xs
xsm
sm
md
lg

ทอท.เตรียมเพิ่มรถเข็นกระเป๋าอีก 3,500 คัน เผยผู้โดยสารสุวรรณภูมิทะลักหวั่นไม่พอบริการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพจากอินเตอร์เน็ต
บอร์ด ทอท.สั่งประเมินงบลงทุนจัดหารถเข็นกระเป๋าสุวรรณภูมิเพิ่มอีกกว่า 3,500 คันใหม่ หวั่นซื้อเองอาจถูกกว่า ให้สัญญาเพิ่มเติมกับ บ.เอพีฯ เช่ารถเข็นมาให้บริการเพิ่มจากสัมปทานเดิมซึ่งเสนอค่าจัดหาและบริหารไว้ที่ 80 ล้านบาทต่อสัญญา 3 ปี “ศิธา” ยอมรับต้องมีเพิ่มเหตุผู้โดยสารเติบโตมากหวั่นกระทบบริหาร เผยผู้โดยสารเพิ่มเป็นวันละ 1.6-1.8 แสนคนจากเดิม 1.2 แสนคนต่อวัน พร้อมเห็นชอบค่าจ้าง “เมฆินทร์” 6.3 แสนบาทต่อเดือน

นายศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด ทอท. วันนี้ (21 พ.ย.) ว่า บอร์ดได้พิจารณาการจัดหารถเข็นกระเป๋า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพิ่มเติมอีกจำนวน 3,544 คัน แบ่งเป็นรถขนาดใหญ่ 44 คัน ขนาดกลาง 2,000 คัน ขนาดเล็ก 1,500 คัน เพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยบอร์ดเคยเห็นชอบในหลักการไปแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยที่ประชุมให้ ทอท.กลับไปจัดทำรายละเอียดวงเงินค่าจัดหาอีกครั้ง เนื่องจากแผนที่ ทอท.เสนอมานั้นยังขาดความชัดเจนตัวเลขเปรียบเทียบระหว่างการซื้อและเช่าดำเนินการ โดยให้นำรายละเอียดเสนอที่ประชุมบอร์ด ทอท.พิจารณาอีกครั้งในการประชุมวันที่ 6 ธันวาคม

“ทอท.เสนอแนวทางเช่ารถเข็นกระเป๋ารวมค่าบริหารจัดการวงเงินประมาณ 80 ล้านบาทต่อ 3 ปี โดยใช้แนวทางตามเงื่อนไขสัญญาสัมปทานเดิม แต่บอร์ดตั้งข้อสังเกตว่า หากใช้การจัดซื้อรถเข็นกระเป๋าเองอาจจะใช้เงินน้อยกว่าหรือไม่ ซึ่งที่เสนอไม่มีรายละเอียดเปรียบเทียบระหว่างการเช่าและการซื้อที่ชัดเจนมากพอ จึงให้ไปทำข้อมูลเพิ่ม ส่วนการจัดหารถเข็นกระเป๋าเพิ่มนั้นบอร์ดเห็นด้วย เพราะปัจจุบันผู้โดยสารมีจำนวนมากและอาจกระทบต่อการให้บริการได้ โดยเฉพาะรถเข็นขนาดเล็กสำหรับใช้ในพื้นที่ด้านในร้านค้าปลอดภาษีไปยังอาคารเทียบเครื่องบิน ถูกสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือไออาตา ระบุว่าสนามบินสุวรรณภูมิมีจำนวนน้อยอยู่ โดยหากได้ข้อสรุปจะใช้เวลาจัดหาภายใน 60 วัน” น.ต.ศิธากล่าว

ด้านนางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทอท.กล่าวว่า จากการประมาณการอัตราเติบโตของผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิจำเป็นต้องจัดหารถเข็นกระเป๋าเพิ่มอีกประมาณ 3,500 คัน โดยจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยได้ปรับเพิ่มขึ้นจาก 1.2 แสนคนต่อวัน เป็น 1.6-1.8 แสนคนต่อวันแล้ว ในขณะที่รถเข็นกระเป๋าที่มี 9,034 คัน มีชำรุดและต้องซ่อมแซมบ้าง ดังนั้น นอกจากต้องการรถเพิ่มขึ้นแล้วต้องการรถสภาพใหม่ด้วย ทั้งนี้ การจัดหาอาจจะไม่ทันให้บริการช่วงฤดูท่องเที่ยวนี้ (High Season) จึงได้ให้บริษัท เอพีฯ เพิ่มเจ้าหน้าที่ในการหมุนเวียนรถเข็นกระเป๋าให้เร็วขึ้น รวมถึงการให้บริการในส่วนอื่นๆ ก็จะต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่เช่นกัน

สำหรับบริการรถเข็นกระเป๋า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 9,034 คัน ซึ่งบริษัท เอพี เมนเนจเม้นท์ จำกัด เป็นผู้รับสัมปทานให้บริการระยะเวลา 7 ปี (53-60) วงเงิน 566,244,000 บาทนั้น ประกอบด้วยรถเข็นกระเป๋าขนาดเล็ก 2,000 คัน ขนาดกลาง 7,000 คัน และขนาดใหญ่ 34 คัน จะต้องมีการจัดหาเพิ่มเติมเพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งเดิมกำหนดจำนวน 9,034 คัน รองรับผู้โดยสารที่ 45 ล้านคนต่อปีโดยเน้นผู้โดยสารระหว่างประเทศซึ่งมีประมาณ 33 ล้านคน แต่คาดว่าปี 2556 ผู้โดยสารระหว่างประเทศจะมากกว่า 40 ล้านคนแน่นอน หรือเฉลี่ย 1.25 แสนตนต่อวัน ในขณะที่ผู้โดยสารในประเทศมีเพียง 2.5 หมื่นคน การหมุนเวียนรถอาจไม่ทัน แต่จะจัดหาต้องขึ้นกับงบลงทุนด้วยว่าเพียงพอหรือไม่ด้วย

ว่าที่ ร.ท.จตุรงคพล สดมณี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง ทอท.กล่าวว่า ในส่วนท่าอากาศยานดอนเมืองมีรถเข็นกระเป๋าขนาดกลาง 1,700 คัน ขนาดเล็ก 300 คัน ซึ่งเพียงพอต่อการให้บริการ โดยให้หมุนเวียนรถและวิธีการจัดเก็บที่รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2556 นี้ท่าอากาศยานดอนเมืองจะเปิดให้บริการสำหรับผู้โดยสารที่แวะพักเครื่องบิน (Transit) และผู้โดยสารเปลี่ยนเครื่องบิน (Transfer) ซึ่งจะรองรับผู้โดยสารต่อเครื่องได้ประมาณ 1.4 ล้านคนต่อปี และจะทำให้สายการบินที่ให้บริการอยู่ ณ ท่าอากาศยานดอนเมืองสามารถขายตั๋วโดยสารแบบต่อเครื่องได้โดยผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกมากขึ้นจากเดิมที่จะเป็นการให้บริการแบบจุดต่อจุด (Point to Point)

นอกจากนี้ น.ต.ศิธากล่าวต่อว่า บอร์ดเห็นชอบการกำหนดอัตราค่าตอบแทนสิทธิประโยชน์และร่างสัญญาจ้างของนายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย ซึ่งผ่านเกณฑ์การสรรหาให้เป็นผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.ตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาผลตอบแทนของผู้อำนวยการใหญ่เสนอ หลังจากนี้ ทอท.จะเสนอกระทรวงการคลังเพื่อให้ความเห็นชอบและจะนำเข้าบอร์ด ทอท.พิจารณาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่อไป โดยคาดว่าจะลงนามสัญญาและเริ่มทำงานได้ต้นเดือนธันวาคม 2556 โดยกรอบอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 4-9 แสนบาทต่อเดือน

รายงานข่าวแจ้งว่า ผลเจรจาผลตอบแทนนายเมฆินทร์อยู่ที่ 6.3 แสนบาทต่อเดือน ซึ่งเป็นเกณฑ์เดียวกับที่ว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร อดีดผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.เคยได้รับ
กำลังโหลดความคิดเห็น