“เซน” เสริมแกร่งรับศึกตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นแข่งรุนแรง ดึงมือดีการเงินเข้ามาเสริมทัพ ลุยปรับภาพลักษณ์ใหม่ วางเป้าสิ้นปีหน้าจะมีสาขาแบรนด์กลุ่มเซนครบ 50 สาขา พร้อมเล็งโกอินเตอร์ เจาะตลาด CLMV
นายจีระเดช วินไทย ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มแบรนด์ เซน เรสเตอร์รอง บริษัท เซ็น เรสเตอร์รอง กรุ๊ป จำกัด ผู้ประกอบการร้านอาหารญี่ปุ่น เปิดเผยว่า จากการแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นรวมในเมืองไทย ส่งผลให้ทุกบริษัทต้องปรับกลยุทธ์ในการทำธุรกิจและสร้างความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถเติบโตได้ จากตลาดรวมอาหารญี่ปุ่นในไทยมากกว่า 20,000 ล้านบาท เติบโต 10%
ทั้งนี้ บริษัทฯได้เริ่มปรับภาพลักษณ์เพื่อให้ดูทันสมัยขึ้นจากเดิมที่ตลาดมองว่าเราเป็นเหมือนคนมีอายุ 40-50 ปีก็จะปรับภาพลักษณ์ให้เหลือ 30-35 ปี รีวมทั้งมีการจัดระบบการปฎิบัติการและการปรับเมนูใหม่แม้ว่าจะใช้สินค้าวัตถุดิบนำเข้า 70% ก็ตาม นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนภาชนะที่ใช้ การเปลี่ยนยูนิฟอร์ม และการบริการของพนักงาน
สำหรับการลงทุนจากนี้ บริษัทฯวางเป้าหมายขยายสาขาทั้งในไทยต่อเนื่อง รวมทั้งการเปิดแบรนด์ใหม่เพิ่มอีกด้วยซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองคือร้านดงบูริ โดยจะเปิดที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้าและคาดว่าสิ้นปีน่าจะสรุปแนวทางการดำเนินธุรกิจ รวมถึงสรุปชื่อร้านได้ ร้านนี้จับกลุ่มเป้าหมายซีบวก ราคาอาหารต่ำกว่าแบรดนด์ “เซน” และจะมีการขยายสาขาในต่างประเทศด้วย
สำหรับในประเทศไทยตั้งเป้าหมายจะเปิดให้ครบเป็น 50 สาขาภายในปีหน้า โดยใช้งบรวมไม่ต่ำกว่าจากปัจจุบันที่เปิดบริการแล้ว 28 สาขา (แยกเป็น เซนเรสเตอร์รอง 26 สาขา ร้านซูชิสาเก 2 สาขาเพิ่งเปิดปีนี้ที่พาซิโอรามคำแหงและเกาะสมุย) และแบรนด์ “เซน ควิซินา”ที่เซ็นทรัลเวิลด์เป็นระดับพรีเมียม ซึ่งปีนี้วางแผนเปิดใหม่ 6 สาขาแต่เปิดไปแล้ว 2 สาขา โดยใช้งบลงทุนสาขาใหม่ 15 ล้านบาท ขณะที่สาขาเดิมนั้นจะต้องรีโนเวทใหม่หมดใช้งบ 5 ล้านบาทต่อสาขา คาดว่าภายใน 2 ปีจะแล้วเสร็จหมด รวมทั้งปีหน้าจะลงทุนขยายคลังสินค้าใหม่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับกับการขยายตัวจากเดิมมีที่ถนนพัฒนาการเพียงแห่งเดียว
ส่วนตลาดต่างประเทศนั้นวางเป้าหมายเจาะตลาดกลุ่มประเทศ CLMV ก่อน โดยจะไปในลักษณะของการร่วมทุนกับคนท้องถิ่นซึ่งจะมีความเหมาะสมกว่าและจะเป็นการลดความเสี่ยงด้วยซึ่งที่ผ่านมามีผู้สนใจติดต่อเข้ามามาก แต่บริษัทฯยังไม่พร้อมเพราะต้องการศึกษาให้รอบคอบ โดยคาดว่าภายในปี 2559 จะมีสาขาในต่างประเทศ 2-3 สาขาซึ่งตลาดร้านอาหารใน CLMV นี้ก็มีการแข่งขันที่รุนแรง ส่วนใหญ่จะเป็นทุนที่มาจากประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และไทยเป็นหลัก โดยในส่วนของทุนไทยที่ไปเปิดกิจการมาแล้วคือ ฟูจิ และแบล็คแคนยอน เป็นต้น
สำหรับผลประกอบการของแบรนด์ “เซน” ในปีนี้คาดว่าจะทำได้ 1,200 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีที่แล้วที่ทำได้ 1,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกทำได้ตามเป้าหมายและคาดว่าครึ่งปีหลังสถานการณ์ต่างๆ น่าจะดีขึ้น ขณะที่ทั้งกลุ่มทุกแบรนด์รวมกันคาดว่าปีนี้จะมีรายได้รวม 2,000 ล้านบาทเพิ่มจากปีที่แล้วที่ทำได้ 1,700 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้แบ่งเป็นกลุ่ม เซนเรสเตอร์รอง 65% กลุ่มไลฟ์สไตล์ 20% ซึ่งมีแบรนด์ “ออนเดอะเทเบิ้ล” แบรนด์ “โมริตะ” และอีก 15% เป็นกลุ่ม ปิ้งย่าง เช่นแบรนด์ “อากะ”
อนึ่ง ก่อนที่ นายจีระเดช วินไทย จะเข้ามาทำงานที่เซนนั้นเคยดูแลทางด้านการเงินมาตลอดในหลายองค์กร