xs
xsm
sm
md
lg

หอการค้าไทยชง “ประยุทธ์” เห็นชอบแผนแก้ปัญหาแรงงานทั้งระบบในเวที กรอ. นัดแรก 16 ก.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หอการค้าไทยเตรียมเสนอ “ประยุทธ์” เห็นชอบแผนแก้ปัญหาแรงงานทั้งระบบในเวทีประชุม กรอ.นัดแรก 16 ก.ค.นี้ เน้นทำแผนแก้ปัญหาระยะยาว 5-10 ปี และช่วยผู้ประกอบการเตรียมพร้อม แนะแรงงานประมงต้องจับขึ้นทะเบียนทั้งหมด เตรียมโรดโชว์แจงสหรัฐฯ หวังให้ข้อมูลปลด 5 สินค้าไทยพ้นบัญชีใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ มั่นใจอ้อยหลุดแน่

นายภูมินทร์ หะรินสุต รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า วันที่ 7 ก.ค.นี้ หอการค้าไทยจะนำข้อเสนอการแก้ปัญหาแรงงานทั้งระบบเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ก่อนที่จะนำผลการประชุมเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมครั้งแรก หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ในวันที่ 16 ก.ค. 2557 เพื่อพิจารณาเห็นชอบก่อนที่จะนำไปใช้แก้ปัญหาแรงงานทั้งระบบของบไทยทั้งในส่วนของแรงงานไทย แรงงานต่างด้าว และแรงงานประมง

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการแรงงานและทรัพยากรมนุษย์ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยต้องการให้มีแนวทางการแก้ไขปัญหาแรงงานระยะยาว 5-10 ปี เพื่อเตรียมความพร้อมของไทยในการส่งเสริมอุตสาหกรรม เนื่องจากปัญหาแรงงานจะมีความรุนแรงมาก ในอนาคตควรมีการสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการในการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจเพื่อให้มีการใช้แรงงานน้อยลง รวมทั้งต้องปรับปรุงและยกระดับระบบการศึกษาไทยในระดับอาชีวศึกษา เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการ และรณรงค์หน่วยงานต่างๆ เห็นความสำคัญของแรงงานต่อการเจริญเติบโตของธุรกิจ และให้หยุดการใช้แรงงานผิดกฎหมาย

ส่วนในด้านแรงงานประมง เอกชนเสนอให้มีการบังคับให้แรงงานประมงทั้งหมดต้องขึ้นทะเบียนแรงงานประมงให้ถูกต้องภายใต้ศูนย์ประสานแรงงานประมง พร้อมทั้งสนับสนุนให้มีการตรวจตราเรือประมงที่เข้าและออกจากฝั่ง เพื่อตรวจสอบการทำประมง และป้องปรามการใช้แรงงานบังคับและการค้ามนุษย์ และให้ดำเนินการส่งเสริมภาพลักษณ์เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้นำเข้าหรือผู้บริโภคสินค้าประมงของไทยในต่างประเทศ

ทั้งนี้ ในช่วงปลายเดือน ก.ค. 2557 ภาครัฐและภาคเอกชนไทยจะเดินทางไปพบกับสมาพันธ์ผู้นำเข้าอาหารทะเลของสหรัฐฯ เพื่อชี้แจงและยืนยันว่าไทยไม่ได้มีการใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับ เพื่อให้ยังคงมั่นใจในการทำการค้ากับไทยต่อไป รวมทั้งให้ใช้เป็นข้อมูลให้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ พิจารณาถอดถอนสินค้าไทยออกจากบัญชีรายชื่อสินค้าที่มีการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับซึ่งมีอยู่ 5 สินค้า ได้แก่ กุ้ง ปลา เครื่องนุ่งห่ม อ้อย และสื่อลามก โดยเบื้องต้นมั่นใจว่าอ้อยมีแนวโน้มจะถูกถอดถอนจากการขึ้นบัญชีดังกล่าวที่จะมีการประกาศในเดือน ก.ย.นี้แน่นอน เนื่องจากมีการพิสูจน์ทราบได้ชัดเจนที่สุด

อย่างไรก็ตาม เอกชนมั่นใจว่าปีหน้าไทยจะหลุดออกจากการจัดอันดับประเทศที่ล้มเหลวในการป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ หรือเทียร์ 3 แน่นอน เพราะในปีนี้ไทยได้มีการทำงานแก้ปัญหาเรื่องนี้กันหนักมาก และผลที่ประกาศออกมาในปีนี้เป็นการดูจากผลงานที่ทำในช่วงปีผ่านมา ดังนั้นการจัดอันดับในปีหน้าจึงมีความเป็นไปได้ที่ไทยจะมีสถานะดีขึ้น

นายพจน์กล่าวว่า ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการที่ไทยถูกลดอันดับมาอยู่ในเทียร์ 3 เชื่อว่าในเรื่องการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ที่จะประกาศในเดือน ก.ย.นี้จะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะสหรัฐฯ ไม่มีสิทธิตัดความช่วยเหลือที่เกี่ยวกับด้านการค้า แต่ถ้าถูกตัดคงเป็นกรณีอื่น และเชื่อว่าแม้ไทยจะไม่ได้จีเอสพีแล้วก็ไม่น่าจะมีผลกระทบมากนัก เพราะในปี 2556 ที่ผ่านมาสินค้าส่งออกของไทยที่ได้จีเอสพีสหรัฐฯ มีมูลค่ารวม 4,574 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ผู้ประกอบการไทยมีการใช้สิทธิเพียงแค่ 45.63 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเพียง 1% เท่านั้น

สำหรับมูลค่าการส่งออกสินค้ากลุ่มที่อยู่ในกลุ่มบัญชีรายชื่อสินค้าที่มีเหตุผลให้เชื่อว่าผลิตโดยการใช้แรงงานเด็กหรือแรงงานบังคับ ในปี 2556 มีมูลค่าส่งออกรวม 7.44 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มปลา 2,078.8 ล้านบาท ปลาทูน่า 1.55 หมื่นล้านบาท กุ้ง 2.56 หมื่นล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม 3.07หมื่นล้านบาท และอ้อย 425 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น