ปตท.หั่นงบลงทุนปีนี้จาก 8.69 หมื่นล้านบาท เหลือ 6 หมื่นล้านบาทหลังเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้หลายโครงการดีเลย์ออกไป โดยเฉพาะโครงการวางท่อเส้น 4 ติดปัญหาผู้รับเหมาขาดสภาพคล่อง ยอมรับการลงทุนในประเทศช่วงนี้ทำได้ยาก เหตุไม่มีรัฐบาล
นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.ได้ปรับลดเป้างบลงทุนในปีนี้จาก 8.69 หมื่นล้านบาท เหลือ 6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีหลายโครงการได้ล่าช้าออกไป อาทิ โครงการลงทุนวางท่อก๊าซฯ เส้นที่ 4 (วังน้อย-นครสวรรค์) มีปัญหาผู้รับเหมาขาดสภาพคล่อง ทำให้ล่าช้ากว่าแผน ส่งผลต่อปั๊ม NGV ตามแนวท่อ ขณะที่บางโครงการก็ยังเดินหน้าไปตามปกติ เช่น โครงการเพิ่มแรงดันก๊าซฯในทะเล โครงการซอติกาที่พม่า คาดว่าจะจ่ายก๊าซฯ เข้าไทยได้ปลายเดือน เม.ย.นี้ ส่วนโครงการถ่านหินในอินโดนีเซียก็มีการปรับปรุงลดต้นทุนการผลิตในช่วงที่ราคาถ่านหินตกต่ำ
ซึ่งการปรับการลงทุนดังกล่าวเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ โดยช่วงไตรมาส 2 นี้เป็นไตรมาสที่ต้องระมัดระวัง และโอกาสการลงทุนเพิ่มเติมในประเทศก็เป็นไปได้ยาก เนื่องจากไม่มีรัฐบาลใหม่ ทำให้มีข้อจำกัดมากในการลงทุน และปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ เชื่อว่าหากมีรัฐบาลใหม่เต็มรูปแบบจะทำให้สามารถแก้ปัญหาภายในประเทศได้ รวมถึงการฟื้นตัวเศรษฐกิจในประเทศทำให้การใช้พลังงานดีขึ้นตามไปด้วย
“ปตท.จะพิจารณาโอกาสฟื้นตัวทางเศรษฐกิจว่ามีมากน้อยแค่ไหนในปีนี้ เนื่องจากกำลังเข้าสู่โลว์ซีซันในช่วงไตรมาส 2-3 นี้ และไตรมาส 4 จะกลับมา Pick Up ได้หรือไม่ หลังจากพลาดมาแล้วช่วงตรุษจีน ทำให้นักท่องเที่ยวหดหายไป”
นายสุรงค์กล่าวต่อไปว่า ปตท.วางกลยุทธ์ในปีนี้ไม่เน้นเรื่องการเติบโต แต่จะเน้นเรื่องความแข็งแกร่ง โดยจะมุ่งเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพ และผลตอบแทนการลงทุน โดยมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย โครงการไบโอเบส โครงการกรีน ปิโตรเคมี รวมทั้งนิคมฯ เอเชียที่ระยองด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสแรกนี้ความต้องการใช้ก๊าซฯ หดตัวลงอย่างเด่นชัดประมาณ 300-400 ล้าน ลบ.ฟ./วัน เนื่องจากภาวะอากาศที่หนาวเย็น แต่ช่วงนี้ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้มีการใช้ก๊าซฯ มากขึ้นตามไปด้วยเนื่องจากอากาศร้อน
สำหรับแหล่งเงินทุนในปีนี้บริษัทมีเงินสดในมือ 5-6 หมี่นล้านบาท เพียงพอต่อการลงทุน ซึ่งปีนี้ไม่มีแผนที่จะออกหุ้นกู้ในต่างประเทศหลังจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศขึ้นแต่ดอกเบี้ยในประเทศลดลง แต่จะออกหุ้นกู้ในประเทศวงเงิน 2 หมื่นล้านบาทในช่วงไตรมาส 2 หรือไตรมาส 3 นี้เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนด
ปัจจุบัน ปตท.มีหนี้เงินกู้รวม 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 4.6% แม้ว่าหุ้นกู้ล็อตใหม่ที่ออกจะมีอัตราดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง แต่ก็คงไม่มีผลต่อต้นทุนทางการเงินเฉลี่ย ให้ต่ำลงมากนักเนื่องจากพอร์ตหุ้นกู้ ปตท.ใหญ่
ทั้งนี้ ปตท.ได้วางแผนการลงทุน 5 ปี (2557-2561) วงเงินรวม 3.26 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนธุรกิจก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นธุรกิจหลัก ปตท. อาทิ โครงการท่อส่งก๊าซฯ และขยายความสามารถในการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เพื่อรองรับความต้องการใช้ก๊าซฯ ที่เพิ่มขึ้น โดยปีนี้กำหนดงบลงทุน 8.69 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 2.99 หมื่นล้านบาท ธุรกิจน้ำมันและค้าระหว่างประเทศ 1.17 หมื่นล้านบาท ธุรกิจแผนร่วมทุนและการลงทุนบริษัทลูก 3.84 หมื่นล้านบาท สำนักงานใหญ่และอื่นๆ 6.88 พันล้านบาท
สำหรับปีถัดไปใช้เงินลงทุน 5.29 หมื่นล้านบาท ปี 2559 อีก 5.89 หมื่นล้านบาท ปี 2560 ประมาณ 6.07 หมื่นล้านบาท ปี 2561 ประมาณ 6.70 หมื่นล้านบาท
