ASTVผู้จัดการรายวัน-บิ๊กเอกชนหนุนใช้กฎอัยการศึก แต่ต้องหาทางจบให้เร็ว เหตุเศรษฐกิจขับเคลื่อนไม่ได้มานานแล้ว หากยืดเยื้ออีกจะยิ่งแย่ เตรียมหารือด่วนวันนี้ ก่อนประกาศท่าที ชี้ผลกระทบระยะสั้นอาจกระทบต่อตลาดเงินและทุนโดยเฉพาะหุ้นผันผวนได้แต่เป็นผลดีในระยะกลางที่จะปิดทางให้ทุกฝ่ายหันมาหาทางออกให้กับประเทศ หวังมีรัฐบาลอำนาจเต็มยุติขัดแย้งทุกฝ่าย ขณะที่หอการค้าต่างจังหวัดหนุนอัยการศึกแก้ปัญหาการเมือง
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการประกาศกฎอัยการศึก เชื่อว่าจะเป็นผลดีในในการสร้างความมั่นใจให้กับคนทั้งในประเทศและต่างประเทศว่าไทยยังเป็นประเทศที่มีคนที่สามารถดูแลความสงบ เรียบร้อย ให้กับประเทศได้ ส่วนทิศทางการเมืองจากนี้ไป ยังเชื่อว่าการหารือร่วมกันจะเป็นทางออก โดยต้องยึดประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้งเพราะประเทศเสียเวลามาร่วม 6 เดือนแล้ว ทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไม่ได้
ทั้งนี้ กรณีข่าวที่อาจมีการทูลเกล้าฯ รายชื่อนายกรัฐมนตรีภายใน 1-2 วันนี้ มองว่าเป็นเรื่องดีที่ประเทศไทยที่จะมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารประเทศ แต่เอกชนต้องการนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่เลือกเข้ามาจากวิถีประชาธิปไตยมากกว่า
นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล อดีตประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กฎอัยการศึกได้กระทบต่อภาคการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน แต่ในมุมมองส่วนตัว หากทำให้ประเทศเดินหน้าต่อและมีทางออกให้กับประเทศได้ ก็ไม่ได้เห็นขัดแย้งอะไร แต่ควรให้ทุกอย่างจบลงโดยเร็ว เพราะขณะนี้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบมาก และอาจยาวไปถึงปีหน้า และหากสถานการณ์ยังยืดเยื้อเศรษฐกิจก็ยิ่งได้รับผลกระทบ แต่หากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทุกอย่างสงบ นักลงทุนจะกลับมาเชื่อมั่นลงทุนในไทยต่อไป
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า การประกาศใช้กฎอัยการศึก เป็นเรื่องที่ดี เพราะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังเดินหน้าใกล้ถึงทางตันและอาจเกิดความรุนแรงจากการเผชิญหน้าของคู่ขัดแย้ง ทั้ง กปปส. และ นปช. ซึ่งภายในหนึ่งสัปดาห์นี้ควรจะมีคำตอบที่ชัดเจนว่าประเทศจะเดินไปอย่างไร
****เอกชนลุ้นเปิดทางการเมืองจบเร็ว
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแหงประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยการจัดตั้งกองอำนวยการรักษาคามสงบ (กอ.รส.)เพื่อทำหน้าที่ดูแลความสงบของประเทศในขณะนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีและจะช่วยให้การชุมนุมทางการเมืองของทุกฝ่ายไม่นำไปสู่ความรุนแรงเหมือนอดีตที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามต้องการให้ปัญหาทางการเมืองนำไปสู่ความสงบโดยเร็วและหากเมื่อสงบแล้วก็ต้องการให้มีการยกเลิกกฏอัยการศึกทันทีเพราะหากใช้ไประยะนานอาจมีผลกระทบต่อความชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ
"การดำเนินงานครั้งนี้ก็ทำให้คนไทยไม่ต้องเผชิญหน้าและเกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แต่ถ้าหากแนวทางนี้นำไปสู่ความสงบประเทศชาติแล้วก็ควรจะยกเลิกทันที ส่วนการประกาศกฏอัยการศึกษาแล้จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาทางการเมืองหรือไม่ก็ไม่สามารถจะตอบได้แต่เอกชนคาดหวังวาจะนำไปสู่การเจรจาละลดความขัดแย้งของุกฝ่ายเพื่อก้าวไปขางหน้าให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป"นายวัลลภกล่าว
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจละธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าววา หากไม่มีกฏอัยการศกอาจสุ่มเสี่ยงให้เกิดการใช้กำลังและความรุนแรงซึ่งจะมีผลในเชิงลบต่อเศรษฐกิจที่จะแย่ไปกว่านี้ ดังนั้นส่วนนี้ก็จะผ่านพ้นไปได้แต่ก็คงจะกระทบต่อจิตวิทยาของนักลงทุนในตลาดเงินและตลาดทุนโดยเฉพาะหุ้นอาจผันผวนมากกว่าเพราะนักลงทุนต่างชาติอาจจะไม่เข้าใจในเรื่องดังกล่าวอย่างชัดเจนนัก
สำหรับระยะกลางน่าจะเป็นผลในเชิงบวกเนื่องจากไม่ได้กระทบต่อการดำรงชีวิตและธุรกิจของประชาชนในประเทศและปัญหาการเมืองน่าจะมีโอกาสลุ้นจบเร็วสามารถมีรัฐบาลตัวจริงที่มีอำนาจเต็มที่เร็วขึ้น แต่จะต้องติดตามคือ 1.คือกรชุมนุมของ2กลุ่มคือ กลุ่มเสื้อแดงและคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือกปปส.จะเลื่อนไหวไปในทางใด 2. การเดินหน้าแก้ไขปัญหาว่าที่สุดจะเดินไปในแนวทางการตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลางตามข้อเสนอสมาชิกวุฒิสภา หรือ การเดินหน้าเลือกตั้งต่อไปตามข้อเสนคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต.
นายทวิช เตชะนาวากุล ประธานบริษัท ไฮเทค กบินทร์ โลจิสติกส์ จำกัด ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค อยุธยาและนิคมกบินทร์บุรี กล่าวว่าถึงกรณีประกาศกฎอัยการศึกและการจัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบ(กอ.รส.)เพื่อดูแลความสงบของประเทศว่าถือเป็นเรื่องดีที่เข้ามาในช่วงจังหวะเหมาะสมเป็นตัวกลางไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเหมือนกับเหตุการณ์ที่มีการใช้อาวุธสงครามทำร้ายประชาชนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อช่วง3-4วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นโอกาสเหมาะที่จะหาทางออกให้กัประเทศ โดยทหารควรเข้ามาช่วยปฎิรูปดูแล ในฐานะเป็นตัวกลาง หลังจากประเทศชาติเสียหายมามากแล้ว
การประกาศกฎอัยการศึกในสายตาต่างชาติเป็นเรื่องที่รุนแรง แต่นักลงทุนที่ติดตามสถานการณ์การเมืองไทยมาจะเข้าใจได้ดี เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนต่างชาติ เพียงแต่ประเทศชาติเสียโอกาสมา2ปีจากปัญหาการเมืองในประเทศ ดังนั้นถึงเวลาที่สองฝ่ายจะหันหน้าเข้าหากันเพื่อหาทางออกให้กับประเทศเพื่อความสงบสุขโดยทหารเป็นคนกลาง
***ปตท.ชี้ไม่ได้รับผลกระทบจากประกาศกฎอัยการศึก
นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้การดำเนินธุรกิจของปตท.ภายใต้การประกาศกฎอัยการศึก ยังไม่ได้รับผลกระทบจากการขนส่งน้ำมันและก๊าซฯเอ็นจีวี แต่คงต้องติดตามดูไปอีกระยะ แต่ถ้าได้รับผลกระทบ ปตท.ก็มีการทำประกันภัยไว้แล้ว ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศเองมีแรงเทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยออกมาเล็กน้อย ไม่ได้วิตกกังวลมากนัก
ดังนั้น หากการประกาศกฎอัยการศึกแล้วทำให้ประเทศสงบและเริ่มต้นใหม่ มีการตั้งรัฐบาลใหม่ที่สมบูรณ์ได้ งบประมาณรายจ่ายได้เดินหน้า ทำให้เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ก็เป็นเรื่องดีสำหรับคนไทยรวมถึงปตท.ด้วย ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมสูง เพียงแต่ช่วงนี้เกิดช่องว่างสุญญากาศ ถ้ามีรัฐบาลใหม่ก็ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ปตท.ก็จะได้รับผลบวกในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจด้วย
**ใช้อัยการศึกยังไม่กระทบเที่ยวภูเก็ต-กระบี่
นายสรายุทธ มัลลัม อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ตในช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงโลว์ซีซัน เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวน้อยอยู่แล้ว โดยขณะนี้อัตราการเข้าพักอยู่ที่ประมาณ 50-60% ซึ่งจากการติดตามข้อมูลข่าวสารพบว่า การประกาศใช้กฎอัยการศึกยังไม่สงผลกระทบเกิดขึ้นต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ต แต่ก็ต้องดูระยะเวลาในการประกาศใช้ว่าจะมีระยะเวลายาวนานแค่ไหน ถ้ายกเลิกเร็วก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
ด้านนายเอกวิทย์ ภิญโญธรรมโนทัย อดีตนายกสมาคมโรงแรมกระบี่ เจ้าของธุรกิจโรงแรมย่านหาดอ่าวนาง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า ในส่วนของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมในจังหวัดกระบี่ ขณะนี้จากการตรวจสอบตามโรงแรมที่พักต่างๆ ยังไม่มีผลกระทบและไม่มีการยกเลิกการเดินทาง ประกอบกับในช่วงนี้เป็นช่วงกรีนซีซัน นักท่องเที่ยวกลุ่มหลัก เช่น สแกนดิเนเวีย ยุโรป ทยอยเดินทางกลับ จึงไม่ส่งผลในระยะสั้น
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการประกาศกฎอัยการศึก เชื่อว่าจะเป็นผลดีในในการสร้างความมั่นใจให้กับคนทั้งในประเทศและต่างประเทศว่าไทยยังเป็นประเทศที่มีคนที่สามารถดูแลความสงบ เรียบร้อย ให้กับประเทศได้ ส่วนทิศทางการเมืองจากนี้ไป ยังเชื่อว่าการหารือร่วมกันจะเป็นทางออก โดยต้องยึดประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้งเพราะประเทศเสียเวลามาร่วม 6 เดือนแล้ว ทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไม่ได้
ทั้งนี้ กรณีข่าวที่อาจมีการทูลเกล้าฯ รายชื่อนายกรัฐมนตรีภายใน 1-2 วันนี้ มองว่าเป็นเรื่องดีที่ประเทศไทยที่จะมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารประเทศ แต่เอกชนต้องการนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่เลือกเข้ามาจากวิถีประชาธิปไตยมากกว่า
นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล อดีตประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กฎอัยการศึกได้กระทบต่อภาคการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน แต่ในมุมมองส่วนตัว หากทำให้ประเทศเดินหน้าต่อและมีทางออกให้กับประเทศได้ ก็ไม่ได้เห็นขัดแย้งอะไร แต่ควรให้ทุกอย่างจบลงโดยเร็ว เพราะขณะนี้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบมาก และอาจยาวไปถึงปีหน้า และหากสถานการณ์ยังยืดเยื้อเศรษฐกิจก็ยิ่งได้รับผลกระทบ แต่หากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทุกอย่างสงบ นักลงทุนจะกลับมาเชื่อมั่นลงทุนในไทยต่อไป
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า การประกาศใช้กฎอัยการศึก เป็นเรื่องที่ดี เพราะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังเดินหน้าใกล้ถึงทางตันและอาจเกิดความรุนแรงจากการเผชิญหน้าของคู่ขัดแย้ง ทั้ง กปปส. และ นปช. ซึ่งภายในหนึ่งสัปดาห์นี้ควรจะมีคำตอบที่ชัดเจนว่าประเทศจะเดินไปอย่างไร
****เอกชนลุ้นเปิดทางการเมืองจบเร็ว
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแหงประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยการจัดตั้งกองอำนวยการรักษาคามสงบ (กอ.รส.)เพื่อทำหน้าที่ดูแลความสงบของประเทศในขณะนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีและจะช่วยให้การชุมนุมทางการเมืองของทุกฝ่ายไม่นำไปสู่ความรุนแรงเหมือนอดีตที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามต้องการให้ปัญหาทางการเมืองนำไปสู่ความสงบโดยเร็วและหากเมื่อสงบแล้วก็ต้องการให้มีการยกเลิกกฏอัยการศึกทันทีเพราะหากใช้ไประยะนานอาจมีผลกระทบต่อความชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ
"การดำเนินงานครั้งนี้ก็ทำให้คนไทยไม่ต้องเผชิญหน้าและเกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แต่ถ้าหากแนวทางนี้นำไปสู่ความสงบประเทศชาติแล้วก็ควรจะยกเลิกทันที ส่วนการประกาศกฏอัยการศึกษาแล้จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาทางการเมืองหรือไม่ก็ไม่สามารถจะตอบได้แต่เอกชนคาดหวังวาจะนำไปสู่การเจรจาละลดความขัดแย้งของุกฝ่ายเพื่อก้าวไปขางหน้าให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป"นายวัลลภกล่าว
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจละธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าววา หากไม่มีกฏอัยการศกอาจสุ่มเสี่ยงให้เกิดการใช้กำลังและความรุนแรงซึ่งจะมีผลในเชิงลบต่อเศรษฐกิจที่จะแย่ไปกว่านี้ ดังนั้นส่วนนี้ก็จะผ่านพ้นไปได้แต่ก็คงจะกระทบต่อจิตวิทยาของนักลงทุนในตลาดเงินและตลาดทุนโดยเฉพาะหุ้นอาจผันผวนมากกว่าเพราะนักลงทุนต่างชาติอาจจะไม่เข้าใจในเรื่องดังกล่าวอย่างชัดเจนนัก
สำหรับระยะกลางน่าจะเป็นผลในเชิงบวกเนื่องจากไม่ได้กระทบต่อการดำรงชีวิตและธุรกิจของประชาชนในประเทศและปัญหาการเมืองน่าจะมีโอกาสลุ้นจบเร็วสามารถมีรัฐบาลตัวจริงที่มีอำนาจเต็มที่เร็วขึ้น แต่จะต้องติดตามคือ 1.คือกรชุมนุมของ2กลุ่มคือ กลุ่มเสื้อแดงและคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือกปปส.จะเลื่อนไหวไปในทางใด 2. การเดินหน้าแก้ไขปัญหาว่าที่สุดจะเดินไปในแนวทางการตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลางตามข้อเสนอสมาชิกวุฒิสภา หรือ การเดินหน้าเลือกตั้งต่อไปตามข้อเสนคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต.
นายทวิช เตชะนาวากุล ประธานบริษัท ไฮเทค กบินทร์ โลจิสติกส์ จำกัด ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค อยุธยาและนิคมกบินทร์บุรี กล่าวว่าถึงกรณีประกาศกฎอัยการศึกและการจัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบ(กอ.รส.)เพื่อดูแลความสงบของประเทศว่าถือเป็นเรื่องดีที่เข้ามาในช่วงจังหวะเหมาะสมเป็นตัวกลางไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเหมือนกับเหตุการณ์ที่มีการใช้อาวุธสงครามทำร้ายประชาชนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อช่วง3-4วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นโอกาสเหมาะที่จะหาทางออกให้กัประเทศ โดยทหารควรเข้ามาช่วยปฎิรูปดูแล ในฐานะเป็นตัวกลาง หลังจากประเทศชาติเสียหายมามากแล้ว
การประกาศกฎอัยการศึกในสายตาต่างชาติเป็นเรื่องที่รุนแรง แต่นักลงทุนที่ติดตามสถานการณ์การเมืองไทยมาจะเข้าใจได้ดี เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนต่างชาติ เพียงแต่ประเทศชาติเสียโอกาสมา2ปีจากปัญหาการเมืองในประเทศ ดังนั้นถึงเวลาที่สองฝ่ายจะหันหน้าเข้าหากันเพื่อหาทางออกให้กับประเทศเพื่อความสงบสุขโดยทหารเป็นคนกลาง
***ปตท.ชี้ไม่ได้รับผลกระทบจากประกาศกฎอัยการศึก
นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้การดำเนินธุรกิจของปตท.ภายใต้การประกาศกฎอัยการศึก ยังไม่ได้รับผลกระทบจากการขนส่งน้ำมันและก๊าซฯเอ็นจีวี แต่คงต้องติดตามดูไปอีกระยะ แต่ถ้าได้รับผลกระทบ ปตท.ก็มีการทำประกันภัยไว้แล้ว ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศเองมีแรงเทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยออกมาเล็กน้อย ไม่ได้วิตกกังวลมากนัก
ดังนั้น หากการประกาศกฎอัยการศึกแล้วทำให้ประเทศสงบและเริ่มต้นใหม่ มีการตั้งรัฐบาลใหม่ที่สมบูรณ์ได้ งบประมาณรายจ่ายได้เดินหน้า ทำให้เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ก็เป็นเรื่องดีสำหรับคนไทยรวมถึงปตท.ด้วย ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมสูง เพียงแต่ช่วงนี้เกิดช่องว่างสุญญากาศ ถ้ามีรัฐบาลใหม่ก็ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ปตท.ก็จะได้รับผลบวกในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจด้วย
**ใช้อัยการศึกยังไม่กระทบเที่ยวภูเก็ต-กระบี่
นายสรายุทธ มัลลัม อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ตในช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงโลว์ซีซัน เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวน้อยอยู่แล้ว โดยขณะนี้อัตราการเข้าพักอยู่ที่ประมาณ 50-60% ซึ่งจากการติดตามข้อมูลข่าวสารพบว่า การประกาศใช้กฎอัยการศึกยังไม่สงผลกระทบเกิดขึ้นต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ต แต่ก็ต้องดูระยะเวลาในการประกาศใช้ว่าจะมีระยะเวลายาวนานแค่ไหน ถ้ายกเลิกเร็วก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
ด้านนายเอกวิทย์ ภิญโญธรรมโนทัย อดีตนายกสมาคมโรงแรมกระบี่ เจ้าของธุรกิจโรงแรมย่านหาดอ่าวนาง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า ในส่วนของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมในจังหวัดกระบี่ ขณะนี้จากการตรวจสอบตามโรงแรมที่พักต่างๆ ยังไม่มีผลกระทบและไม่มีการยกเลิกการเดินทาง ประกอบกับในช่วงนี้เป็นช่วงกรีนซีซัน นักท่องเที่ยวกลุ่มหลัก เช่น สแกนดิเนเวีย ยุโรป ทยอยเดินทางกลับ จึงไม่ส่งผลในระยะสั้น