ทอท.เตรียมขายซองประมูลสุวรรณภูมิเฟส 2 พ.ค.นี้ มั่นใจเสร็จตามแผนปี 60 เพิ่มขีดรองรับผู้โดยสารเป็น 60 ล้านคนต่อปี “เมฆินทร์” เผยปีนี้รายได้โตกว่าปีก่อนแน่นอน แม้การเมืองกระทบหนักแต่เอาอยู่และสู้ไหว งัดกลยุทธ์ดึงแอร์ไลน์ไปสนามบินภูมิภาค ดันยอดผู้โดยสาร พบ 5 เดือนแรกได้ผลน่าพอใจ เติบโตถึง 10%
นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 วงเงิน 62,503.214 ล้านบาทว่า ล่าสุดอยู่ระหว่างการสรุปแบบก่อสร้าง และคาดว่าจะสามารถเปิดขายเอกสารประกวดราคาได้ต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งยืนยันว่าการทำงานยังเป็นไปตามแผน ไม่มีความล่าช้า โดยเฟส 2 จะเสร็จสิ้นทั้งหมดในปี 2560 และสามารถเพิ่มศักยภาพการรองรับผู้โดยสารได้เป็น 60 ล้านคนต่อปี จากปัจจุบัน 45 ล้านคนต่อปี
นอกจากนี้ ทอท. กำลังผลักดันแผนพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองเฟสแรก ให้ดำเนินการเสร็จสิ้นภายในปีนี้ เพื่อให้รองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 30 ล้านคน และปี 2558 จะรองรับเพิ่มเป็น 40 ล้านคน เมื่อรวม 2 ท่าอากาศยานหลักในกรุงเทพมหานครคือสุวรรณภูมิและดอนเมืองแล้วจะต้องสามารถรองรับผู้โดยสารให้ได้ถึง 100 ล้านคนภายในปี 2559 ส่วนปี 2558 คาดว่าจะมีผู้โดยสารสูงถึง 80 ล้านคน
สำหรับผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 2/2557 (ม.ค.-มี.ค. 57) ยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองภายในประเทศมากพอควร โดยปริมาณผู้โดยสารภาพรวมเติบโตเพียง 5.1% จากที่ตั้งเป้าว่าจะเติบโต 10% แต่เชื่อว่าขณะนี้จุดต่ำสุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว และ ทอท. มีแผนรองรับเพื่อรักษาระดับผลประกอบการปี 2557 ให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ด้วยการจูงใจสายการบินและนักท่องเที่ยวไปยังท่าอากาศยานภูมิภาคมากขึ้น ทั้งการให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมต่างๆและได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวด้วย
ทั้งนี้พบว่าแผนกระตุ้นการเดินทางสู่ท่าอากาศยานภูมิภาคได้ผลดีมาก โดยปริมาณผู้โดยสารในรอบ 5 เดือน (ต.ค.56-ก.พ.57) ที่ท่าอากาศภูมิภาคทั้ง 4 แห่งของ ทอท. เพิ่มขึ้น 10% ซึ่งท่าอากาศยานเชียงใหม่เติบโตมากสุดที่ 20% หาดใหญ่เพิ่มขึ้น 11% ภูเก็ต 9% และเชียงราย 17%
“ไตรมาส 3 นี้ (เม.ย.-มิ.ย.) ก็ยังไม่รู้ว่าการเมืองจะคุกกรุ่นขึ้นมาอีกหรือไม่ กรุงเทพฯจะได้รับผลกระทบแค่ไหน แต่เรายืนยันว่าเอาอยู่และสู้ไหว การันตีว่าปีนี้รายได้จะมากกว่าปีที่แล้วแน่นอน เพราะเราหันไปกระตุ้นท่าฯภูมิภาคมากขึ้น ไม่คิดจะฝากความหวังไว้แค่กรุงเทพฯแล้ว ซึ่งเท่าที่ทำมาพบว่าได้ผลตอบรับดีน่าพอใจ ผู้โดยสารท่าฯภูมิภาครอบ 5 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 10% แม้พื้นที่จะไม่สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากเท่าสุวรรณภูมิกับดอนเมือง แต่ก็ยังช่วยพยุงไว้ได้ ส่วนเรื่องกำไรยังไม่ขอบอกตอนนี้” นายเมฆินทร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทอท. ได้วางโรดแมปการทำงาน 20 ปี ซึ่งเบื้องต้นมีแผนก่อสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ วงเงิน 10,000 ล้านบาท และอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ วงเงิน 20,000 ล้านบาท ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเพิ่มการรองรับผู้โดยสารให้ได้ถึง 180 ล้านคน โดยแผนโรดแมปนี้มีการวางโครงร่างไว้แล้ว แต่ทิศทางการทำงานยังไม่ชัดเจน เมื่อตนเข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ จึงกระทำให้เกิดความชัดเจนขึ้น ส่วนช่วงเวลาที่จะดำเนินการนั้น คงต้องดูอัตราการเติบโตของผู้โดยสารเป็นหลัก เพราะตามปกติแล้วจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 10% แต่หากเติบโตเร็วกว่าอัตราดังกล่าวก็จะต้องเร่งแผนก่อสร้างให้เร็วขึ้นด้วย