xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.ชะลอ “ปิโตรฯ ที่เวียดนาม” หั่นขนาดโรงกลั่นลดเงินลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปตท.ชะลอส่งรายงานผลศึกษาโครงการโรงกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมีที่เวียดนาม รอบอร์ดปตท.เห็นชอบ และปัญหาภายในประเทศยังไม่นิ่ง เผยหั่นขนาดโปรเจ็กต์ลงเหลือ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิม 2.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยหดกำลังผลิตโรงกลั่นและปิโตรเคมีลงเพื่อให้สอดคล้องกับตลาดในเวียดนามและส่งออก

แหล่งข่าวจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ปตท.ได้ศึกษารายละเอียดความเป็นไปได้ของโครงการโรงกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ที่เมืองบินห์ดินห์ เวียดนามแล้วเสร็จเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา แต่คงต้องชะลอการส่งแผนศึกษาดังกล่าวให้กับรัฐบาลเวียดนาม เนื่องจากต้องให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ปตท.รับทราบก่อน ซึ่งไม่มั่นใจว่าจะเข้าสู่วาระการประชุมบอร์ดในเดือนนี้หรือไม่ เพราะไม่ใช่โครงการเร่งด่วน รวมทั้งการเมืองในไทยและข้อพิพาทระหว่างเวียดนามกับจีนช่วงนี้ ทำให้โครงการดังกล่าวมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ปตท.จะปรับลดขนาดโครงการลงทุนดังกล่าวลงจากเดิม 2.87 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เหลือ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยลดขนาดโรงกลั่นน้ำมันจากเดิม 6.6 แสนบาร์เรล/วัน เหลือเพียง 4 แสนบาร์เรล/วัน และมีการปรับลดโครงการปิโตรเคมีลงด้วยเพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุดิบที่ได้จากโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งเดิมโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่เวียดนาม จะมีโรงงานโอเลฟินส์ 6.5 ล้านตัน/ปี โรงงานอะโรเมติกส์ 3.7 ล้านตัน/ปี

สาเหตุที่ต้องลดขนาดโครงการดังกล่าวลง เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการใช้ปิโตรเคมีภายในประเทศเวียดนาม และตลาดส่งออกในอนาคต ส่วนการหาพันธมิตรร่วมทุนก็มองกลุ่มตะวันออกกลางที่สามารถจัดหาน้ำมันดิบป้อนการลงทุน รวมถึงกลุ่มเทรดเดอร์ กลุ่มเทคโนโลยี เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ซึ่งจะสามารถนำเงินมาร่วมลงทุนได้ด้วย แต่เบื้องต้นยังไม่มีข้อสรุปเรื่องดังกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า โครงการโรงกลั่นน้ำมัน และปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์เป็นโครงการขนาดใหญ่และใช้เงินลงทุนมาก ทำให้การพิจารณาตัดสินใจต้องรอบคอบ และต้องมองหาพันธมิตรร่วมทุนเข้ามาสนับสนุนด้วย โดยยอมรับว่าโครงการดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากรัฐบาลเวียดนาม เพื่อให้ผลตอบแทนการลงทุนคุ้มค่าการลงทุน แต่ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ทำให้ผลตอบแทนการลงทุนไม่เป็นไปตามที่ศึกษาไว้ และมีผลทำให้โครงการเกิดขึ้นได้ยาก

แม้ว่าโครงการโรงกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่เวียดนามชะลอไปบ้าง แต่กลุ่ม ปตท.ก็ยังมีแผนการลงทุนโครงการในต่างประเทศของ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ที่ทำสัญญาร่วมทุนกับเปอร์ตามิน่า ผุดโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่อินโดนีเซีย เบื้องต้นจะใช้เงินลงทุน 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อผลิตเม็ดพลาสติกเกรดทั่วไปใช้ภายในประเทศ เนื่องจากอินโดนีเซียมีกำลังการผลิตไม่เพียงพอทำให้ต้องนำเข้าเม็ดพลาสติกจากต่างประเทศ

โดยโครงการดังกล่าวอาจจำเป็นต้องสร้างโรงกลั่นน้ำมันใหม่ขึ้นเพื่อป้อนวัตถุดิบให้ด้วย ซึ่งเป็นโอกาสที่บริษัท ไทยออยล์ ในเครือ ปตท.จะเป็นผู้ร่วมลงทุน เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันในอินโดนีเซียเป็นโรงกลั่นเก่าและมีกำลังการกลั่นไม่เพียงพอ โดยไทยออยล์และPTTGC ได้ทำการศึกษาร่วมกันอยู่ ทำให้แนวโน้มโครงการดังกล่าวจะเดินหน้าเร็วกว่าโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่เวียดนาม
กำลังโหลดความคิดเห็น