xs
xsm
sm
md
lg

ทอท.เตรียมเซ็นจ้างเอ็มดีคนใหม่ ชุมนุมการเมืองยังไม่กระทบเดินทาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (เอ็มดี)  บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.คนใหม่
ทอท.ได้ฤกษ์ตั้งเอ็มดีคนใหม่ เผยบอร์ด 21 พ.ย.รับทราบผลค่าตอบแทนขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 6.3 แสน/เดือน คาดเซ็นจ้างเริ่มทำงาน 25 พ.ย. “ศิธา” เผยนโยบายเน้นเพิ่มความสะดวกให้ผู้โดยสารทั้ง 6 สนามบิน ปลื้มผลประกอบการปี 56 ผู้โดยสารเพิ่ม ยันชุมนุมการเมืองยังไม่กระทบจำนวนนักท่องเที่ยว

น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ดวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้จะมีการหารือเรื่องค่าตอบแทนของนายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย ซึ่งได้รับการสรรหาเป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (เอ็มดี) คนใหม่ หลังจากคณะอนุกรรมการเจรจาค่าตอบแทนได้ดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว แต่จะยังไม่มีการลงนามสัญญาว่าจ้างนายเมฆินทร์ทันที เนื่องจากยังมีกระบวนการทางเอกสารที่ต้องดำเนินการให้เรียบร้อยก่อน โดยคาดว่าจะลงนามสัญญาและให้เริ่มปฏิบัติงานก่อนวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะครบกำหนด 1 ปี หลังจากว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร พ้นวาระกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.

ทั้งนี้ ผลตอบแทนเอ็มดี ทอท.นั้นได้มีการกำหนดเป็นกรอบไว้ โดยเพดานขั้นต่ำอยู่ที่ 6.3 แสนบาท ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่ว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ได้รับก่อนหน้านี้ 
                  
น.ต.ศิธากล่าวถึงนโยบายการทำงานที่จะมอบหมายให้เอ็มดี ทอท.คนใหม่ว่า จะเน้นเรื่องการให้บริการผู้โดยสาร โดยผู้โดยสารที่มาใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. ต้องได้รับความสะดวกมากที่สุด โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ และปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการอยู่ที่ 1.5-1.6 แสนคนต่อวัน ควรมีการพัฒนาโดยนำเทคโนโลยีระดับสูงมาใช้เพื่อให้บริการที่ดีที่สุดแก่ผู้โดยสาร
                    
สำหรับผลการดำเนินงานปีงบประมาณ 2556 (ต.ค. 55-ก.ย. 56) ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งยอมรับว่าผลประกอบการปีนี้ดีขึ้นกว่าปีก่อนในระดับที่พึงพอใจ โดยสาเหตุหลักคือการที่ ทอท.เปิดให้บริการท่าอากาศยานดอนเมืองเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอีกครั้ง ส่งผลให้รองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น ขณะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกำลังมีความแออัด ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการดอนเมืองพบว่าปริมาณผู้โดยสารที่มีปลายทางดอนเมืองและสุวรรณภูมิสูงเกือบ 70 ล้านคน จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ 53 ล้านคน
                    
สำหรับการชุมนุมทางการเมืองในขณะนี้นั้นยังไม่เห็นผลกระทบต่อปริมาณผู้โดยสารที่ชัดเจน แต่จากการสอบถามบริษัทนำเที่ยวพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากมีบางประเทศประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งเชื่อว่าระยะสั้นจะไม่ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงมากนัก เพราะนานาประเทศก็เคยมีปัญหาในลักษณะเดียวกัน โดยขณะนี้นักท่องเที่ยวที่มีมากสุดคือจีนและญี่ปุ่น โดยเห็นว่าหากสถานการณ์ยืดเยื้อจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและการท่องเที่ยวชะลอตัว และทำให้รัฐบาลเสียเวลาในการพัฒนาประเทศ เพราะต้องเอาเวลามาชี้แจงในเรื่องที่ถูกกล่าวหาซึ่งมีทั้งจริง และไม่จริง
กำลังโหลดความคิดเห็น