xs
xsm
sm
md
lg

หอการค้าเตือนไทยมีสิทธิหลุดศูนย์กลาง AEC

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นักวิชาการมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ชี้เปิดเออีซีในปี 58 ช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยโต 1-2% ต่อปี แนะเร่งเตรียมความพร้อมระบบลอจิสติกส์ ภาษา รองรับโอกาสการแข่งขันทางธุรกิจ  รับการเมืองวุ่นวายทำเงินลงทุนต่างชาติหาย 3-4 แสนล้านบาท แถมอาจหลุดการเป็นศูนย์กลางอาเซียน
 
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ทำผลการวิจัย เรื่อง ประเทศไทยขาดอะไรในการเตรียมพร้อมเข้าสู่ AEC โดยนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 จะเกื้อหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น  1-2%  การจัางงานเพิ่มขึ้น 5-7%  ต้นทุนการผลิตเพิ่ม 1-2%  ยอดขายสินค้าเพิ่ม 10-15%  และประสิทธิภาพในการทำกำไรเพิ่มขึ้น 8-13%  โดยหากไทยวางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอรับการขยายตัวได้อย่างดี  เศรษฐกิจไทยยังมีโอกาสที่จะขยายตัวเพิ่มได้อีกถึง 6-7%  แต่ทั้งนี้โอกาสที่จะเกิดขึ้นจาก AEC จะต้องอยู่บนพื้นฐานสถานการณ์การเมืองที่คลี่คลาย รัฐบาลวางรากฐานระบบลอจิสติกส์ไว้พร้อม  ภาคเอกชนเตรียมพร้อมทักษะการใช้ภาษาเพื่อสื่อสารในประเทศกลุ่ม AEC  
 
ด้านนายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่า หากไทยไม่รู้จักที่จะพัฒนาศักยภาพด้านการแข่งขัน ในขณะที่การเมืองภายในประเทศยังระส่ำระสาย จะทำให้ไทยไม่สามารถก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางของอาเซียนภายหลังจากเปิด AEC ในปี 2558 แล้ว เพราะประเทศเพื่อบ้านจะมีศักยภาพการแข่งขันที่สูงกว่า ขณะที่ไทยอาจจะเสียตำแหน่ง โดยจะเสียตำแหน่งศูนย์กลาง AEC ให้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซียได้  ดังนั้น รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้สามารถแข่งขันได้หลังเปิด AEC โดยเฉพาะในเรื่องข้อตกลงระหว่างประเทศอาเซียน ข้อกฎหมาย รวมไปถึงต้นทุนการลงทุนแต่ละประเทศอย่างเต็มที่
 
ทั้งนี้ สถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้หากยังยืดเยื้อไปจนถึงไตรมาสที่ 2 และ 3 จะส่งผลกระทบให้เงินลงทุนจากต่างประเทศหายไปกว่า 3-4 แสนล้านบาท โดยจะทำให้กระทบ GDP ในทั้งปี 2557 จะขยายตัวต่ำกว่า 3% แต่ในกรณีเลวร้าย GDP จะใกลัเคียง 2% ซึ่งถือว่าต่ำสุดในประเทศอาเซียน โดยเศรษฐกิจของพม่า ลาว และเวียดนาม จะขยายตัวได้ 7% ขณะที่อินโดนีเซีย จะขยายตัว 6% ทั้งนี้ หากไทยสามารถมีรัฐบาลใหม่ได้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ รัฐบาลจะตัองเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 ให้เร็วที่สุด เพื่อให้มีเม็ดเงินจากการลงทุนภาครัฐเข้าสู่ระบบมากขึ้น และจะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติให้กลับมาโดยเร็วที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น