ก.พลังงานยอมรับน้ำมันสิงคโปร์พุ่งทำให้ค่าการตลาดกลุ่มเบนซินและดีเซลต่ำ ไฟเขียวการปรับราคากลุ่มเบนซินอยู่ที่ผู้ค้าจะตัดสินใจ แต่ดีเซลรัฐต้องใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ ดูแลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรรอ “กบง.” เรียกประชุมอีกครั้ง พร้อมจ่อลดสเปกดีเซลจากบี 5 เหลือบี 2-3 ลงหลังสต็อกน้ำมันปาล์มวูบ สมาคมน้ำมันปาล์มส่งสัญญาณพาณิชย์ดูแลด่วน
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ค่าการตลาดน้ำมันกลุ่มเบนซินค่อนข้างต่ำมากเฉลี่ย 1.20 บาทต่อลิตร เพราะราคาน้ำมันสิงคโปร์ขยับสูงขึ้น และเงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 32.30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในส่วนของกลุ่มเบนซินแล้วแต่ผู้ค้าน้ำมันตัดสินใจ แต่ส่วนของกลุ่มดีเซลทางภาครัฐใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ดูแลไม่ให้ราคาเกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งค่าการตลาดดีเซลขณะนี้อยู่ที่ 1.24 บาทต่อลิตรขณะที่ค่าการตลาดที่เหมาะสมสำหรับผู้ค้าต้องไม่ต่ำกว่า 1.50 บาทต่อลิตร ดังนั้นก็คงจะต้องติดตามอีกระยะก่อนที่จะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เพื่อพิจารณาการชดเชยส่วนของดีเซลลง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ กบง.มีมติว่าให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เตรียมประกาศปรับลดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลบี 100 ในไบโอดีเซลเหลือ 2-3% หรือบี 3 จากปัจจุบัน ผสม 5% หรือบี 5 โดยก่อนประกาศให้ศึกษาสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบให้ชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งล่าสุดกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่าสต๊อกลดลงเพราะมีการส่งออก และผลปาล์มดิบขยับจาก 3 บาทต่อกิโลกรัมเป็น 5.60 บาทต่อ กก. น้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ขยับขึ้นเป็น 32.60 บาทต่อลิตรทำให้บี 100 ราคาสูงขึ้นด้วย ซึ่งดีเซลตลาดโลกเองก็เริ่มสูงขึ้นหากผสมบี 100 มากก็จะยิ่งมีต้นทุนเพิ่มขึ้น
“การลดสัดส่วนดังกล่าวลงก็คงจะไม่มีผลกระทบต่อการประกาศนโยบายใช้บี 7 ในวันที่ 1 ม.ค. 2557 เพราะการผสมสามารถยืดหยุ่นให้ต่ำกว่าได้เพื่อดูแลต้นทุน และเสถียรภาพของปาล์มทั้งในแง่ผู้บริโภคด้านใช้เป็นอาหารและพลังงาน รวมไปถึงการดูแลเกษตรกร เพราะหากดูดซับมาผลิตไบโอดีเซลมากเกินไปก็จะกระทบต่อราคาทั้งระบบ” นายสุเทพกล่าว
นางวิวรรณ บุณยประทีปรัตน์ เลขาธิการสมาคมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์ที่สต๊อกปาล์มลดลงและราคาปาล์มขยับขึ้นเป็นผลมาจากราคาปาล์มในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากประเทศจีนมีการนำเข้าปาล์มเพื่อรองรับเทศกาลตรุษจีนที่จะมีขึ้นต้นปี 2557 ประกอบกับประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตปาล์มรายใหญ่ประสบภัยธรรมชาติ จึงส่งผลให้สต๊อกปาล์มในประเทศลดต่ำกว่า 3 แสนตันต่อเดือน เหลือเพียง 2.6 แสนตันต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลคือราคาน้ำมันปาล์มได้ขยับราคาขึ้นด้วยและสูงกว่าราคาเพดานที่รัฐบาลควบคุมราคาปาล์มขวดขายไว้ไม่ให้เกินขวดละ 42 บาทต่อขวดลิตร (ซีพีโอ 27-29 บาท) ดังนั้นสมาคมโรงกลั่น และโรงสกัดน้ำมันปาล์มจึงส่งสัญญาณเตือนไปยังกระทรวงพาณิชย์ให้เตรียมรับมือ และเสนอให้ภาครัฐนำเงินมาชดเชยส่วนต่างต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เพื่อไม่ให้ปาล์มขวดเกิน 42 บาทและไม่กระทบต่อระบบการค้าปาล์มทั้งระบบต่อไป
นายธนารักษ์ พงษ์เภตรา รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบของไทยขยับไปอยู่ที่กว่า 32 บาทต่อลิตร ซึ่งสูงกว่าตลาดโลกที่อยู่ประมาณ 26 กว่าบาทต่อลิตรเท่านั้น ซึ่งเข้าใจว่าส่วนหนึ่งน่าจะมาจากต้องส่งออกตามสัญญา แต่กระทรวงพาณิชย์น่าจะทราบข้อมูลเหล่านี้ดีซึ่งผู้ผลิตเองก็รู้สึกแปลกใจเช่นกัน