ปลัด ก.พลังงานสั่ง “ปตท.” เกาะติดราคาแอลพีจีตลาดโลก หลังพบราคาซื้อขายล่วงหน้า ม.ค. 57 พุ่งทะลุพันเหรียญต่อตันผิดปกติสวนทางเกินราคาดูไบ ด้าน สนพ.เผยเคาะ Feed in tariff ให้การผลิตไฟจากหญ้าเนเปียร์เพิ่มขึ้นจาก 4.50 บาทต่อหน่วยเป็น 4.90 บาทต่อหน่วย
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ติดตามสถานการณ์ราคาก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจีตลาดโลกใกล้ชิดหลังพบราคาตลาดโลกซื้อขายล่วงหน้า ม.ค. 57 ปรับขึ้นสูงขึ้นผิดปกติ โดยเคลื่อนไหวที่ 1,029 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก ธ.ค.เคลื่อนไหวที่ 1,051 เหรียญต่อตัน พ.ย. อยู่ที่ 891 เหรียญต่อตัน ทั้งนี้เพื่อที่จะได้เตรียมแผนรองรับราคาที่สูงขึ้นโดยเฉพาะการรณรงค์การใช้อย่างประหยัด
“แอลพีจีตลาดโลกขณะนี้ถือว่าราคาสูงผิดปกติที่สูงขึ้นมากและสวนทางน้ำมันดิบดูไบ โดยปีที่แล้วราคาน้ำมันดิบดูไบปีที่ผ่านมาเฉลี่ย 109 เหรียญต่อบาร์เรล แอลพีจีเฉลี่ย 1,000 เหรียญต่อตัน แต่ขณะนี้ดูไบเฉลี่ย 100 เหรียญ แต่แอลพีจีขึ้นไปมาก ซึ่งเบื้องต้นเข้าใจว่าอาจจะมาจากสาเหตุเข้าสู่ฤดูหนาว และอีกปัจจัยคาดว่าความต้องการจากญี่ปุ่นมีเพิ่มขึ้นมากจากการหยุดเดินเครื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์” นายสุเทพกล่าว
ทั้งนี้ จากราคาแอลพีจีตลาดโลกที่สูงขึ้นส่งผลให้ราคาแอลพีจีภาคอุตสาหกรรมตั้งแต่ ต.ค. 56 ที่ประกาศไว้ระดับ 30.13 บาทต่อกิโลกรัมจะเป็นระดับราคาดังกล่าวต่อเนื่องไปจนถึงอย่างน้อย ม.ค. 57 ซึ่งราคาดังกล่าวรัฐกำหนดเพดานไว้ไม่ให้เกิน 30.13 บาทต่อ กก.ทำให้ขณะนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องจ่ายชดเชยส่วนต่างราคาเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาแอลพีจีที่แท้จริงหากยึดราคาตลาดโลกแล้วในเดือน พ.ย.ควรจะต้องอยู่ที่ 32.37 บาต่อกก.
สำหรับที่ประชุม กบง.ได้เห็นชอบปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับดีเซลลดลง 0.60 บาทต่อลิตร จากเดิมจัดเก็บเข้ากองทุนน้ำมันฯ 1.10 บาท/ลิตร เป็น 0.50 บาท/ลิตร โดยที่จะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลยังคงไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ส่วนน้ำมันประเภทอื่นๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ แต่อย่างใด
ทั้งนี้ การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ครั้งนี้จะทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับลดลงประมาณ 29.79 ล้านบาท/วัน จากเดิมมีรายรับประมาณ 1.06 ล้านบาท/วัน กลายเป็นมีรายจ่ายประมาณ 28.73 ล้านบาท/วัน โดยที่กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิเป็นบวก 5,360 ล้านบาท ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2556
นายเสมอใจ ศุขเมฆ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า ขณะนี้ สนพ.ได้พิจารณาปรับปรุงอัตราการรับซื้อค่าไฟฟ้าตามต้นทุนที่แท้จริง หรือ Feed in tariff ใหม่แล้วเสร็จตามนโยบาย รมว.พลังงานแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของการผลิตไฟฟ้าจากหญ้าเนเปียร์ที่เดิมอยู่ที่ 4.50 บาทต่อหน่วยเพิ่มเป็น 4.90 บาทต่อหน่วย เนื่องจากพบว่าการปลูกหญ้ามีต้นทุนค่าปุ๋ยสูงจึงทำให้ไม่สามารถขายได้ในราคาต่ำได้และเมื่อนำไปผลิตไฟก็มีต้นทุนสูง