“พาณิชย์” เผยจีนปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่ แนะไทยใช้โอกาสดันสินค้า-บริการ-ลงทุนบุกตลาด

“พาณิชย์” เผยจีนปฏิรูปนโยบายเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในทุกๆ ด้าน หันมาให้ความสำคัญต่อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เน้นธุรกิจบริการ ค้าขายออนไลน์ ลุยลงทุนต่างประเทศ แนะธุรกิจไทยเรียนรู้ พร้อมใช้โอกาสส่งสินค้าบริการไทยยึดตลาดอาตี๋ ยัยหมวย และร่วมทุนทำธุรกิจกับจีน

นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้จีนได้มีการปรับนโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หลังจากที่ได้มีการปฏิรูปเศรษฐกิจตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมาเพื่อเข้าสู่เศรษฐกิจระบบตลาดสังคมนิยม โดยได้มีการปฏิรูปรอบด้านปล่อยให้กลไกตลาดมีบทบาทมากขึ้น ซึ่งการปรับนโยบายในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับภาคเอกชนไทยที่จะมีโอกาสในการบุกเจาะตลาดจีนได้เพิ่มมากขึ้น ทั้งในด้านการค้า การลงทุน และการค้าบริการ

ทั้งนี้ ด้านสินค้า จีนให้ความสำคัญต่อสินค้าที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นโอกาสสำหรับสินค้าอาหาร สินค้าเกษตรอินทรีย์ และสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สินค้าสุขภาพ สินค้าที่มีความสร้างสรรค์ และสินค้านวัตกรรมของไทย โดยไทยต้องให้ความสำคัญต่อการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ใส่ความเป็นไทยเข้าไปในตัวสินค้า และทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่น ซึ่งจะทำให้สินค้าไทยเจาะตลาดจีนได้เพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน จีนได้ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมธุรกิจบริการ ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจบริการที่มีศักยภาพของไทย เช่น ร้านอาหาร บริการสุขภาพและความงาม และการดูแลเด็กและผู้สูงอายุ

นางศรีรัตน์กล่าวว่า ปัจจุบันการค้าขายผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อี-คอมเมิร์ซ) ในจีนมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น และนโยบายของจีนเองก็ให้ความสำคัญในการส่งเสริมเรื่องนี้ จึงเป็นโอกาสสำหรับไทยที่จะเจาะตลาดค้าขายผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งในส่วนของกระทรวงฯ ได้มีการส่งเสริมให้มีการค้าขายผ่านเว็บไซต์ www.thaitrade.com โดยจีนถือเป็นตลาดหนึ่งที่เป็นผู้ซื้อรายสำคัญ แต่ผู้ประกอบการจะต้องมีการพัฒนาระบบการค้าออนไลน์รับรอง ทั้งความน่าเชื่อถือของสินค้า การชำระเงิน และการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ

สำหรับด้านการลงทุน จีนมีนโยบายให้นักลงทุนจีนออกไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนไทยที่จะสร้างเครือข่ายหรือร่วมทุนกับธุรกิจจีนในธุรกิจด้านต่างๆ และยังมีนโยบายในการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมในภูมิภาค ทั้งถนน รางรถไฟ รวมทั้งทางทะเล โดยเฉพาะโครงการเส้นทางสายไหมทางทะเลที่จีนให้ความสำคัญ หากไทยมีการวางแผนและศึกษาให้ดีก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากจีนได้

นอกจากนี้ จีนยังให้ความสำคัญต่อการพัฒนาพื้นที่ตอนใต้และฝั่งตะวันตก ทำให้พื้นที่ด้านนี้จะมีการพัฒนาและขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสที่ไทยจะผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการ แต่จะต้องมีการศึกษาความต้องการของตลาด และกฎระเบียบต่างๆ ด้วย เพราะแต่ละมณฑลอาจจะมีระเบียบที่ไม่เหมือนรัฐบาลกลาง

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการค้าขายเพิ่มมากขึ้น ธุรกิจการเงินของไทยจะต้องเตรียมความพร้อมในการทำธุรกรรมเงินหยวนให้มากขึ้น โดยเฉพาะการบริการชำระเงินระหว่างประเทศเป็นสกุลเงินหยวน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและขั้นตอนด้านอัตราแลกเปลี่ยน และสามารถโอนเงินได้ภายในหนึ่งวัน และตรวจสอบสถานการณ์ชำระเงินได้ตลอดเวลา

นางศรีรัตน์ กล่าวว่า “ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ของไทยที่ประจำอยู่ในจีนติดตามนโยบายทางเศรษฐกิจของจีนอย่างใกล้ชิด เพราะจีนเป็นตลาดที่สำคัญของไทย แม้ยอดส่งออกในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาจะชะลอตัวลง แต่เชื่อว่าการส่งออกไปจีนยังมีโอกาสขยายตัวได้เพิ่มขึ้น โดยกระทรวงฯ จะให้ความสำคัญต่อตลาดจีนเป็นพิเศษ ทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออก และเพิ่มคนในการดูแลตลาดจีน”