ASTVผู้จัดการรายวัน - “รัฐประหาร” ลุ้นดันอุตสาหกรรมโฆษณาครึ่งปีหลังกระเตื้องขึ้น หลังครึ่งปีแรกฟันธงติดลบแน่นอน ชี้ปิดสถานีโทรทัศน์ 1 วันเชื่อเจ้าของสถานีโทรทัศน์พร้อมจัดการเวลาชดเชยโฆษณาให้ แต่เจ้าของสินค้าผวาเตรียมตัดงบโฆษณาเดือน มิ.ย.ทิ้ง “กูรูโฆษณา” หวังสถานการณ์ดีขึ้นเร็ววัน ประเทศก้าวต่อไป เม็ดเงินโฆษณากลับมา ฟาก “สมาคมผู้ค้าปลีกไทย” หวังให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มในการแก้ไขปัญหาประเทศชาติอย่างรวดเร็ว
นางวรรณี รัตนพล ประธานบริหาร ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส จำกัด ในฐานะนายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย หรือ MAAT เปิดเผยว่า ในช่วงที่ฟรีทีวีรวมถึงสถานีโทรทัศน์ทุกช่องในทุกแพลตฟอร์มถูกระงับสัญญาณการออกอากาศตั้งแต่เวลา 16.30 น.วันที่ 22 พ.ค. 57 มาจนถึงเย็นวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมาโดยประมาณ จากการทำรัฐประหารช่วงเวลาดังกล่าวพบว่าเจ้าของสินค้าค่อนข้างกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะขณะนั้นยังไม่ทราบว่าฟรีทีวีจะถูกระงับสัญญาณออกไปนานเพียงใด บวกกับความตึงเครียดที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เจ้าของสินค้าหลายรายต้องการที่จะขอตัดงบโฆษณาในเดือน มิ.ย.ออกไปก่อนเพื่อดูสถานการณ์ให้แน่ใจจึงจะกลับมาใช้งบโฆษณาอีกครั้ง ทั้งนี้บริษัทได้ชี้แจงและทำความเข้าใจกับเจ้าของสินค้าเหล่านั้นไปแล้ว ส่งผลให้ลูกค้าเหล่านี้ยังพร้อมใช้งบลงโฆษณาในเดือนต่อไปอยู่ แต่ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมืองด้วยว่าจะคลี่คลายได้เร็วเพียงใด
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่ฟรีทีวีถูกระงับสัญญาณออกอากาศนั้นทำให้โฆษณาที่ลงไปหายไปด้วย เชื่อว่าทางเจ้าของสถานีเองได้เตรียมแก้ปัญหาเหล่านี้ไว้แล้วเช่นกัน โดยอาจจะมีช่วงเวลาชดเชยลงโฆษณาที่หายไปกว่า 1 วันให้ เพราะเมื่อคำนวณออกมาแล้วพบว่า ช่วงเวลาที่สปอตโฆษณาหายไปถือเป็นมูลค่าที่สูงอยู่มาก เมื่อโฆษณาหายไปรายได้ของสถานีก็หายตาม
นางวรรณีกล่าวต่อว่า ในส่วนของเม็ดเงินโฆษณาในครึ่งปีแรกดูแล้วยังไงก็ยังคงติดลบ แม้จะเหลือเดือน มิ.ย.อีกแค่เดือนเดียวก็ตาม เพราะ 4 เดือนที่ผ่านมาพบว่าทั้งอุตสาหกรรมโฆษณายังคงติดลบ 7% โดยเชื่อว่าเพียงแค่เดือน มิ.ย.เดือนเดียวคงไม่สามารถทำให้ครึ่งปีแรกกลับมาดีได้ แต่ในครึ่งปีหลังดูมีแนวโน้มที่ดีขึ้น หรืออย่างน้อยที่สุดทั้งปีน่าจะทำให้ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาอาจจะติดลบแค่ 1-2% เท่านั้น
“ถ้าทหารเข้ามาจัดการได้เร็ว ทุกอย่างก็จบเร็ว เข้าสู่กระบวนการปกติและเดินหน้าต่อไปได้ อุตสาหกรรมโฆษณาในครึ่งปีหลังก็น่าจะดีขึ้น ลูกค้ากลับมาใช้เงินลงโฆษณาอีกครั้ง ถือเป็นสัญญาณที่ดี เพราะหากมองสถานการณ์ของประเทศไทยก่อนที่จะมีการทำรัฐประหารแล้ว ทุกอย่างหยุดนิ่ง ทั้ง 2 ฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ประเทศชาติก้าวต่อไม่ได้ อุตสาหกรรมโฆษณาเองก็มีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ แต่พอมีรัฐประหารขึ้นมา ครึ่งปีหลังก็มีโอกาสมากขึ้น เพราะประเทศเดินต่อไปได้”
ทั้งนี้ จากข้อมูลของ “นีลเส็น คอมปะนี” พบว่า เม็ดเงินโฆษณาในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-เม.ย. 57) มีมูลค่าที่ 33,298 ล้านบาท ติดลบ 7.57% โดยมีเพียงสื่อในโรงภาพยนตร์เพียงสื่อเดียวที่ยังเติบโตอยู่ 17.80% หรือมีมูลค่าที่ 2,210 ล้านบาท ส่วนสื่อหลักอย่างสื่อทีวีตกลง 6.38% หรือมีมูลค่าที่ 20,854 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา แต่เฉพาะเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียวแล้วกลับพบว่าทุกสื่อติดลบหมด ส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาติดลบ 8.38% หรือมีมูลค่าเพียง 8,744 ล้านบาท โดยสื่อทีวีติดลบ 4.89% หรือมีมูลค่าเพียง 5,460 ล้านบาทเท่านั้น
• สมาคมผู้ค้าปลีกไทยขอ “รัฐบาลใหม่” แก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว•
ดร.ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า จากการที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จำเป็นต้องเข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศนั้น ในระยะสั้นย่อมส่งผลกระทบและทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก แต่ยังต้องเฝ้าดูสถานการณ์ต่อไปอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ดี ภาคเอกชนต้องการให้ภาครัฐควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบ หลีกเลี่ยงเหตุการณ์รุนแรงต่างๆ และขอให้จัดตั้งรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มในการแก้ไขปัญหาประเทศชาติอย่างรวดเร็ว พร้อมให้นโยบายที่เป็นรูปธรรมในเรื่องการแก้ไขความขัดแย้งในประเทศและมีนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศอย่างชัดเจนและรวดเร็ว