการผสม และคัดสายพันธุ์จากจีนที่นำหญ้าเนเปียร์ผสมกับไผ่และอ้อย ซึ่งทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดี โดยหญ้าพันธุ์นี้สามาาถนำมาผลิตกระแสไฟฟ้าได้ทั้งระบบก๊าซชีวภาพและชีวมวล เมื่อนำมาอัดเม็ดจะให้พลังงานสูงถึง 4,190 กิโลแคลอรีต่อกิโลกรัม มีค่าซัลเฟอร์ร้อยละ 0.10 ซึ่งทาง กฟผ.เตรียมพร้อมที่จะสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนผสมผสานทั้งระบบชีวภาพ ชีวมวล และพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 10 เมกะวัตต์ในพื้นที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ เพื่อรองรับการทดลอง และส่งเสริมพลังงานทดแทน
ขณะที่สำนักงานใต้ร่มพระบารมีในฐานะเจ้าของสิทธิบัตรหญ้าสายพันธุ์ 4190 จัดส่งมอบต้นพันธุ์ให้ กฟผ. เพื่อนำไปส่งเสริมให้กับชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดลองปลูก เพื่อนำมาเป็นเชื้อเพลิง โดยโครงการนี้เป็นหนึ่งในการดำเนินงานเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคม 2557