ไออาร์พีซีมั่นใจไตรมาส 2 กำไรโตขึ้นจากไตรมาสก่อน หลังจากMarket GIM สูงกว่า 7.8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาโอเลฟินส์ดี แต่อะโรเมติกส์ยังโงหัวไม่ขึ้น ส่งผลให้ต้องเลื่อนแผนการร่วมทุน PTTGC ต่อยอดโครงการฟีนิกซ์ มูลค่ารวม 6.5 หมื่นล้านบาท รอเศรษฐกิจดีค่อยปัดฝุ่นโครงการ
นายสกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2557 บริษัทฯ คาดว่ากำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) ดีขึ้นกว่าไตรมาส 1/2557 ที่มี Market GIM อยู่ที่ 7.81 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากแนวโน้มราคาโอเลฟินส์ดีต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจการกลั่นก็ปรับตัวดีขึ้นจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น มั่นใจว่าไตรมาส 2 นี้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสูงขึ้นกว่าไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิ 344 ล้านบาท และไตรมาส 2/2556 ที่ขาดทุนสุทธิ 1,158 ล้านบาท เป็นผลจากการขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันจำนวนมาก
“แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกไตรมาส 2 นี้น่าจะทรงตัวระดับ 100-110 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ไม่น่าหวือหวาจนทำให้จะมีปัญหาการขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันเหมือนไตรมาส 2/2556 ที่ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงจากไตรมาส 1 ที่ 116 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลมาอยู่ที่ 106 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ขาดทุนสต๊อกน้ำมันทันที 10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพราะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาก็ดีขึ้นเช่นเดียวกับยุโรป เศรษฐกิจจีนก็มีเสถียรภาพเพราะรัฐบาลดูแลได้ดี คงมีปัญหาความวุ่นวายในยูเครนและตะวันออกกลาง ทำให้บาลานซ์ราคาน้ำมันเอาไว้ระดับนี้”
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2557 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 344 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 153 ล้านบาท แต่กำไรลดลงเมื่อเทียบจากไตรมาส 4/2556 ที่มีกำไรสุทธิ 784 ล้านบาท โดยไตรมาส 1/2557 Market GIM ต่ำกว่าแผนที่บริษัทฯกำหนดไว้ว่าทั้งปี Market GIM จะสูงกว่าปีก่อน 1.50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลมาอยู่ 8.50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ไตรมาส1/2557 Market GIM เพิ่มขึ้นเพียง 80 เซ้นต์มาอยู่ที่ 7.81 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล สาเหตุหลักมาจากราคาพาราไซลีนแย่ลง ซึ่งบริษัทมีการผลิตมิกซ์ไซลีน(MX) กับโทลูอีนเป็นวัตถุดิบในการผลิตพาราไซลีนเป็นตัวฉุด แต่ธุรกิจการกลั่นและโอเลฟินส์ยังดีอยู่
ปัจจุบัน ไออาร์พีซี มีกำลังการผลิตโอเลฟินส์ 8 แสนตัน/ปี แบ่งเป็นเอทิลีน 3.2 แสนตัน/ปี โพรพิลีน 4.1 แสนตัน/ปี และบิวทาไดอีน 5.6 หมื่นตัน/ปี ส่วนกำลังการผลิตสายอะโรเมติกส์ 3.6 แสนตัน แบ่งเป็น มิกซ์ไซลีน 1.2 แสนตัน/ปี เบนซีน 1.1 แสนตัน/ปี และโทลูอีน 1.3 แสนตัน/ปี
“ แนวโน้มส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์พาราไซลีนกับวัตถุดิบ (สเปรด) จะปรับตัวดีขึ้นคงต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง เนื่องจากมีปริมาณการผลิตพาราไซลีนใหม่เข้ามามาก แต่ความต้องการใช้ค่อยๆเพิ่มขึ้น ทำให้ล้นตลาดอยู่ แต่มองว่าราคาพาราไซลีนผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เชื่อว่าแนวโน้มน่าจะดีขึ้นแต่ค่อยเป็นค่อยไป”
ส่วนโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการภายใต้ DELTA ปีนี้ตั้งเป้ารับรู้รายได้ 1 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หรือประมาณ 67 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไตรมาสแรกนี้ รับรู้รายได้ไปแล้ว 5.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นไปตามแผนงาน เพราะไตรมาส 3-4/2557 จะรับรู้รายได้จากโครงการDELTA เพิ่มสูงมาก
นายสุกฤตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการศึกษาร่วมทุนกับบจม.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC)จำนวน 6 โครงการมูลค่ารวม 6.5 หมื่นล้านบาทนั้น คงต้องเลื่อนการตัดสินใจออกไปก่อนเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี และราคาพาราไซลีนตกต่ำ ทำให้ผลตอบแทนการลงทุนของโครงการต่ำเกินไป อีกทั้ง PTTGC เองก็มีโครงการร่วมทุนกับเปอร์ตามิน่า อินโดนีเซีย ลงทุนโครงการโอเลฟินส์ คอมเพล็กซ์ที่อินโดนีเซีย ทำให้ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากด้วย
อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้นก็จะกลับมาพิจารณาใหม่ โดยยืนยันในปีนี้จะยังไม่เห็นการร่วมทุนกับPTTGC ในการลงทุนโครงการต่อยอดโครงการฟินิกซ์เกิดขึ้นแน่นอน
ดังนั้น ในปีนี้ บริษัทฯจึงหันมาให้ความสำคัญการทำให้ธุรกิจหลักมีความแข็งแกร่งขึ้น (Strengthening Core Business ) ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำแผนงานระยะยาว ว่ามีธุรกิจใดบ้างที่จะต้องเร่งสร้างความเข้มแข็ง เนื่องจากโครงการบริษัทฯเสียเปรียบด้านขนาดที่เล็กทำให้ต้นทุนต่อหน่วยสูง จึงต้องหันไปเน้นผลิตภัณฑ์เกรดพิเศษ แต่ก็ต้องดูอนาคต 5-10ปีข้างหน้าจะแข่งขันได้หรือไม่ คาดว่าจะสรุปผลศึกษาได้ภายในไตรมาส 3 นี้ หลังจากนั้นจะไปจัดทำแผนธุรกิจ (Business Plan) 5 ปีข้างหน้า
สำหรับโครงการต่อยอดฟินิกซ์มี 6 โครงการ ประกอบด้วย โครงการผลิตพาราไซลีน 1.21 ล้านตัน/ปี และเบนซีน 3.72 แสนตัน/ปี โครงการผลิตโพลีโพรพิลีน คอมพาวด์ (PPC) 3 แสนตัน/ปี โครงการผลิตโพลีออล 1 แสนตัน/ปี โครงการผลิต อะคริลิค แอซิด/ซูเปอร์แอบซอฟเบนต์ โพลีเมอร์ (AA/SAP) กำลังการผลิต AA 1 แสนตัน/ปี และSAP 8 หมื่นตัน/ปี โครงการ Bio-Hydrogenated Diesel (BHD) 2 ล้านลิตร/เดือนและโครงการผลิตสไตรีน โมโนเมอร์ (SM) 3.50 แสนตัน/ปี
