“เอไอ เอนเนอร์จี” ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต แล้ววันนี้ เพื่อขอเสนอขายไอพีโอ 445 ล้านหุ้น ก่อนเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ผู้บริหาร “อนุรักษ์ ธารีรัตนาวิบูลย์” มั่นใจจะเพิ่มศักยภาพให้บริษัทมีความแข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมขยายธุรกิจรองรับการเติบโตในอนาคต ด้านที่ปรึกษาทางการเงิน “สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม” การันตี AIE พื้นฐานดี ทีมผู้บริหารมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ สร้างผลงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายอนุรักษ์ ธารีรัตนาวิบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) หรือ AIE ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์ม และน้ำมันปาล์มโอเลอีนผ่านกรรมวิธี ตรา “พาโมลา” เปิดเผยว่า วันนี้ (26 ส.ค.) บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 445 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชน จำนวน 170 ล้านหุ้น พร้อมกับนำหุ้นสามัญเดิมที่ถือโดยบริษัท เอเชียน อินซูเลเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ AI จำนวน 275 ล้านหุ้น ออกจำหน่ายในคราวเดียวกัน
ทั้งนี้ จะให้สิทธิผู้ถือหุ้นของ AI จองซื้อหุ้นของบริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) ได้ตามสัดส่วนการถือหุ้นจำนวนสูงสุดไม่เกิน 250 ล้านหุ้น หรือผู้ถือหุ้น AI จำนวน 2 หุ้นมีสิทธิจองซื้อหุ้นบริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) ได้ 1 หุ้น ก่อนที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ต่อไป โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนเท่ากับ 1,130 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 1,130 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว เท่ากับ 960 ล้านบาท
สำหรับเงินที่จะได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้ในการขยายธุรกิจ และปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักร ได้แก่ การลงทุนเครื่องจักรผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากกรดไขมันปาล์ม ลงทุนปรับปรุงกระบวนการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ลงทุนก่อสร้างถังเก็บวัตถุดิบ และสินค้าสำเร็จรูป รวมถึงการชำระคืนหนี้ให้แก่เจ้าหนี้สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ทั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายงานของบริษัทฯ ในอนาคต ซึ่งถือเป็นการเพิ่มศักยภาพให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) หรือ AIE กล่าวต่อว่า บริษัทฯ มีบริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เอไอ พอร์ตส์ แอนด์ เทอมินัลส์ จำกัด (AIPT) ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือ และคลังน้ำมันเชื้อเพลิง 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร และอำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร และบริษัท เอไอ โลจิสติกส์ จำกัด (AIL) ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งทางทะเล ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยเรือขนส่งคุณภาพสูงให้บริการรวม 2 ลำคือ “เรือธารีรัตนา 1” และ “เรือธารีรัตนา 3” โดยบริษัทฯ เข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียน AIPT และ AIL ทั้งนี้ บริษัท และบริษัทย่อยทั้ง 2 แห่ง ได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ.2520 โดยปัจจุบัน AIE ยังไม่ได้ใช้สิทธิประโยชน์จากบัตรส่งเสริมการลงทุนดังกล่าว
ด้าน นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า AIE เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานดีเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทนน้ำมันไบโอดีเซลจากฟอสซิล รวมถึงธุรกิจคลังน้ำมัน และการขนส่งน้ำมันทางทะเล โดยผู้บริหารที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในการบริหารธุรกิจมายาวนานกว่า 7 ปีอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากอัตราการเติบโตของธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา โดยการที่บริษัทได้เข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญเพื่อสร้างฐานการเงินให้แข็งแกร่ง พร้อมเติบโตไปอย่างมั่นคงในอนาคต
“AIE ถือเป็นอีกบริษัทที่มีคุณภาพ และมีปัจจัยพื้นฐานที่โดดเด่น โดยบริษัทมีจุดเด่น และจุดแข็งในหลายๆ ด้าน และเชื่อมั่นว่า AIE จะเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีความน่าสนใจในการลงทุน หลังจากที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) แล้ว” นายสมภพกล่าว
นายอนุรักษ์ ธารีรัตนาวิบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) หรือ AIE ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์ม และน้ำมันปาล์มโอเลอีนผ่านกรรมวิธี ตรา “พาโมลา” เปิดเผยว่า วันนี้ (26 ส.ค.) บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 445 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชน จำนวน 170 ล้านหุ้น พร้อมกับนำหุ้นสามัญเดิมที่ถือโดยบริษัท เอเชียน อินซูเลเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ AI จำนวน 275 ล้านหุ้น ออกจำหน่ายในคราวเดียวกัน
ทั้งนี้ จะให้สิทธิผู้ถือหุ้นของ AI จองซื้อหุ้นของบริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) ได้ตามสัดส่วนการถือหุ้นจำนวนสูงสุดไม่เกิน 250 ล้านหุ้น หรือผู้ถือหุ้น AI จำนวน 2 หุ้นมีสิทธิจองซื้อหุ้นบริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) ได้ 1 หุ้น ก่อนที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ต่อไป โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนเท่ากับ 1,130 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 1,130 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว เท่ากับ 960 ล้านบาท
สำหรับเงินที่จะได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้ในการขยายธุรกิจ และปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักร ได้แก่ การลงทุนเครื่องจักรผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากกรดไขมันปาล์ม ลงทุนปรับปรุงกระบวนการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ลงทุนก่อสร้างถังเก็บวัตถุดิบ และสินค้าสำเร็จรูป รวมถึงการชำระคืนหนี้ให้แก่เจ้าหนี้สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ทั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายงานของบริษัทฯ ในอนาคต ซึ่งถือเป็นการเพิ่มศักยภาพให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) หรือ AIE กล่าวต่อว่า บริษัทฯ มีบริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เอไอ พอร์ตส์ แอนด์ เทอมินัลส์ จำกัด (AIPT) ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือ และคลังน้ำมันเชื้อเพลิง 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร และอำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร และบริษัท เอไอ โลจิสติกส์ จำกัด (AIL) ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งทางทะเล ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยเรือขนส่งคุณภาพสูงให้บริการรวม 2 ลำคือ “เรือธารีรัตนา 1” และ “เรือธารีรัตนา 3” โดยบริษัทฯ เข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียน AIPT และ AIL ทั้งนี้ บริษัท และบริษัทย่อยทั้ง 2 แห่ง ได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ.2520 โดยปัจจุบัน AIE ยังไม่ได้ใช้สิทธิประโยชน์จากบัตรส่งเสริมการลงทุนดังกล่าว
ด้าน นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า AIE เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานดีเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทนน้ำมันไบโอดีเซลจากฟอสซิล รวมถึงธุรกิจคลังน้ำมัน และการขนส่งน้ำมันทางทะเล โดยผู้บริหารที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในการบริหารธุรกิจมายาวนานกว่า 7 ปีอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากอัตราการเติบโตของธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา โดยการที่บริษัทได้เข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญเพื่อสร้างฐานการเงินให้แข็งแกร่ง พร้อมเติบโตไปอย่างมั่นคงในอนาคต
“AIE ถือเป็นอีกบริษัทที่มีคุณภาพ และมีปัจจัยพื้นฐานที่โดดเด่น โดยบริษัทมีจุดเด่น และจุดแข็งในหลายๆ ด้าน และเชื่อมั่นว่า AIE จะเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีความน่าสนใจในการลงทุน หลังจากที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) แล้ว” นายสมภพกล่าว