ปธ.-รอง ปธ.กมธ.ตปท.วุฒิฯ แจงไอพียูตกเป็นเครื่องมือการเมือง ชี้ส่งหนังสือถึง ป.ป.ช.-ศาล รธน. เนื้อหาไม่มีตำหนิหรือเข้ามาจุ้น แต่ถูกสื่อบิดเบือนเอื้อประโยชน์ รับเตือนอย่างฉันมิตรเนื้อหาเบา เพิกเฉยเลยยังได้ ร้องให้ทบทวน ด่วนแสดงความเห็นกระทบกระบวนการยุติธรรมไทย
วันนี้ (23 เม.ย.) ที่อาคารัฐสภา 2 ห้อง 309 นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ส.ว.พิษณุโลก ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ วุฒิสภา และพ.ญ.พรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะรองประธาน กมธ.การต่างประเทศ ร่วมกันแถลงถึง กระแสข่าวที่สหภาพรัฐสภาสากล หรือไอพียู ส่งหนังสือเตือนการทำหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และศาลรัฐธรรมนูญ โดยนางพิกุลแก้วกล่าวว่า จากข้อเท็จจริงในเนื้อหาของหนังสือฉบับดังกล่าวไม่ได้มีการตำหนิติเตียน หรือจะเข้ามาแทรกแซงการเมืองภายในของเราแต่อย่างใด แต่สื่อได้แปลเนื้อหาดังกล่าวออกมาอย่างบิดเบือน มีการดัดแปลงเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ซึ่งถือเป็นการทำลายประเทศ และทำให้ไอพียูตกเป็นเครื่องมือการเมืองภายในประเทศไทย
ด้าน พ.ญ.พรพันธุ์กล่าวเสริมว่า หนังสือฉบับนี้อยู่ในระดับการเตือนอย่างฉันมิตรมีเนื้อหาเบามาก เพราะทางไอพียูเองก็รู้ตัวว่าไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมภายในประเทศไทยได้อยู่แล้ว ทางศาล หรือ ป.ป.ช.ที่ได้รับหนังสือเตือนเองก็อาจจะไม่จำเป็นต้องนำมาพิจารณาเลยก็ยังได้ ขณะที่ที่ประชุมคณะ กมธ.การต่างประเทศมีความเห็นว่าการด่วนแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ของไอพียูจะทำให้เกิดการกระทบกระเทือนต่อกระบวนการยุติธรรมของไทย จึงอยากเรียกร้องให้ไอพียูทบทวนการแสดงความคิดเห็น
วันนี้ (23 เม.ย.) ที่อาคารัฐสภา 2 ห้อง 309 นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ส.ว.พิษณุโลก ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ วุฒิสภา และพ.ญ.พรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะรองประธาน กมธ.การต่างประเทศ ร่วมกันแถลงถึง กระแสข่าวที่สหภาพรัฐสภาสากล หรือไอพียู ส่งหนังสือเตือนการทำหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และศาลรัฐธรรมนูญ โดยนางพิกุลแก้วกล่าวว่า จากข้อเท็จจริงในเนื้อหาของหนังสือฉบับดังกล่าวไม่ได้มีการตำหนิติเตียน หรือจะเข้ามาแทรกแซงการเมืองภายในของเราแต่อย่างใด แต่สื่อได้แปลเนื้อหาดังกล่าวออกมาอย่างบิดเบือน มีการดัดแปลงเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ซึ่งถือเป็นการทำลายประเทศ และทำให้ไอพียูตกเป็นเครื่องมือการเมืองภายในประเทศไทย
ด้าน พ.ญ.พรพันธุ์กล่าวเสริมว่า หนังสือฉบับนี้อยู่ในระดับการเตือนอย่างฉันมิตรมีเนื้อหาเบามาก เพราะทางไอพียูเองก็รู้ตัวว่าไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมภายในประเทศไทยได้อยู่แล้ว ทางศาล หรือ ป.ป.ช.ที่ได้รับหนังสือเตือนเองก็อาจจะไม่จำเป็นต้องนำมาพิจารณาเลยก็ยังได้ ขณะที่ที่ประชุมคณะ กมธ.การต่างประเทศมีความเห็นว่าการด่วนแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ของไอพียูจะทำให้เกิดการกระทบกระเทือนต่อกระบวนการยุติธรรมของไทย จึงอยากเรียกร้องให้ไอพียูทบทวนการแสดงความคิดเห็น
