ศูนย์ข่าวภูเก็ต - บมจ.เอไอ เอนเนอร์จี เดินสายโรดโชว์ 15 จังหวัด ทำความเข้าใจก่อนเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) 445 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 1 บาท ด้านบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) ที่ปรึกษาทางการเงิน ระบุได้ผลตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทั่วทุกจังหวัดอย่างแน่นอน
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (14 พ.ย.) ที่ห้องอาหารจีน ชั้น 2 โรงแรมเมโทรโพล ภูเก็ต นายธนิต ธารีรัตนาวิบูลย์ รองประธานกรรมการบริหารบริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายอนุรักษ์ ธารีรัตนาวิบูลย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด และนายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร กรรมการบริหารบริษัท แอสเซทโปร แมเนจเม้น จำกัด ร่วมแถลงข่าวเดินสายโรดโชว์ให้แก่นักลงทุนในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก
นายอนุรักษ์ ธารีรัตนาวิบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) หรือ AIE ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์ม และน้ำมันปาล์มโอเลอีนผ่านกรรมวิธี ตรา “พาโมลา” เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมนำเสนอข้อมูลโรดโชว์ให้แก่นักลงทุน 15 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดระยอง, ชลบุรี, นครปฐม, ราชบุรี, เชียงใหม่, นครราชสีมา, ขอนแก่น, อุดรธานี, พิษณุโลก, นครสวรรค์, อุบลราชธานี, ภูเก็ต, สงขลา, สมุทรสาคร และกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 4-19 พ.ย.นี้ ทั้งนี้ เพื่อนำเสนอข้อมูลของบริษัทฯ ก่อนที่บริษัทจะเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 445 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
“โดยแบ่งเป็นหุ้นเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป จำนวน 170 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่ถือโดยบริษัท เอเชียน อินซูเลเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ AI จำนวน 275 ล้านหุ้น ซึ่งออกจำหน่ายในคราวเดียวกัน โดยเป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ AI จำนวน 250 ล้านหุ้น และเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป จำนวน 195 ล้านหุ้น AI E จะนำหุ้นสามัญเดิมออกเสนอขาย จำนวน 275 ล้านหุ้น โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นของ AI จำนวน 250 ล้านหุ้น โดยให้สิทธิการจองซื้อ ในสัดส่วน 2 หุ้นเดิม มีสิทธิจองซื้อหุ้น AIE ได้ 1 หุ้น (2 : 1) ส่วนอีก 195 ล้านหุ้น เป็นการเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป โดย AIE จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai)” นายอนุรักษ์กล่าว
นายอนุรักษ์ กล่าวถึงเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ว่า ทางบริษัทฯ จะนำไปใช้ในการลงทุนเครื่องจักรผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากกรดไขมันปาล์ม และนำไปปรับปรุงระบบกระบวนการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล รวมถึงการก่อสร้างถังจัดเก็บวัตถุดิบ และสินค้าสำเร็จรูป ลงทุนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ชำระคืนหนี้สถาบันการเงินบางส่วน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ซึ่งแผนการลงทุนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขยายงานของบริษัทฯ ในอนาคต ซึ่งถือเป็นการเพิ่มศักยภาพให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ จะมาจากการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลประมาณ 70% ส่วนอีก 30% มาจากจำหน่ายน้ำมันปาล์มเพื่อใช้สำหรับบริโภค โดยบริษัทฯ ประมาณการอัตราการเติบโตของรายได้ในปีนี้ไว้ที่ประมาณ 4,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 3,400 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการกลั่นน้ำมันปาล์มดิบอยู่ที่ 1,150 ตันต่อวัน จากเดิมที่มีกำลังการผลิต 350 ตันต่อวัน ซึ่งจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯ สามารถรองรับคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ได้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว
นายอนุรักษ์ กล่าวต่ออีกว่า ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 9% อัตรากำไรสุทธิ 4.4% ซึ่งถือเป็นอัตรากำไรที่สูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา โดยเป็นผลมาจากที่บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ มีบริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เอไอ พอร์ตส์ แอนด์ เทอมินัลส์ จำกัด (AIPT) ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือ และคลังน้ำมันเชื้อเพลิง 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร และอำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร และบริษัท เอไอ โลจิสติกส์ จำกัด (AIL) ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งทางทะเล ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยเรือขนส่งคุณภาพสูงให้บริการรวม 2 ลำ คือ “เรือธารีรัตนา 1” และ “เรือธารีรัตนา 3” ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯสามารถบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายได้โดยเฉลี่ยต่อปีได้เป็นจำนวนมาก
ด้าน นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 4 พ.ย-19 พ.ย. นี้ AIE เตรียมเดินสายให้ข้อมูลนักลงทุน 15 จังหวัด ได้แก่ ระยอง, ชลบุรี, นครปฐม, ราชบุรี, เชียงใหม่,นครราชสีมา, ขอนแก่น, อุดรธานี, พิษณุโลก, นครสวรรค์, อุบลราชธานี, ภูเก็ต, สงขลา, สมุทรสาคร และกรุงเทพฯ ทั้งนี้ เพื่อให้นักลงทุนตามจังหวัดดังกล่าวได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของ AIE ได้มากขึ้น เนื่องจาก AIE เป็นบริษัทฯ ที่มีพื้นฐานดีเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทนน้ำมันไบโอดีเซลจากฟอสซิล รวมถึงธุรกิจคลังน้ำมัน และการขนส่งน้ำมันทางทะเล ดังนั้น เชื่อว่าการโรดโชว์ในครั้งนี้จะสามารถสร้างความเข้าใจระหว่างนักลงทุน และบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนทั่วทุกจังหวัดอย่างแน่นอน
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (14 พ.ย.) ที่ห้องอาหารจีน ชั้น 2 โรงแรมเมโทรโพล ภูเก็ต นายธนิต ธารีรัตนาวิบูลย์ รองประธานกรรมการบริหารบริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายอนุรักษ์ ธารีรัตนาวิบูลย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด และนายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร กรรมการบริหารบริษัท แอสเซทโปร แมเนจเม้น จำกัด ร่วมแถลงข่าวเดินสายโรดโชว์ให้แก่นักลงทุนในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก
นายอนุรักษ์ ธารีรัตนาวิบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) หรือ AIE ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์ม และน้ำมันปาล์มโอเลอีนผ่านกรรมวิธี ตรา “พาโมลา” เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมนำเสนอข้อมูลโรดโชว์ให้แก่นักลงทุน 15 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดระยอง, ชลบุรี, นครปฐม, ราชบุรี, เชียงใหม่, นครราชสีมา, ขอนแก่น, อุดรธานี, พิษณุโลก, นครสวรรค์, อุบลราชธานี, ภูเก็ต, สงขลา, สมุทรสาคร และกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 4-19 พ.ย.นี้ ทั้งนี้ เพื่อนำเสนอข้อมูลของบริษัทฯ ก่อนที่บริษัทจะเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 445 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
“โดยแบ่งเป็นหุ้นเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป จำนวน 170 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่ถือโดยบริษัท เอเชียน อินซูเลเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ AI จำนวน 275 ล้านหุ้น ซึ่งออกจำหน่ายในคราวเดียวกัน โดยเป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ AI จำนวน 250 ล้านหุ้น และเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป จำนวน 195 ล้านหุ้น AI E จะนำหุ้นสามัญเดิมออกเสนอขาย จำนวน 275 ล้านหุ้น โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นของ AI จำนวน 250 ล้านหุ้น โดยให้สิทธิการจองซื้อ ในสัดส่วน 2 หุ้นเดิม มีสิทธิจองซื้อหุ้น AIE ได้ 1 หุ้น (2 : 1) ส่วนอีก 195 ล้านหุ้น เป็นการเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป โดย AIE จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai)” นายอนุรักษ์กล่าว
นายอนุรักษ์ กล่าวถึงเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ว่า ทางบริษัทฯ จะนำไปใช้ในการลงทุนเครื่องจักรผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากกรดไขมันปาล์ม และนำไปปรับปรุงระบบกระบวนการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล รวมถึงการก่อสร้างถังจัดเก็บวัตถุดิบ และสินค้าสำเร็จรูป ลงทุนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ชำระคืนหนี้สถาบันการเงินบางส่วน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ซึ่งแผนการลงทุนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขยายงานของบริษัทฯ ในอนาคต ซึ่งถือเป็นการเพิ่มศักยภาพให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ จะมาจากการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลประมาณ 70% ส่วนอีก 30% มาจากจำหน่ายน้ำมันปาล์มเพื่อใช้สำหรับบริโภค โดยบริษัทฯ ประมาณการอัตราการเติบโตของรายได้ในปีนี้ไว้ที่ประมาณ 4,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 3,400 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการกลั่นน้ำมันปาล์มดิบอยู่ที่ 1,150 ตันต่อวัน จากเดิมที่มีกำลังการผลิต 350 ตันต่อวัน ซึ่งจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯ สามารถรองรับคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ได้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว
นายอนุรักษ์ กล่าวต่ออีกว่า ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 9% อัตรากำไรสุทธิ 4.4% ซึ่งถือเป็นอัตรากำไรที่สูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา โดยเป็นผลมาจากที่บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ มีบริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เอไอ พอร์ตส์ แอนด์ เทอมินัลส์ จำกัด (AIPT) ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือ และคลังน้ำมันเชื้อเพลิง 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร และอำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร และบริษัท เอไอ โลจิสติกส์ จำกัด (AIL) ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งทางทะเล ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยเรือขนส่งคุณภาพสูงให้บริการรวม 2 ลำ คือ “เรือธารีรัตนา 1” และ “เรือธารีรัตนา 3” ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯสามารถบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายได้โดยเฉลี่ยต่อปีได้เป็นจำนวนมาก
ด้าน นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 4 พ.ย-19 พ.ย. นี้ AIE เตรียมเดินสายให้ข้อมูลนักลงทุน 15 จังหวัด ได้แก่ ระยอง, ชลบุรี, นครปฐม, ราชบุรี, เชียงใหม่,นครราชสีมา, ขอนแก่น, อุดรธานี, พิษณุโลก, นครสวรรค์, อุบลราชธานี, ภูเก็ต, สงขลา, สมุทรสาคร และกรุงเทพฯ ทั้งนี้ เพื่อให้นักลงทุนตามจังหวัดดังกล่าวได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของ AIE ได้มากขึ้น เนื่องจาก AIE เป็นบริษัทฯ ที่มีพื้นฐานดีเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทนน้ำมันไบโอดีเซลจากฟอสซิล รวมถึงธุรกิจคลังน้ำมัน และการขนส่งน้ำมันทางทะเล ดังนั้น เชื่อว่าการโรดโชว์ในครั้งนี้จะสามารถสร้างความเข้าใจระหว่างนักลงทุน และบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนทั่วทุกจังหวัดอย่างแน่นอน
