บมจ.นามยง เทอร์มินัล แต่งตั้งทิสโก้เป็นที่ปรึกษาเตรียมเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นไทย ไม่เกินไตรมาส 4 ปีนี้ด้าน “ไพบูลย์” เผยบริษัทครองมาร์เกตแชร์ท่าเทียบเรือสูงกว่า 80% ขณะนี้อยู่ในช่วงยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. คาดเทรดทันก่อนสิ้นปี
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า บมจ.นามยง เทอร์มินัล ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 205.5 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 33.15 ของจำนวนหุ้นสามัญ ที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งบริษัทฯ จะนำไปชำระคืนเงินกู้ธนาคารเพื่อลดต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ อีกส่วนหนึ่งจะนำไปลงทุนขยายกิจการเพื่อรองรับปริมาณการส่งออกรถยนต์ของประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
โดยปัจจุบัน บมจ.นามยง เทอร์มินัล มีทุนจดทะเบียนจำนวน 620 ล้านบาท โดยทุนที่ออกจำหน่าย และชำระแล้ว มีจำนวน 414.50 ล้านบาท คิดเป็น 414.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท โดยบริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์แบบครบวงจร ณ ท่าเทียบเรือ A5 ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือน้ำลึกหลักของประเทศไทยที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และมีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับฐานการผลิตของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์โดยส่วนใหญ่ ซึ่งการให้บริการของบริษัทฯ ประกอบด้วย การให้บริการท่าเทียบเรือ การให้บริการพื้นที่ฝากเก็บสินค้า และเตรียมความพร้อมก่อนส่งออก รวมถึงการให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก
นอกจากนี้ บริษัทฯได้ร่วมกับกลุ่มบริษัท NYK ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งทางทะเล ได้เข้าลงทุนในบริษัท แหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล โร-โร เทอร์มินัล จำกัด หรือ LRT โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 20.00 และมีสิทธิ (Option) ที่จะซื้อหุ้น LRT เพิ่มเติมจาก NYK ได้อีกไม่เกินร้อยละ 29.00 รวมเป็นสัดส่วนการถือหุ้นสูงสุดร้อยละ 49.00 สำหรับ LRT เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออก และนำเข้ารถยนต์และสินค้าทั่วไป ซึ่งมีท่าเทียบเรือและพื้นที่ให้บริการในบริเวณท่าเทียบเรือ C0 ท่าเรือแหลมฉบัง
ด้านนายเทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.นามยง เทอร์มินัล กล่าวว่า อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ และการส่งออกรถยนต์ของประเทศไทย โดยปริมาณรถยนต์ที่ส่งออกผ่าน ท่าเทียบเรือ A5 ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก 2 แสนกว่าคัน ในปี 2546 เป็นกว่า 8 แสนคัน ในปี 2555 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าตัว โดยที่ท่าเทียบเรือ A5 ของบริษัทฯ มีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 80% ของปริมาณการส่งออกรถยนต์ของประเทศไทยที่มีกว่า 1 ล้านคันต่อปี
โดยปัจจุบัน ท่าเทียบเรือ A5 มีท่าเทียบเรือย่อยรวม 3 ท่า ความยาวหน้าท่ารวม 697 เมตร ความลึกร่องน้ำ 17 เมตร สามารถรองรับเรือขนาดใหญ่ได้ถึง 80,000 DWT มีพื้นที่ให้บริการในท่าเทียบเรือรวม 247,000 ตารางเมตร สามารถจอดรถยนต์ได้สูงสุด 15,437 คันในเวลาเดียวกัน และมีพื้นที่จอดพักรถยนต์เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนส่งออกในบริเวณรอบๆ ท่าเทียบเรืออีกประมาณ 486,123 ตารางเมตร สามารถจอดรถยนต์ได้สูงสุด 30,113 คัน ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการให้บริการพื้นที่จัดเก็บสินค้า และคลังสินค้ารวม 155,113 ตารางเมตร ทั้งนี้ ในการบริหารงาน และการให้บริการบริษัทฯ ได้มีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ที่ทันสมัยซึ่งพัฒนาขึ้นเองมาใช้เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด