xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนหนุนกฎอัยการศึก แอบมีลุ้นเปิดทางการเมืองจบเร็ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวัลลภ วิตนากร
ภาคเอกชนหนุนประกาศกฎอัยการศึกเพื่อป้องกันการปะทะนองเลือกเช่นอดีต แม้ระยะสั้นอาจกระทบต่อตลาดเงินและตลาดทุนโดยเฉพาะหุ้นให้ผันผวนได้ แต่เป็นผลดีในระยะกลางที่จะเปิดทางให้ทุกฝ่ายหันมาหาทางออกให้ประเทศ หวังนำไปสู่การมีรัฐบาลอำนาจเต็ม ยุติขัดแย้งทุกฝ่าย

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีการประกาศพระราชบัญญัติกฎอัยการศึกและจัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบ (กอ.รส.) เพื่อทำหน้าที่ดูแลความสงบของประเทศในขณะนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีและจะช่วยให้การชุมนุมทางการเมืองของทุกฝ่ายไม่นำไปสู่ความรุนแรงเช่นอดีตที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามต้องการให้ปัญหาทางการเมืองนำไปสู่ความสงบโดยเร็ว และหากเมื่อสงบแล้วก็ต้องการให้มีการยกเลิกกฎอัยการศึกทันที เพราะหากใช้ไประยะนานอาจมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ

“การดำเนินงานครั้งนี้ก็ทำให้คนไทยไม่ต้องเผชิญหน้าและเกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แต่ถ้าหากแนวทางนี้นำไปสู่ความสงบประเทศชาติแล้วก็ควรจะยกเลิกทันที ส่วนการประกาศกฎอัยการศึกแล้วจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาทางการเมืองหรือไม่ก็ไม่สามารถจะตอบได้ แต่เอกชนคาดหวังว่าจะนำไปสู่การเจรจาและลดความขัดแย้งของทุกฝ่ายเพื่อก้าวไปข้างหน้าให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป” นายวัลลภกล่าว

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า การประกาศกฎอัยการศึกเป็นเรื่องที่ดี เพื่อคลี่คลายการเมืองที่กำลังเดินหน้าใกล้ถึงทางตัน และอาจเกิดความรุนแรง การเผชิญหน้าระหว่างคู่ขัดแย้ง ทั้ง กปปส. และ นปช. และเห็นว่าควรจะมีความชัดเจนว่าประเทศจะเดินไปทางไหนภายใน 1 สัปดาห์

สำหรับผลกระทบด้านเศรษฐกิจ เชื่อว่าวันนี้จะมีผลต่อตลาดหุ้น ส่วนผลด้านอื่นๆ ไม่น่าได้รับผลกระทบไปมากกว่านี้แล้ว แต่หากคลี่คลายได้เร็วน่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจมากกว่า
นายธนวรรธน์ พลวิชัย
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า หากไม่มีกฎอัยการศึกอาจสุ่มเสี่ยงให้เกิดการใช้กำลังและความรุนแรงซึ่งจะมีผลในเชิงลบต่อเศรษฐกิจที่จะแย่ไปกว่านี้ ดังนั้นส่วนนี้ก็จะผ่านพ้นไปได้แต่ก็คงจะกระทบต่อจิตวิทยาของนักลงทุนในตลาดเงินและตลาดทุน โดยเฉพาะหุ้นอาจผันผวนมากกว่าเพราะนักลงทุนต่างชาติอาจจะไม่เข้าใจในเรื่องดังกล่าวอย่างชัดเจนนัก

สำหรับระยะกลางน่าจะเป็นผลในเชิงบวกเนื่องจากไม่ได้กระทบต่อการดำรงชีวิตและธุรกิจของประชาชนในประเทศ และปัญหาการเมืองน่าจะมีโอกาสลุ้นจบเร็วสามารถมีรัฐบาลตัวจริงที่มีอำนาจเต็มที่เร็วขึ้น แต่จะต้องติดตามคือ 1. การชุมนุมของ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเสื้อแดง และคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. จะเคลื่อนไหวไปในทางใด 2. การเดินหน้าแก้ไขปัญหาว่าที่สุดจะเดินไปในแนวทางการตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลางตามข้อเสนอสมาชิกวุฒิสภา หรือการเดินหน้าเลือกตั้งต่อไปตามข้อเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.


กำลังโหลดความคิดเห็น