xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” สั่งตรวจสต๊อกโรงงานสกัด-โรงกลั่น หลังพบน้ำมันปาล์มเริ่มตึงตัว หวั่นกระทบผู้บริโภค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสต๊อกโรงงานสกัดและโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม หลังพบสถานการณ์เริ่มตึงตัว เตรียมงัดมาตรการป้องกัน ทั้งชะลอส่งออก และยืดการใช้ B5 เป็น B7 ออกไปก่อน พร้อมขอความร่วมมือผู้ผลิตยืนราคาน้ำมันปาล์มขวดที่ 42 บาท เชื่อดูแลได้ เหตุเซฟตี้สต๊อกยังเพียงพอ และอีก 2 เดือนผลผลิตใหม่ออก ส่วนแผนสอง เล็งผลิตน้ำมันปาล์มธงฟ้า 1 ล้านขวดป้อนตลาด

นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบสถานการณ์ผลผลิตปาล์มดิบ และตรวจสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ เพื่อนำข้อมูลมากำหนดแนวทางและมาตรการในการดูแลเกษตรกรและผู้บริโภคไม่ให้ได้รับผลกระทบ ซึ่งขณะนี้ในส่วนของเกษตรกรไม่น่าเป็นห่วง เพราะเป็นช่วงปลายฤดูผลปาล์มดิบออกสู่ตลาดน้อย โดยล่าสุดราคาได้ขยับขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 6 บาทแล้ว แต่ที่น่าเป็นห่วงในส่วนของผู้บริโภคในเรื่องราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดที่อาจจะมีความตึงตัวได้ จึงต้องหาทางป้องกันไว้ก่อน

“ขอให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสถานการณ์ผลผลิต และตรวจสอบสต๊อกโรงงานสกัดและโรงกลั่นว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ รวมถึงให้ตรวจสอบสถานการณ์การส่งออกว่าเป็นอย่างไร เพราะช่วงนี้เป็นช่วงปลายฤดูจึงต้องดูแลไม่ให้เซฟตี้สต๊อกขาด เพราะจะมีผลต่อราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดในท้องตลาดได้”

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีสต๊อกคงเหลือประมาณ 2.3 แสนตัน ซึ่งเพียงพอใช้ได้ประมาณ 2 เดือน และจะพอดีกับช่วงที่ผลผลิตฤดูกาลใหม่เริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือน ก.พ. 2557 เป็นต้นไป

นายสมชาติกล่าวว่า หากพบว่าสถานการณ์น้ำมันปาล์มเริ่มไม่ปกติ กรมฯ จะพิจารณามาตรการออกมาใช้เพื่อไม่ให้เกิดการตึงตัว โดยอาจจะเริ่มตั้งแต่การขอให้ชะลอการส่งออก การเก็บภาษีส่งออกน้ำมันปาล์ม และการขอความร่วมมือไปยังกระทรวงพลังงานเพื่อขอให้ชะลอการบังคับใช้น้ำมันปาล์มผสมในน้ำมันดีเซลจาก B5 เป็น B7 ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2557 ออกไปก่อน แต่ถ้าไม่มีปัญหาก็จะปล่อยให้กลไกตลาดทำงานตามปกติ

โดยการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบพบว่า เดือน ส.ค. ส่งออก 7.5 หมื่นตัน ก.ย. 4 หมื่นตัน ต.ค. 6.8 หมื่นตัน พ.ย. 4.2 หมื่นตัน คาดว่าทั้งปีจะส่งออกรวม 5.78 แสนตัน

สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดขณะนี้ หลังจากที่ราคาผลปาล์มดิบขยับขึ้นเป็น กก.ละ 6 บาท ยอมรับว่าเริ่มตึงตัว เพราะต้นทุนปาล์มดิบที่ 6 บาท เท่ากับต้นทุนน้ำมันปาล์มบรรจุขวดที่ 42 บาท ซึ่งเท่ากับราคาเพดานที่ให้จำหน่าย โดยกรมฯ ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ผลิตให้ตรึงราคาจำหน่ายไปก่อนเพราะยังมีสต๊อกเก่าอยู่ และเชื่อว่าจะบริหารต้นทุนได้จนกว่าผลผลิตฤดูใหม่จะออกมา เพื่อเป็นการดูแลผู้บริโภค

ส่วนราคาน้ำมันถั่วเหลือง ราคายังอยู่ในระดับต่ำ ราคาจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไปอยู่ที่ขวดละ 48-52 บาท จากราคาเพดานที่ 55 บาท เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบไม่ขยับสูงขึ้น โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 20 บาท ทำให้ไม่มีแรงกดดันต่อราคาน้ำมันปาล์ม เพราะหากน้ำมันปาล์มปรับขึ้นก็จะทำให้ผู้บริโภคหันไปบริโภคน้ำมันถั่วเหลืองมากขึ้น

นายสมชาติกล่าวว่า กรมฯ เชื่อว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มจากนี้ไปจะสามารถบริหารจัดการได้ เพราะเซฟตี้สต๊อกก็ไม่ขาดแคลน และอีก 1-2 เดือนผลผลิตฤดูใหม่ก็จะออกมา แต่หากมีความจำเป็นจริงๆ กรมฯ ก็จะเสนอให้มีการนำน้ำมันปาล์มดิบที่กรมฯ เคยซื้อไว้ และคงเหลืออยู่ประมาณ 1,650 ตันมาผลิตเป็นน้ำมันปาล์มบรรจุขวดธงฟ้า ซึ่งจะผลิตได้ประมาณ 1 ล้านขวดออกจำหน่ายแก่ประชาชนในราคาขวดละ 38 บาท ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาได้ในระดับหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น