xs
xsm
sm
md
lg

ดัชนีเชื่อมั่นพุ่งสูงสุดในรอบ 14 เดือน เหตุคนไทยมั่นใจเศรษฐกิจ-การเมือง หลัง คสช.เข้ามา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคพุ่งขึ้นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน เหตุคนมั่นใจเศรษฐกิจและการเมืองมีเสถียรภาพ หลัง คสช.เข้ามาบริหารงาน คาดมีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค. 2557 เท่ากับ 70.7 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือน เม.ย.ที่อยู่ระดับ 67.8 เป็นการปรับเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน และเป็นค่าดัชนีที่สูงสุดในรอบ 4 เดือน นับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2557 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันเท่ากับ 54.7 เพิ่มจาก 53.9 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคตเท่ากับ 75.8 เพิ่มจากระดับ 73.4 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมเท่ากับ 60.7 เพิ่มจาก 58.7 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำเท่ากับ 64.2 เพิ่มจาก 62.9 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต เท่ากับ 87.1 เพิ่มจาก 84.9

สาเหตุที่ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นสูงขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคมีความมั่นใจในเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารงาน รวมทั้งมีการอนุมัติจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวให้แก่ชาวนา ส่งผลให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ อีกทั้งราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศที่มีการปรับตัวลดลง และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย

ทั้งนี้ ดัชนีความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง เท่ากับ 59.6 ปรับขึ้นจากเดือน เม.ย.ที่ระดับ 37.3 สูงสุดในรอบ 8 เดือน นับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2556

นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองคณบดีฝ่ายวิจัยและผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในขณะนี้มีสัญญาณอยู่ในช่วงขาขึ้น และคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เดือน มิ.ย.เป็นต้นไป โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลบอลโลกที่จะถึงนี้จะเป็นตัวเช็กความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เพราะหากมีการจับจ่ายใช้สอยคึกคักก็จะเป็นแรงหนุนเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังให้ขยายตัวดีขึ้น

สำหรับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ หลังจากมีความชัดเจนในเรื่องการเมืองเชื่อว่า เศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ หลังจาก คสช.ได้มีการจัดทำโรดแมปทางเศรษฐกิจออกมา เริ่มจากการเร่งจ่ายเงินจำนำข้าวให้ชาวนา การช่วยเหลือด้านสินเชื่อให้ผู้ประกอบการ การมีแนวทางในการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง ซึ่งล้วนแต่จะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย โดยมั่นใจว่ามีโอกาสที่จะโตได้ 2-3% โดยจะมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจอีกครั้งวันที่ 19 มิ.ย.นี้

ส่วนการตรึงราคาน้ำมันดีเซล ก๊าซแอลพีจี และโครงการธงฟ้าต่อ มองว่าเป็นเรื่องที่ควรทำในระยะสั้น 3-6 เดือน เพื่อดูแลภาระค่าครองชีพให้ประชาชน ซึ่งจะเพิ่มความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค เนื่องจากทำให้มีความรู้สึกว่ามีเงินเหลือในกระเป๋ามากขึ้น เพราะค่าใช้จ่ายไม่สูงขึ้น แต่หลังจากนี้ควรจะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด และ คสช.จะต้องรักษาสมดุลของความเชื่อมั่นให้ดีขึ้น ซึ่งตามแผนโรดแมปด้านเศรษฐกิจทั้ง 10 ข้อของ คสช.สามารถเคลื่อนได้เร็วก็จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น