การบินไทยเผยไตรมาส 1/57 ขาดทุนสูงกว่าคาดการณ์ถึง 30 ล้าน ชี้สาเหตุหลักปัญหาการเมืองในประเทศ และคู่แข่งในตลาดเพิ่มขึ้น ทำผู้โดยสารหลักจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี ลดเที่ยวไทยไม่ปลอดภัย เตรียมแผนกระตุ้นตลาดครึ่งปีหลัง เพิ่มสัดส่วนขายตั๋วผู้โดยสารต่อเครื่องจาก 26% เป็น 30% แบ่งตำแหน่งกับไทยสมายล์และนกแอร์ให้ชัดเจนขึ้น ช่วยทั้งปีอย่างน้อยจะไม่ขาดทุน พร้อมเดินหน้าโครงการเกษียณก่อนกำหนด ลดค่าใช้จ่ายพนักงานลง
นายโชคชัย ปัญญายงค์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทย ที่มี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นประธานวานนี้ (21 เม.ย.) ว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ยังยืดเยื้อทำให้ส่งผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่จะหลีกเลี่ยงในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยแม้จะมีประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว และในตลาดการบินที่มีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้นในขณะที่จำนวนผู้โดยสารลดลงได้ส่งผลกระทบต่อการบินไทย โดยคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 2557 (ม.ค.-มี.ค.) จะมีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 71.1% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี Cabin Factor เฉลี่ย 79.8% ส่วนจำนวนผู้โดยสารรวมไตรมาส 1/2557 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลง 12.6% และคาดว่าจะทำให้ไตรมาส 1 ปี 2557 จะขาดทุนเพิ่มมากกว่าที่ประมาณการอีก 30 ล้านบาท
โดยบอร์ดได้รับทราบผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในเดือนมีนาคม 2557 ซึ่งมีจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 1.59 ล้านคน ลดลงจากปีก่อน 20.5% โดยมี Cabin Factor รวมเฉลี่ย 68.7% ต่ำกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนที่มี Cabin Factor เฉลี่ย 80.3% โดยเส้นทางภูมิภาค Cabin Factor ลดลงจากปีก่อนที่ 81.9% เหลือ 68.3% เส้นทางระหว่างประเทศลดลงจาก 79.1 6 เหลือ 69.0% และเส้นทางบินในประเทศลดลงจาก 79.9% เหลือ 68.9% สำหรับการบินไทยสมายล์มี Cabin Factor เฉลี่ย 69.0% ส่วนการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์มีอัตราส่วนการบรรทุกสินค้า (Freight Load Factor) โดยรวมทั้งใต้ท้องเครื่องบิน (Belly) และเครื่องบินขนส่งสินค้า (Freighter) เฉลี่ย 58.0% สูงกว่าปีก่อนที่มีเฉลี่ย 54.7%
นายโชคชัยกล่าวว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ไตรมาส 1 กระทบมากมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนเข้าประเทศไทยลดลงถึง 27.2% นักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นลดลง 25.2% และจากเกาหลีลดลง 12.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ผู้โดยสารของการบินไทยจากจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีลดลง 12.6%, 8% และ 17% ตามลำดับ โดยคาดหมายว่าสถานการณ์ในประเทศจะคลี่คลายเร็วๆ นี้ และมีสัญญาณในทางบวกที่จะทำให้การท่องเที่ยวของไทยฟื้นตัวได้เร็ว และส่งผลต่อผลประกอบการทั้งปี 2557 ที่จะไม่ขาดทุน
โดยขณะนี้มีแผนกระตุ้นตลาดและเพิ่มรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังแล้ว เช่น เน้นขายผู้โดยสารที่เดินทางต่อเครื่อง (Network) เพิ่มจากเดิมที่ขายแบบ Point to Point โดยใช้ข้อได้เปรียบที่ตั้งของไทยที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคที่ช่วยลดเวลา และด้วยราคาที่ถูกกว่าคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนจากปัจจุบันที่มีผู้โดยสารต่อเครื่องประมาณ 26-27% เป็น 30% พร้อมกันนี้ จะเร่งสรุปแผนกระตุ้นตลาดในช่วงครึ่งปีหลังและเสนอบอร์ดเห็นชอบ รวมถึงประชุมเวิร์กชอปกันในเดือนมิถุนายนนี้ โดยมีกลยุทธ์หลักคือ การปรับราคาขายให้ทันสถานการณ์การแข่งขัน, บริการแบบพรีเมียม, ปรับยุทธศาสตร์ในบริษัทให้มีความคล่องตัว และกำหนดตำแหน่งและแบ่งตลาดในเชิงกลยุทธ์ของการบินไทย ไทยสมายล์ และนกแอร์ที่ชัดเจนโดยร่วมมือเป็น Network มากขึ้น
สำหรับมาตรการลดค่าใช้จ่ายในส่วนของพนักงานโดยใช้โครงการเกษียณก่อนอายุนั้น นายโชคชัยกล่าวว่า อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดโครงการเพิ่มเติมเพื่อกำหนดให้ชัดเจนในเรื่องกลุ่มคนและจำนวน โดยใช้หลักสมัครใจ โดยถือเป็นปกติ มุ่งเน้นหน่วยงานที่มีจำนวนคนมากเกินไป, กลุ่มที่ไม่มีความรู้ตรงกับสายงาน และกลุ่มที่มีอายุมากเกินไปในสายงานนั้นๆ ยืนยันว่าไม่ได้เน้นที่ตัวเลขค่าใช้จ่ายของบริษัทที่ลดลง แต่ต้องการประสิทธิภาพการทำงานและให้พนักงานที่อาจจะไม่เหมาะกับงานที่ทำอยู่มีทางเลือก โดยโครงการจะมีความชัดเจนในเดือนพฤษภาคมนี้