xs
xsm
sm
md
lg

“ฟิตเนสเฟิรส์ท” ทุ่มงบพันล้านลุย ดันแคมเปญใหม่-ชู “บัวขาวโมเดล”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

(จากซ้ายไปขวา) มาร์ค เอลเลียต บิวคานันท์, บัวขาว บัญชาเมฆ, อรวรรณ เกลียวปฏินนท์, และ ราศี วัชราพลเมฆ
“ฟิตเนสเฟิรส์ท” ปรับโฉมใหม่ทั่วโลก พร้อมทุ่มงบในไทย 1,000 ล้านบาทรีโนเวตหมดทุกสาขา 25 แห่งและผุดสาขาใหม่อีก 4 แห่ง ตั้งเป้าหมายสมาชิก 88,000 คนในปีหน้า เปิดตัวแคมเปญใหม่หวังรักษาความเป็นผู้นำตลาดฟิตเนส

นายมาร์ค เอลเลียต บิวคานันท์ กรรมการบริหาร บริษัท ฟิตเนส เฟิรส์ท (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารธุรกิจ “ฟิตเนสเฟิรส์ท” ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ฟิตเนสเฟิรส์ทได้ปรับภาพลักษณ์ โลโก้ และโมเดลการออกแบบของฟิตเนสใหม่ตามนโยบายของบริษัทแม่ทั่วโลก โดยในส่วนของประเทศไทยนั้นคาดว่าภายในช่วง 18 เดือนจากนี้จะต้องใช้งบประมาณ 450 ล้านบาทในการปรับเปลี่ยนแบบใหม่หมดทุกสาขาที่เปิดบริการแล้วในไทย 25 สาขา ซึ่งปัจจุบันทยอยรีโนเวตแล้ว 3 สาขาคือที่ สยามพารากอน สาทรสแควร์ และอุดรธานี และเตรียมที่จะรีโนเวตอีกที่เทอร์มินัล 21 เซ็นทรัลพระรามเก้า

นอกจากนั้นแล้ว ในส่วนของสาขาที่จะเปิดใหม่นั้นก็จะเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ทันที ซึ่งตามแผนงานแล้วบริษัทฯ จะเปิดสาขาใหม่อีก 4 แห่งภายในสิ้นปีหน้า ด้วยงบลงทุนรวม 500 ล้านบาท รวมงบลงทุนทั้งหมดคือประมาณ 950-1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทฯ ต้องการรักษาความเป็นผู้นำตลาดฟิตเนสในไทยต่อไปรวมทั้งในระดับโลกด้วยซึ่งที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีรายใหม่เข้ามาเปิดตลาดในไทย แต่บริษัทฯ ได้เปรียบตรงที่มีสาขามากที่สุด 25 แห่ง มีสมาชิกมากถึง 72,000 คน และตั้งเป้าหมายเพิ่มเป็น 88,000 คนในปี 2558 และมีคลาสออกกำลังกาย 10,321 คลาสต่อเดือนซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดใน 6 ประเทศในภูมิภาคนี้

นอกจากนั้นมีเครือข่ายของบริษัทแม่สนับสนุน ซึ่งปัจจุบันมี 82 สาขาในอังกฤษ สมาชิก 189,000 คน เป็นแบรนด์ฟิตเนสที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสาขารวมกว่า 377 แห่ง และมีสมาชิกกว่า 990,000 คนใน 16 ประเทศทั่วโลก ส่วนในเอเชียมีสมาชิกรวม 218,815 คน รวม 88 สาขา แบ่งเป็น ฮ่องกง 7 สาขา, อินโดนีเซีย 11 สาขา, มาเลเซีย 13 สาขา, ฟิลิปปินส์ 16 สาขา, สิงคโปร์ 16 สาขา และไทยมากที่สุดคือ 25 สาขา

สำหรับทิศทางของฟิตเนสเฟิรส์ทนั้นจะมุ่งเน้นทั้งในเรื่องของการขยายสาขา การเพิ่มสมาชิก การเปิดคอร์สใหม่ๆ รวมทั้งการนำเอานวัตกรรมใหม่มานำเสนอสู่สมาชิก เพื่อสร้างความแตกต่างกับตลาดและคู่แข่งรายอื่น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีมาตรฐานในการตั้งราคาสมาชิกอยู่แล้ว ไม่เน้นเรื่องการแข่งขันด้านราคา

ล่าสุดเปิดตัวแคมเปญ “Together, We Can Go Further” ซึ่งจะมีบริการภายใต้หลักการใหม่ 4 อย่างคือ 1.บุคลากร ซึ่งภายในปี 2558 พนักงานทั้งหมด 1,550 คนในไทยรวมผู้บริหารด้วยจะต้องมีใบรับรองด้านฟิตเนสเพื่อความเป็นมาตรฐาน 2.เครื่องมือดิจิตอล จะเริ่มใช้แอปพลิเคชันและโปรแกรมที่ช่วยให้สมาชิกบันทึกผลการออกกำลังกายและมีการทดสอบใหม่ๆ 3.การปรับโฉมสถานที่เป็นดีไซน์ใหม่ทั้งหมด พื้นที่โล่งขึ้น กำจัดสิ่งกีดขวางออกไป 4.การออกกำลังกายสุดพิเศษ เน้นการเคลื่อนไหวที่เรียกว่า “ไดนามิก มูฟเมนต์ เทรนนิ่ง” ซึ่งออกแบบมาจากการเคลื่อนไหวของธรรมชาติ ออกแบบโซนออกกำลังกายให้เป็นแบบฟรีสไตล์ หรือฟิตเนสเพลย์กราวนด์ เพิ่มคลาสที่เป็นเอกลักษณ์ของฟิตเนสเฟิรส์ท เช่น ฮาร์ดคอร์สเตรงก์ โปรโซคลิง แอดวานซ์โฟลว์โยคะ เป็นต้น และคลาสออกกำลังกายที่มีเฉพาะในไทยคือ “มวยไฟต์ โปร บาย บัวขาว” ที่ออกแบบโดยนักมวยระดับโลก “บัวขาว บัญชาเมฆ”


กำลังโหลดความคิดเห็น