ทอท.สั่งพักงานและสอบสวนข้อเท็จจริงพนักงานท่าอากาศยานหาดใหญ่ที่เกี่ยวข้อง เหตุปล่อยคนขึ้นเครื่องนกแอร์ DD7105 โดยไม่มีบัตรโดยสาร ขอโทษมาตรการหละหลวม ยันผ่านการตรวจอาวุธและไม่พบสิ่งผิดปกติ พร้อมล้อมคอก เพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจบัตรโดยสาร เพิ่มความเข้มข้นการตรวจค้น
นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2557 เวลาประมาณ 11.00 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำบนเครื่องบินตรวจพบมีบุคคลภายนอก ชื่อนายอาซิส ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 45 ปี เข้าไปบนเครื่องของบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เที่ยวบินที่ DD7105 (เส้นทางบินหาดใหญ่-กรุงเทพฯ) โดยไม่มีบัตรโดยสาร และบัตรที่นั่งเครื่องบิน ดังปรากฏเป็นข่าวนั้น นาวาอากาศเอก นรนิติ์ ผลกานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ได้รายงานว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วปรากฏว่า
1. นายอาซิส ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 45 ปี ได้เดินผ่านจุดตรวจค้นของท่าอากาศยานหาดใหญ่ และจุดตรวจบัตรโดยสารก่อนขึ้นเครื่อง โดยไม่ได้รับการตรวจบัตรโดยสาร และไม่มีบัตรที่นั่งเครื่องบิน โดยได้รับการตรวจค้นตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยาน และไม่พบว่ามีอาวุธ หรือสิ่งต้องห้ามแต่ประการใด และหลังจากนั้นก่อนขึ้นเครื่องบุคคลผู้นี้ได้ผ่านช่องทางผู้โดยสารขึ้นเครื่องตามปกติ ซึ่ง ทอท.ได้นำตัวส่งเจ้าหน้าตำรวจเพื่อสอบสวนสาเหตุในเชิงลึกต่อไป
2. เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ท่าอากาศยานหาดใหญ่ได้เชิญหน่วยงานราชการ บริษัท สายการบินที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเพื่อรับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วิเคราะห์หาสาเหตุ ตลอดจนแนวทางแก้ไขในทันที โดยได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตรวจค้นบุคคล คือ เพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจบัตรโดยสารและบัตรประชาชน ณ จุดตรวจค้น ก่อนผ่านเข้าห้องพักผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ, ให้หัวหน้าชุดตรวจค้นเข้มงวดการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง, ให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานห้อง CCTV เฝ้าระวัง และสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่องทุกจุด ทุกพื้นที่ รวมถึงการรายงานเหตุการณ์โดยรอบให้ศูนย์รักษาความปลอดภัยทราบทุก 30 นาที
3. ได้มีการสั่งพักงานพนักงานท่าอากาศยานหาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป
นายเมฆินทร์กล่าวว่า ทอท.ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ท่าอากาศยานหาดใหญ่และท่าอากาศยานทุกแห่งที่อยู่ในความรับผิดชอบดำเนินงานของ ทอท.ปฏิบัติตามมาตรการ รปภ.อย่างเคร่งครัด และเป็นไปตามกฎขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นอีก และจากการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยดังกล่าวข้างต้น ทอท.ขอความร่วมมือจากหน่วยงานราชการ บริษัทสายการบิน ผู้ประกอบการ ให้ปฏิบัติตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการ ณ ท่าอากาศยาน