xs
xsm
sm
md
lg

สภาวัฒนธรรมไทย-จีนและคณะอุปทูตจีน ชื่มชมโครงการป่าชายเลนปากน้ำประแส เมืองท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ระยอง - สภาวัฒนธรรมไทย-จีน พาคณะอุปทูตประจำประเทศไทย เยี่ยมชมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมผลไม้ และจิวเวลรี จ.จันทบุรี ขากลับแวะสักการะศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านชาวปากน้ำประแส เยี่ยมชมโครงการป่าชายเลนปากน้ำประแส จ.ระยอง

ค่ำวันนี้ (6 มิ.ย.) ที่ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ต.ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ พร้อมคณะกรรมการสภาฯ นายบัณฑิต ศิริตันหยง อุปนายกสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และอุปทูตจาง อี้ หมิง อุปทูตประจำประเทศไทย นายเกา เหวิน ควร ทูตพาณิชย์ประจำประเทศไทย และนายหยาง ซื่อ เชาว์ ทูตการเมืองการปกครองและคณะ เดินทางมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และได้ปลูกต้นไม้ไว้เป็นที่ระลึก เยี่ยมชมโครงการป่าชายเลน

โดยมีนายพรศักดิ์ เทพาพรสุวรรณ์ อดีตอธิบดีอัยการภาค 2 นายบรรพต เอื้อตระกูล ส.อบจ.ระยอง เขต อ.แกลง นางกนกวรรณ เบญจาทิกุล ส.อบจ.เขต อ.แกลง นางประชิด ชินราช ประธานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดระยอง นายวิเชียร แสงวงศ์กิจ นายกสมาคมอุตสาหกรรมไม้ยางพาราภาคตะวันออก และนายไชยรัตน์ เอื้อตระกูล นายกเทศมนตรีตำบลปากน้ำประแส ให้การต้อนรับ

โดยเทศบาลตำบลปากน้ำประแส ได้จัดรถสามล้อให้คณะอุปทูตนั่งเยี่ยมชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมงพื้นบ้าน จากนั้นได้นั่งรถสามล้อเดินทางมาปลูกป่าชายเลน และเยี่ยมชมโครงการปลูกป่าชายเลนของเทศบาลตำบลปากน้ำประแส และร่วมรับประทานอาหารซีฟูดริมทะเลบริเวณเรือหลวงประแส

นายไชยรัตน์ เอื้อตระกูล นายกเทศมนตรีตำบลปากน้ำประแส กล่าวว่า เทศบาลตำบลปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง มีพื้นที่ 4.866 ตารางกิโลเมตร มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทางศิลปวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น และทางประวัติศาสตร์ที่มีอัตลักษณ์ของตนเอง โดยเฉพาะมีงานประเพณีทอดผ้าป่ากลางน้ำ ซึ่งเป็นประเพณีเก่าแก่มานานกว่าร้อยปี มีพื้นที่ป่าชายเลนที่สวยงาม มีภูมิประเทศที่มีแม่น้ำประแสไหลผ่าน ออกทะเลอ่าวไทย

มีชุมชนเก่าแก่ที่มีชาวจีนอาศัยอยู่ติดริมแม่น้ำประแส คณะผู้บริหารจึงได้กำหนดนโยบายในการบริหารด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 เป็นต้นมา โดยมีกระบวนการบริหาร ให้ชุมชนต่างๆ ทั้งชาวจีน ชาวไทย ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างการท่องเที่ยว ทำให้ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง

ซึ่งความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากการสนับสนุนของสภาวัฒนธรรมไทย-จีน โดยนายบัณฑิต ศิริตันหยง อุปนายกสภาวัฒนธรรมไทย-จีน ที่ให้การสนับสนุน ประสานงานด้านงบประมาณ ด้านความสัมพันธไมตรี ด้านการประชาสัมพันธ์ ด้านข้อมูลข่าวสาร เป็นผู้ให้การสนับสนุน ดูแล อย่างต่อเนื่องตลอดมา ทำให้ปากน้ำประแสเป็นที่รู้จักทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ

หลังจากนี้ ถือว่าชาวปากน้ำประแส รวมทั้งชาวจังหวัดระยอง จะเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่น่าสนใจ พร้อมทั้งได้มีโอกาสต้อนรับคณะท่านอุปทูตจาง อี้ หมิง อุปทูตประจำประเทศไทย ท่านเกา เหวิน ควร ทูตพาณิชย์ประจำประเทศไทย ท่านหยาง ซื่อ เชาว์ ทูตการเมืองการปกครองและคณะ ซึ่งถือเป็นเกียรติอย่างสูงยิ่งที่ได้มาเยือนชาวปากน้ำประแส

มาไหว้ศาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านชาวประมงปากน้ำประแส เยี่ยมชมโครงการปลูกป่าชายเลน เยี่ยมชมชุมชนเก่าแก่ชาวจีนถนนริมแม่น้ำประแส ล้วนแล้วแต่จะทำให้ชาวปากน้ำประแส รวมทั้งชาวจังหวัดระยอง มีกำลังใจในการที่จะช่วยกันอนุรักษ์ทั้งประเพณีวัฒนธรรมอันเก่าแก่ และมีความสามัคคีปรองดองกันอย่างแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นทั้งชาวไทย-จีน

ด้าน นายบัณฑิต ศิริตันหยง อุปนายกสภาวัฒนธรรมไทย-จีน กล่าวว่า วันนี้ได้พาคณะอุปทูตประจำประเทศไทย ทูตพาณิชย์ประจำประเทศไทย ทูตการเมืองการปกครอง มาดูธุรกิจเรื่องผลไม้ และจิวเวลรีในจังหวัดจันทบุรี โดยเน้นเรื่องผลไม้เป็นหลัก และไปดูคุณภาพผลไม้ การแพกเกจกิ้งของผลไม้ที่จะส่งออกไปยังประเทศจีน ส่งไปแล้วทำอย่างไร ถึงไม่ให้ตีกลับมาประเทศไทยอีก ราคาสมเหตุสมผลหรือไม่ จากการตรวจสอบแล้วชาวสวนมีรายได้เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดโตขึ้นในปีนี้

ซึ่งทางสมาคมฯ จะมองอย่างไรให้ธุรกิจนั้นโตเพิ่มขึ้น ทั้งมีคุณภาพ และมีราคาสูงขึ้นมากกว่านี้ ซึ่งหลังจากกลับไปแล้วจะได้มีการวางแผนร่วมกันไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียโอกาส ชาวสวนต้องมีรายได้มากกว่าเดิม และคุณภาพต้องดี มีผลไม้พอเพียงต่อการส่งออก ผู้บริโภคที่อยู่ในประเทศจีนต้องได้รับผลไม้ที่ดีมีคุณภาพ และราคาไม่สูงมากนัก ซึ่งทางสมาคมฯ นั้นได้มองระยะยาวถึงเรื่องการค้า การขาย การลงทุนพืชผลทางการเกษตร หรือจิวเวลรี ซึ่งนักลงทุนจีนได้มาซื้อจิวเวลรี ที่จังหวัดจันทบุรี ก็ขอให้เป็นไปอย่างฉันมิตรไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน

ส่วนลู่ทางในการลงทุนธุรกิจในภาคตะวันออกเร็วๆ นี้ได้มีตัวเลขมากขึ้น ตัวเลขมากกว่า 2.5 เท่า ซึ่งต้องกลับไปปรับปรุง และเจรจากับทางรัฐบาลเพราะตัวเลขยังน้อยลงอยู่ ซึ่งปัญหาภายในประเทศไทยนั้นชาวจีนเข้าใจอยู่ ธุรกิจก็ยังคงเดินหน้าต่อไป คาดหวังว่าชาวจีนในปีหน้าจะมีธุรกิจร่วมกับคนไทยมากขึ้น



กำลังโหลดความคิดเห็น