xs
xsm
sm
md
lg

SSI เจอพิษการเมือง หั่นเป้าขายเหล็กฯ โต 15%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สหวิริยาสตีลฯ หดเป้าการขายเหล็กแผ่นรีดร้อนฯ เหลือ 2.1 ล้านตันเท่าปีก่อน หลังได้รับผลกระทบจากความวุ่นวายทางการเมือง ฉุดยอดการใช้ลดลง มั่นใจปีนี้รายได้ยังโตแตะ 7.1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากปริมาณการขายเหล็กแท่งแบนที่ SSI UK เพิ่มขึ้นจนถึงจุดคุ้มทุน ลุ้นทั้งปีบริษัทฯ พลิกกลับมามีกำไรจากปีก่อนขาดทุน 7 พันล้านบาท

นายวิน วิริยประไพกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) (SSI) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ปรับลดเป้าหมายปริมาณการขายเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนในปีนี้อยู่ที่ 2.1 ล้านตันเท่ากับปีก่อน จากเดิมที่เคยตั้งเป้าปริมาณการขายเติบโตขึ้น 15% เนื่องจากได้รับผลกระทบสถานการณ์ทางการเมืองที่วุ่นวาย ทำให้ความต้องการใช้เหล็กแผ่นรีดร้อนฯ ในประเทศลดลงมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน

แม้ว่าปริมาณการขายเหล็กแผ่นรีดร้อนในปีนี้จะไม่โตขึ้น แต่คาดว่ารายได้บริษัทฯ คงโตได้ตามเป้าหมาย 10% มาอยู่ที่ระดับ 7.1 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 6.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากปริมาณการขายเหล็กรวมของกลุ่มสหวิริยาฯ เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 4 ล้านตันจากปีก่อน 3.3 ล้านตัน เป็นผลจากโรงถลุงเหล็ก SSI UK มีกำลังการผลิตเหล็กแท่งแบน (สแลป) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.2 ล้านตันจากปีก่อนผลิตอยู่ที่ 2.8 ล้านตัน โดยปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการขายเหล็กแท่งแบนให้บุคคลภายนอกคิดเป็น 60% ของกำลังการผลิตหรือประมาณ 1.9 ล้านตัน เพิ่มจากปีก่อน 7-8 แสนตัน เนื่องจากตลาดเหล็กในประเทศไทยชะลอตัวลง

“ขณะนี้ความต้องการใช้เหล็กแผ่นรีดร้อนในไทยลดลงมาอยู่ที่ 75% ของภาวะปกติ ซึ่งก็ลดลงไม่มาก แต่หากสถานการณ์การเมืองคลี่คลายโดยเร็วก็จะมีโอกาสที่ขายสูงกว่า 2.1 ล้านตัน ซึ่งการมีโรงถลุงเหล็กที่อังกฤษทำให้บริษัทฯ สามารถทำตลาดในอเมริกาเหนือ และยุโรปที่มีความต้องการใช้เหล็กสูง ราคาดี เนื่องจากเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ฟื้นตัวอย่างชัดเจน และเป็นตลาดที่ราคาเหล็กสูงสุดในโลก ทำให้ภาพรวมกลุ่มบริษัทฯ มียอดขายไม่ตก เพราะขายส่งออกได้”

นายวินกล่าวอย่างมั่นใจว่า ในปีนี้โรงถลุงเหล็ก SSI UK จะมีผลการดำเนินงานถึงจุดคุ้มทุน (Break event) จากปีก่อนที่ขาดทุนมาก เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการลงทุนโครงการPCI ที่ใช้ถ่านหินบดละเอียดและฉีดเข้าไปในเตาถลุงเหล็กเพื่อลดต้นทุนด้านพลังงานลง ซึ่งขณะนี้อุปกรณ์ดังกล่าวได้มีการเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตมาอยู่ที่ระดับ 75% ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ให้โรงงานถลุงเหล็กมีอัตราการใช้การผลิตอยู่ที่ 90% ของกำลังผลิตรวม และส่วนต่างราคาเหล็กกับแร่เหล็ก (สเปรด) ก็ดีขึ้นกว่าปีก่อนด้วย ซึ่งจะทำให้ไม่ประสบปัญหาขาดทุนอีก

นอกจากนี้ บริษัทฯ ก็จะลงทุนเพิ่มเติมใโครงการที่เล็ก ใช้เวลาไม่นาน ใช้เงินลงทุนน้อย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในโรงถลุงเหล็กด้วย อาทิ การปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าที่ SSI UK แทนการลงทุนขยายกำลังการผลิตที่ใช้เงินลงทุนสูง ซึ่งหลังจากโรงถลุงเหล็กมีกำไรจากการดำเนินงาน บริษัทฯ จะพิจารณาดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อลดภาระต้นทุนทางการเงินต่อไป

ส่วนโรงงานผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนฯ ของสหวิริยาสตีลฯ ในไทย พบว่าขณะนี้ค่าการรีดก็พอใช้ได้อยู่ที่ 120 กว่าเหรียญสหรัฐ/ตัน ใกล้เคียงค่ารีดเหล็กปีก่อน ทำให้มั่นใจว่าปีนี้จะมีผลกำไรสุทธิต่อเนื่องจากปีก่อน ทำให้ปีนี้ SSI น่าจะมีกำไร จากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 7.1 พันล้านบาท

นายวินกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้มีนักลงทุนหลายรายสนใจที่จะเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรในโรงถลุงเหล็ก SSI UK แต่บริษัทฯ จะคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าเป็นพันธมิตรเป็นสำคัญ เน้นการปรับปรุงธุรกิจเพื่อเพิ่มมูลค่าธุรกิจให้ดีขึ้น โดย SSI ไม่ยึดติดว่าจะต้องเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในโรงถลุงเหล็กอีกต่อไป หากพันธมิตรมีส่วนช่วยให้ธุรกิจดียิ่งขึ้นก็มีโอกาสที่จะถือหุ้นใหญ่ได้

ส่วนปัญหาความวุ่นวายระหว่างยูเครนกับรัสเซียในช่วงนี้จะส่งผลดีและผลเสียต่อตลาดโลก หากกลุ่มผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (จี 7) เดินหน้าคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มขึ้นจะทำให้ปริมาณเหล็กส่งออกจากรัสเซียน้อยลง ดันราคาเหล็กให้สูงขึ้น แต่เนื่องจากรัสเซียเป็นประเทศส่งออกพลังงานให้แก่ยุโรป ก็จะมีผลทำให้ต้นทุนด้านพลังงานขยับขึ้นตามไปด้วย

ปัจจุบันราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนในเอเชียอยู่ที่ 670 เหรียญสหรัฐ/ตัน ต่ำกว่าตลาดสหรัฐฯ ที่ 750 เหรียญสหรัฐ เนื่องจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง
กำลังโหลดความคิดเห็น