ตลาดเงินจีนแสดงสัญญาณตึงเครียดมากยิ่งขึ้นในวันนี้ โดยอัตราดอกเบี้ย ในตลาดพุ่งขึ้น หลังจากธนาคารกลางจีน (PBOC) ดูดซับเม็ดเงินออกจากระบบเป็นสัปดาห์ที่สอง นอกจากนี้ ธนาคารพาณิชย์จีนได้กักตุนเงินสดเอาไว้ ในช่วงนี้ เนื่องจากไม่แน่ใจว่านโยบายของจีนในอนาคตจะเป็นเช่นใด
อัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (อาร์/พี) ระยะ 7 วันของจีนเปิดตลาดที่ 4.5 % ในวันนี้ โดยพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากระดับปิดวานนี้ที่ 3.74 % โดยการซื้อขายในช่วงต่อมาส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอาร์/พีทรงตัวอยู่เหนือ 4 %
เทรดเดอร์กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเกิดจากความกังวลที่ว่า สภาพคล่องจะตึงตัวในอนาคต แต่ไม่ได้เกิดจากภาวะขาดแคลนเงินสดอย่างแท้จริงในตลาด โดยในช่วงนี้นักลงทุนไม่แน่ใจว่า ธนาคารกลางจีนจะดำเนินการอย่างแข็งกร้าวมากเพียงใดในการจัดการกับเม็ดเงินส่วนเกินหลังจากเม็ดเงินดังกล่าวกระตุ้นภาวะเงินเฟ้อ และหนุนราคาอสังหาริมทรัพย์ ให้พุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ออกแถลงการณ์หลังการประชุมใหญ่ครั้งที่สาม ในวันอังคารที่ผ่านมา โดยแถลงการณ์ระบุถึงภาระผูกพันในการปฏิรูปตลาด แต่ไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน และตลาดหุ้นจีนก็ร่วงลงเมื่อวานนี้
เทรดเดอร์คาดว่าธนาคารกลางจีนจะพยายามควบคุมภาวะเงินเฟ้อโดยใช้ วิธีปั่นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น แทนที่จะปรับเปลี่ยนฐานเงินของจีนในระยะยาว เพราะการปรับเปลี่ยนฐานเงินอาจสร้างความเสียหายต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่แน่ใจว่า ธนาคารกลางจีนจะดำเนินมาตรการควบคุมภาวะเงินเฟ้อเมื่อใด, จะดำเนินการอย่างไร, มาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงหรือส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยและมาตรการนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่
ดีลเลอร์คนหนึ่งกล่าวว่า "ตลาดมีความกังวลในเรื่องที่ว่า ธนาคารกลางจีนจะดำเนินการมากเพียงใดในการดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบ"
ดีลเลอร์กล่าวเสริมว่า "ถึงแม้ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งยังคงครอบครองเม็ดเงินจำนวนมากอยู่ในปัจจุบัน แต่ธนาคารหลายแห่งก็ยังรู้สึกไม่มั่นคง ส่งผลให้ธนาคารส่วนใหญ่ไม่เต็มใจที่จะปล่อยกู้เป็นเงินจำนวนมาก"
ความเปลี่ยนแปลงในตลาดอินเตอร์แบงก์อาจจะส่งผลกระทบต่อเนื่องเป็นอย่างมากต่อระบบการเงิน โดยธนาคารกลางจีนเคยดำเนินมาตรการคุมเข้มในเดือนมิ.ย.ปีนี้ และส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นพุ่งขึ้นแตะ 30 % ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนดิ่งลง และส่งผลกระทบต่อนักลงทุนต่างประเทศด้วย
ธนาคารกลางจีนไม่ได้เข้ามาซื้อขายพันธบัตรในตลาดตามปกติในช่วงเช้าวันนี้ ส่งผลให้มีการดูดซับเม็ดเงินสุทธิออกจากตลาดอินเตอร์แบงก์ของจีนราว 1.5 หมื่นล้านหยวน (2.46 พันล้านดอลลาร์)
กระทรวงการคลังจีนได้เปิดประมูลเงินฝากระยะ 3 เดือนในวันนี้ โดยมีอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 6 % ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในรอบ 2 ปี และพุ่งขึ้นอย่างมากจากระดับ 4.23 % ในการประมูลครั้งก่อน
ธนาคารอะกริคัลเจอรัล ดีเวลอปเมนท์ แบงก์ ออฟ ไชน่า เปิดประมูลตราสารหนี้ระยะ 3 ปีในวันอังคารที่ผ่านมา แต่ขายได้ไม่หมด และมีอัตราผลตอบแทนสูงกว่าระดับที่คาดการณ์ไว้กว่า 0.20 %
ธนาคารกลางจีนเผชิญกับปัญหายุ่งยากในขณะนี้ เพราะธนาคารกลางพยายามทำให้หยวนมีเสถียรภาพ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความกังวลกันว่าการเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราอาจส่งผลให้มีสภาพคล่องหยวน หลั่งไหลเข้าสู่ตลาดเงินระยะสั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
ธนาคารกลางจีนชี้นำหยวนให้แข็งค่าขึ้นในระยะนี้ โดยกำหนดค่ากลางของหยวนไว้ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเช้าวันนี้ และเทรดเดอร์ก็คาดว่าหยวนอาจแข็งค่าขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
มีสัญญาณบ่งชี้ว่าสหรัฐอาจดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป เมื่อนางเจเน็ต เยลเลนขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงต้นปีหน้า และปัจจัยนี้ก็กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์และสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง รวมทั้งส่งผลให้มีเงินลงทุนหลั่งไหลเข้าสู่จีนด้วย
เม็ดเงินในระบบของจีนได้รับแรงหนุนจากปัจจัยด้านฤดูกาลภายในประเทศด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการที่กระทรวงการคลังจีนมักจะนำรายได้จากภาษีมาฝากไว้ในระบบธนาคารในช่วงปลายปี
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group
อัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (อาร์/พี) ระยะ 7 วันของจีนเปิดตลาดที่ 4.5 % ในวันนี้ โดยพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากระดับปิดวานนี้ที่ 3.74 % โดยการซื้อขายในช่วงต่อมาส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอาร์/พีทรงตัวอยู่เหนือ 4 %
เทรดเดอร์กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเกิดจากความกังวลที่ว่า สภาพคล่องจะตึงตัวในอนาคต แต่ไม่ได้เกิดจากภาวะขาดแคลนเงินสดอย่างแท้จริงในตลาด โดยในช่วงนี้นักลงทุนไม่แน่ใจว่า ธนาคารกลางจีนจะดำเนินการอย่างแข็งกร้าวมากเพียงใดในการจัดการกับเม็ดเงินส่วนเกินหลังจากเม็ดเงินดังกล่าวกระตุ้นภาวะเงินเฟ้อ และหนุนราคาอสังหาริมทรัพย์ ให้พุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ออกแถลงการณ์หลังการประชุมใหญ่ครั้งที่สาม ในวันอังคารที่ผ่านมา โดยแถลงการณ์ระบุถึงภาระผูกพันในการปฏิรูปตลาด แต่ไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน และตลาดหุ้นจีนก็ร่วงลงเมื่อวานนี้
เทรดเดอร์คาดว่าธนาคารกลางจีนจะพยายามควบคุมภาวะเงินเฟ้อโดยใช้ วิธีปั่นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น แทนที่จะปรับเปลี่ยนฐานเงินของจีนในระยะยาว เพราะการปรับเปลี่ยนฐานเงินอาจสร้างความเสียหายต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่แน่ใจว่า ธนาคารกลางจีนจะดำเนินมาตรการควบคุมภาวะเงินเฟ้อเมื่อใด, จะดำเนินการอย่างไร, มาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงหรือส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยและมาตรการนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่
ดีลเลอร์คนหนึ่งกล่าวว่า "ตลาดมีความกังวลในเรื่องที่ว่า ธนาคารกลางจีนจะดำเนินการมากเพียงใดในการดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบ"
ดีลเลอร์กล่าวเสริมว่า "ถึงแม้ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งยังคงครอบครองเม็ดเงินจำนวนมากอยู่ในปัจจุบัน แต่ธนาคารหลายแห่งก็ยังรู้สึกไม่มั่นคง ส่งผลให้ธนาคารส่วนใหญ่ไม่เต็มใจที่จะปล่อยกู้เป็นเงินจำนวนมาก"
ความเปลี่ยนแปลงในตลาดอินเตอร์แบงก์อาจจะส่งผลกระทบต่อเนื่องเป็นอย่างมากต่อระบบการเงิน โดยธนาคารกลางจีนเคยดำเนินมาตรการคุมเข้มในเดือนมิ.ย.ปีนี้ และส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นพุ่งขึ้นแตะ 30 % ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนดิ่งลง และส่งผลกระทบต่อนักลงทุนต่างประเทศด้วย
ธนาคารกลางจีนไม่ได้เข้ามาซื้อขายพันธบัตรในตลาดตามปกติในช่วงเช้าวันนี้ ส่งผลให้มีการดูดซับเม็ดเงินสุทธิออกจากตลาดอินเตอร์แบงก์ของจีนราว 1.5 หมื่นล้านหยวน (2.46 พันล้านดอลลาร์)
กระทรวงการคลังจีนได้เปิดประมูลเงินฝากระยะ 3 เดือนในวันนี้ โดยมีอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 6 % ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในรอบ 2 ปี และพุ่งขึ้นอย่างมากจากระดับ 4.23 % ในการประมูลครั้งก่อน
ธนาคารอะกริคัลเจอรัล ดีเวลอปเมนท์ แบงก์ ออฟ ไชน่า เปิดประมูลตราสารหนี้ระยะ 3 ปีในวันอังคารที่ผ่านมา แต่ขายได้ไม่หมด และมีอัตราผลตอบแทนสูงกว่าระดับที่คาดการณ์ไว้กว่า 0.20 %
ธนาคารกลางจีนเผชิญกับปัญหายุ่งยากในขณะนี้ เพราะธนาคารกลางพยายามทำให้หยวนมีเสถียรภาพ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความกังวลกันว่าการเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราอาจส่งผลให้มีสภาพคล่องหยวน หลั่งไหลเข้าสู่ตลาดเงินระยะสั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
ธนาคารกลางจีนชี้นำหยวนให้แข็งค่าขึ้นในระยะนี้ โดยกำหนดค่ากลางของหยวนไว้ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเช้าวันนี้ และเทรดเดอร์ก็คาดว่าหยวนอาจแข็งค่าขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
มีสัญญาณบ่งชี้ว่าสหรัฐอาจดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป เมื่อนางเจเน็ต เยลเลนขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงต้นปีหน้า และปัจจัยนี้ก็กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์และสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง รวมทั้งส่งผลให้มีเงินลงทุนหลั่งไหลเข้าสู่จีนด้วย
เม็ดเงินในระบบของจีนได้รับแรงหนุนจากปัจจัยด้านฤดูกาลภายในประเทศด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการที่กระทรวงการคลังจีนมักจะนำรายได้จากภาษีมาฝากไว้ในระบบธนาคารในช่วงปลายปี
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group