xs
xsm
sm
md
lg

บพ.จี้ ทอท.สอบข้อเท็จจริงปล่อยคนนอกขึ้นนกแอร์ สั่งเพิ่มมาตรการสงกรานต์ คาดผู้โดยสารเพิ่มกว่า 50%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดีกรมการบินพลเรือน (บพ.)
บพ.สั่ง ทอท.และนกแอร์เร่งสอบสวนข้อเท็จจริงและแนวทางแก้ไข เหตุปล่อยคนภายนอกขึ้นเครื่องได้โดยไม่มีตั๋ว รายงานผลใน เม.ย.นี้ก่อนส่งเจ้าหน้าที่ตรวจซ้ำ ชี้อาจถึงขั้นเพิกถอนใบรับรองผู้จัดการท่าอากาศยานหาดใหญ่ได้ ยันระบบและมาตรฐานความปลอดภัยมีคู่มือกำกับชัดเจนดีแล้ว อยู่ที่ผู้ปฏิบัติ ซัด ทอท.ยังไม่ให้ข้อเท็จจริงแค่พักงานเจ้าหน้าที่ืหวั่นบานปลายกระทบความเชื่อมั่น กำชับเข้มมาตรการทุกสนามบินช่วงสงกรานต์ คาดผู้โดยสารเพิ่มกว่าปีก่อน 50%

นายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดีกรมการบินพลเรือน (บพ.) เปิดเผยว่า กรณีที่มีบุคคลภายนอกที่ไม่มีตั๋วโดยสารและบัตรประชาชนเข้าไปถึงบนเครื่องบินสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD7105 (เส้นทางบินหาดใหญ่-กรุงเทพฯ) เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2557 ที่ผ่านมานั้นถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจ และไม่ควรเกิดขึ้นได้ และยังเป็นข้อสงสัยที่ไม่มีการชี้แจงว่าบุคคลดังกล่าวผ่านจุดตรวจเช็กบัตรโดยสารที่มีถึง 2 ชั้นก่อนจะถึงตัวเครื่องบิน เข้าไปได้อย่างไร โดยทั้งบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และสายการบินนกแอร์ที่ทำหน้าที่เช็กบัตรโดยสารของทั้ง 2 จุดยังไม่สามารถชี้แจงได้

โดยเหตุการณ์นี้ถือว่าร้ายแรง แม้จะยืนยันว่าบุคคลดัวกล่าวสติไม่ดีแต่เป็นเรื่องที่กระทบต่อภาพลักษณ์ความปลอดภัยของสนามบินประเทศไทย บพ.ในฐานะผู้กำกับดูแลการให้บริการและความปลอดภัยของทุกสนามบินให้เป็นไปตามมาตรฐานได้ให้ทาง ทอท.และสายการบินนกแอร์ดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงและแจ้งผลสอบพร้อมกับแนวทางการแก้ไขมายัง บพ.ภายในเดือนเมษายนนี้ หลังจากนั้น บพ.จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอีกครั้งเพื่อพิจารณาต่อไปว่าเป็นความบกพร่องถึงขั้นที่ต้องเพิกถอนใบอนุญาตผู้จัดการท่าอากาศยานสาธารณะของท่าอากาศยานหาดใหญ่และใบอนุญาตการบินของนกแอร์หรือไม่ด้วย

“บพ.มีคู่มือการทำงานในทุกขั้นตอนตามมาตรฐานความปลอดภัย ดังนั้นจึงมั่นใจว่าระบบและมาตรการที่กำหนดไว้ดีอยู่แล้ว จุดบกพร่องจะอยู่ที่เจ้าหน้าผู้ปฏิบัติงานที่อาจจะไม่ระมัดระวังมากกว่า ซึ่งเรื่องเจ้าหน้าที่ตรวจสอบผู้โดยสารในชั้นแรกที่เป็นของ ทอท.มีคำสั่งพักงานเจ้าหน้าที่เท่านั้น ยังมีข้อมูลที่ไม่ตรงกันว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของ ทอท.เองหรือเป็นบริษัท Outsource ซึ่งจะต้องสอบสวนไปถึงเรื่องการฝึกอบรมด้วยว่าได้มาตรฐานหรือไม่ ส่วนพนักงานของนกแอร์ก็เป็นอีกจุดที่ยังไม่มีการชี้แจงมาว่าปล่อยให้ผ่านเข้าตัวเครื่องไปได้อย่างไร เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมา 8-9 ปีแล้ว โดยก่อนหน้านั้นเคยเกิดขึ้นที่สนามบินภูเก็ตเป็นเด็กที่เข้าถึงเครื่องบินได้จากความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นลูกของชายหญิงคู่หนึ่งที่เดินเข้ามาพร้อมกัน” นายวรเดชกล่าว

ทั้งนี้ ยังมีความกังวลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือว่าสนามบินไทยไม่ปลอดภัย แม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีการแสดงท่าทีใดๆ จากผู้เกี่ยวข้องก็ตาม แต่หากมีข้อกังวลและมีประเทศใดประกาศห้ามประชาชนหรือสายการบินของตัวเองเดินทางเข้ามาไทยก็จะเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน โดยเฉพาะ FAA ของสหรัฐอเมริกาที่มีหน้าที่กำกับดูแลการพัฒนาความปลอดภัยด้านการปฏิบัติการบิน เคยห้ามสายการบินไทยบินเข้าอเมริกามาแล้วเมื่อปี 1996 ซึ่งหากเกิดไม่มั่นใจขึ้นมาอีกอาจจะขอทำเอ็มโอยูเพื่อเข้ามาตรวจสอบสนามบินของไทยได้ ส่วนองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบมาตรฐานโดยตรงนั้นจะมีกำหนดการตรวจสอบสนามบินอยู่แล้ว

โดยปัจจุบัน ตาม พ.ร.บ.เดินอากาศจะมีการประกาศจัดตั้งสนามบินหรือให้ใบอนุญาตสนามบิน โดย บพ.อยู่ระหว่างปรับปรุงกฎหมานเพื่อเปลี่ยนจากระบบใบอนุญาตเป็นใบรับรองสนามบิน ซึ่งจะออกได้ต่อเมื่อมีใบรับรองที่เกี่ยวข้องอีก 7 เรื่อง เช่น ใบรับรองผู้จัดการท่าอากาศยานสาธารณะ, ใบรับรองเครื่องช่วยเดินอากาศ เป็นต้น โดยที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ที่มี รมว.คมนาคมเป็นประธานเห็นชอบเท่านั้น

สำหรับการให้บริการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ของที่ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบทั้ง 26 แห่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้น บพ.ได้ตั้งศูนย์ประสานงานการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือประสบภัย โดยให้รายงานสถานการณ์ต่อศูนย์ปลอดภัยคมนาคมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ตลอด 24 ชั่วโมง และเข้มงวดขั้นตอนการตรวจบัตรโดยสารและตรวจค้นสัมภาระ โดยคาดว่าตลอดช่วงสงกรานต์จะมีเที่ยวบินเฉลี่ย 247 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มจากปี 56 ประมาณ 46 เที่ยวบิน หรือ 22.88% คาดว่ามีผู้โดยสารเฉลี่ย 33,799 คนต่อวัน เพิ่มจากปี 56 ประมาณ 12,267 คนต่อวัน หรือ 56.97%

โดยระหว่างวันที่ 11-16 เมษายนนี้ บพ.ได้อนุญาตเพิ่มเที่ยวบินในประเทศจำนวน 28 เที่ยวบิน และเที่ยวบินต่างประเทศระหว่างวันที่ 2-21 เมษายนจำนวน 158 เที่ยวบิน เที่ยวบินเช่าเหมาลำระหว่างวันที่ 7-21 เมษายนเพิ่มขึ้น 69 เที่ยวบิน โดยท่าอากาศยานกระบี่มีเที่ยวบินเพิ่มสูงสุดจากปี 2556 ถึง 2 เท่า มีจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 176 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 42,679 คน รองลงมาท่าอากาศยานอุดรธานี และท่าอากาศยานขอนแก่น สรุปภาพรวมในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีเที่ยวบินเพิ่ม 245 เที่ยวบิน เป็นสัญญาณว่าสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของไทยเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น