“ผู้บัญชาการทหารบก” เข้าสโมสรทหารบกพร้อมบิ๊กเหล่าทัพ แจงประกาศกฎอัยการศึก ท่ามกลางข้าราชการระดับสูงพร้อมหน้าเพียบ “ธาริต-ธงทอง-พงศพัศ” เลขาฯ กกต.ก็มา บอกขออภัยใช้คำรายงานตัว อ้างพูดผิดแค่เรียกประชุม ยันทหาร-ตำรวจเป็นหนึ่งเดียว
วันนี้ (20 พ.ค.) ที่สโมสรทหารบก เมื่อเวลา 14.05 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) พร้อมด้วย พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด (รอง ผบ.สส.) และพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เดินทางมายังสโมสรทหารบก เพื่อเข้าร่วมประชุมกับปลัดกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรเอกชน อธิการบดีมหาวิทยาลัย และผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆในการชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับการประกาศกฎอัยการศึก รวมทั้งแนวทางแสวงหาทางออกของปัญหาภายในประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างเดินทางมาถึง พล.อ.ประยุทธ์พร้อมผู้นำเหล่าทัพได้โดยสายมาในรถประจำตำแหน่งคนละคัน และในช่วงระหว่างจะเดินเข้าสโมสรกองทัพบกนั้น พล.อ.ประยุทธ์ซึ่งมีสีหน้าเรียบเฉยได้ให้คณะหยุดคอย พล.ต.อ.อดุลย์ ซึ่งรถจอดอยู่ท้ายสุด เพื่อเดินเข้าตัวอาคารพร้อมกัน
ทั้งนี้ ก่อนเวลานัดหมายได้มีหัวหน้าหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง เช่น นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พล.ร.อ.พลวัตร สิโรดม รองปลัดกระทรวงกลาโหม นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายภุชงค์ นุตาวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสุวิจักข์ นาควัชระ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พล.อ.อ.ธเนศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมและการสื่อสารแห่งชาติ (กสทช.) นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) นายเสข วรรณเมธี รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และ พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ รอง ผบ.ตร.เป็นต้น
ทันที่เข้าห้องประชุม พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวแสดงความขอบคุณบรรดาหัวหน้าหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือ และกล่าวขออภัยในที่ประชุม ที่มีการสื่อสารผิดพลาดว่าให้เข้ารายงานตัว แต่ความจริงคือเรียกให้มาประชุม และพูดคุยทำความเข้าใจถึงแนวทางการทำงานภายใต้กฎอัยการศึก เพราะบ้านเมืองขณะนี้อยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงเกิดความรุนแรง พร้อมเปิดเผยด้วยว่าก่อนหน้านี้ได้มีการหารือเป็นการภายในระหว่างผู้บัญชาการเหล่าทัพ ที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ อีกทั้งยังยืนยันว่าเจ้าหน้าตำรวจและทหารเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก่อนเชิญผู้สื่อข่าวออกจากห้องประชุม
ทั้งนี้จะมีการแถลงข่าวให้สื่อมวลชนรับทราบภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยได้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหารจำนวน 300 นาย โดยมีอาวุธครบมือยืนประจำจุดต่างๆ ในพื้นที่โดยรอบบริเวณอาคารสโมสรทหารบก ทั้งด้านในและนอกตัวอาคารเพื่อป้องกันเหตุอย่างเข้มงวด