xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนรับได้หาก กนง.คงดอกเบี้ย 2% ชี้เก็บกระสุนไว้ใช้ยามจำเป็น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายธนวรรธน์ พลวิชัย
ภาคเอกชนประสานเสียงหนุน “กบง.” คงดอกเบี้ย 2% ไร้ปัญหาเหตุปัจจัยเสี่ยงขณะนี้คือการเมืองมากสุดแม้ลดลงไปก็ช่วยไม่ได้มาก แนะให้เก็บกระสุนไว้ใช้ยามจำเป็นจริงๆ มองโอกาสการเมืองยืดเยื้ออาจฉุดเศรษฐกิจในระยะยาวได้ต่อ แถมอัตราดังกล่าวยังสอดคล้องกับภาวะเงินเฟ้อ

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.วันที่ 23 เม.ย.นี้ เอกชนคาดว่า กนง.คงจะตัดสินใจคงดอกเบี้ยนโยบายระดับ 2% ต่อไป ซึ่งอัตราดังกล่าวก็ยังถือว่าไม่ได้สูงเกินไปนักสำหรับภาคธุรกิจ และประกอบกับขณะนี้ปัจจัยการเมืองยังคงไม่มีทิศทางชัดเจนทำให้แม้จะมีการลดดอกเบี้ยลงช่วงนี้ก็อาจไม่ได้เกิดประโยชน์มากนักจึงควรเก็บเอาไว้ใช้ช่วงที่สัญญาณเศรษฐกิจทรุดตัวจริงๆ

“ผมคิดว่า กนง.คงจะต้องรอประเมินสถานการณ์ทางการเมืองก่อน ซึ่งเชื่อว่าหากยังคงไม่มีความชัดเจนอะไรและทำให้เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศมันมีสัญญาณแย่จริงๆ คิดว่าระยะต่อไป กนง.คงจะต้องลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเอกชนก็หวังว่าการเมืองจะจบเร็ว อยากให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาเจรจากันเพราะไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจประเทศไทยจะลำบากในปีนี้” นายวัลลภกล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันจากสินค้าและบริการที่มียอดจำหน่ายที่ลดลงเนื่องจากการบริโภคภายในประเทศชะลอตัวทำให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) กำลังประสบปัญหาการขาดสภาพคล่อง สถาบันการเงินมีความเข้มงวดมากขึ้นแม้ว่าจะพยายามสอบถามลูกค้าใกล้ชิดมากขี้นก็ตามแต่ส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถเพิ่มวงเงินสินเชื่อให้ได้เพราะธนาคารเองก็ต้องมีภาระกันทุนสำรองไว้เช่นกันจึงทำให้บางส่วนหันไปกู้เงินนอกระบบเพิ่มขึ้น ซึ่งหากระบบการเงินหมุนไม่ทันที่สุดก็อาจจะต้องปิดกิจการได้

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์และธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า หากพิจารณาปัจจัยต่างๆ แล้วเชื่อว่า กนง.คงจะต้องตัดสินใจคงดอกเบี้ย 2% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังไม่มีปัจจัยบ่งชี้ว่าจะทรุดตัวอย่างชัดเจน โดยควรเก็บกระสุนเอาไว้ใช้ในช่วงที่จำเป็นจริงๆ ดีกว่า โดยเฉพาะทิศทางการเมืองที่ไม่แน่นอนและภาวะเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 2 ซึ่งสามารถนำไปพิจารณาดอกเบี้ยครั้งต่อไปช่วง มิ.ย.ก็ยังได้

ทั้งนี้ หากพิจารณาปัจจัยต่างๆ ทั้งทิศทางการส่งออกไตรมาส 2 เอกชนเองประเมินชัดเจนว่าจะโตได้ 2-3% จากช่วงไตรมาสแรก เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวที่ไม่น่าจะทรุดตัวไปมากกว่านี้หลังจากที่รัฐยกเลิกเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าทั้งปีน่าจะอยู่ระดับ 2.3-2.5% ภายใต้การตรึงราคาดีเซลเช่นเดิม ดอกเบี้ยระดับ 2% เหมาะสมที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น