ธนาคารกลางจีน (PBOC) ปรับเปลี่ยนวิธีการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนหยวน ในระยะนี้ และส่งผลให้เทรดเดอร์คาดการณ์กันว่า ผู้ควบคุมกฎระเบียบของจีนอาจกำลังเตรียมตลาดให้พร้อมรับมือกับการปฏิรูปรอบใหม่ อย่างไรก็ดี รัฐบาลจีนไม่มีแนวโน้มที่จะทำการปฏิรูปจนกว่าสกุลเงินเอเชียที่กำลังดิ่งลงในช่วงนี้จะเข้าสู่เสถียรภาพ
เทรดเดอร์ในตลาดสกุลเงินจีนกล่าวว่า PBOC ปรับเปลี่ยนแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารตลาดปริวรรตเงินตราในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และสิ่งนี้บ่งชี้ว่า PBOC กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดเสรีรอบใหม่ เพื่อเพิ่มความผันผวน สองทิศทางให้แก่ตลาดปริวรรตเงินตรา และทำให้ความเสี่ยงในตลาดเพิ่มขึ้น
รัฐบาลจีนเคยขยายกรอบซื้อขายหยวนในเดือนเม.ย. 2012 โดยเปิดโอกาสให้อัตราแลกเปลี่ยนหยวนแข็งค่าขึ้นหรืออ่อนค่าลง 1 % จากค่ากลางที่ PBOC กำหนดไว้ในแต่ละวัน
อย่างไรก็ดี สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับความผันผวน เพราะค่าเงินหยวนมักจะเคลื่อนตัวอยู่ใกล้กับเพดานของกรอบซื้อขายเป็น เวลานานหลายสัปดาห์ ในขณะที่บริษัทหลายแห่งคาดว่า หยวนจะแข็งค่าขึ้นไปอีกในอนาคต
สิ่งนี้หมายความว่า ค่ากลางของหยวนได้ทำหน้าที่เป็นปัจจัยสกัดกั้นการแข็งค่าของหยวน แทนที่จะทำหน้าที่เป็นอัตราชี้นำที่สะท้อนระดับเฉลี่ยในตลาด
เทรดเดอร์กล่าวว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่นักปฏิรูปต้องการ และส่งผลให้ PBOC ดำเนินมาตรการสองอย่างในขณะนี้
มาตรการแรกคือการที่ PBOC กำหนดค่ากลางไว้ที่ระดับสูงหลายครั้ง และส่งผลให้หยวนขึ้นไปทำสถิติสูงสุดที่ 6.1554 หยวน/ดอลลาร์ในช่วงเปิดตลาดวันจันทร์ โดย PBOC กำหนดค่ากลางของวันนี้ไว้ที่ 6.1557 หยวน/ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าสถิติสูงสุดเพียง 0.0003 หยวน/ดอลลาร์ เท่านั้น
มาตรการที่สองคือการที่ PBOC แอบแทรกแซงตลาดโดยผ่านทางธนาคารพาณิชย์ของรัฐบาลจีน เพื่อควบคุมหยวนในตลาดสปอตให้เคลื่อน ตัวในกรอบแคบใกล้ 6.1200 หยวน/ดอลลาร์ หยวนในตลาดสปอตเคลื่อนตัวระหว่างระดับ 6.1207-6.1212หยวน/ดอลลาร์ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้
เทรดเดอร์คนหนึ่งในธนาคารพาณิชย์จีนกล่าวว่า "PBOC ดูเหมือน จะหันมาใช้กลยุทธ์แบบใหม่ ขณะที่การกำหนดค่ากลางที่สูงขึ้นช่วยลดส่วนต่างระหว่างค่ากลางกับอัตราในตลาดสปอต และส่งผลให้หยวนสามารถแกว่งตัว ได้กว้างขึ้นในอนาคต และเปิดโอกาสสำหรับการขยายกรอบซื้อขายหยวน/ดอลลาร์ให้กว้างขึ้นอีกครั้ง"
นักเศรษฐศาสตร์หลายรายเคยกล่าวว่า รัฐบาลจีนจำเป็นต้องเปิดพื้นที่สำหรับความผันผวนสองทิศทางให้มากยิ่งขึ้น โดยใช้วิธีปรับค่ากลางกับอัตราในตลาดสปอตให้เข้าใกล้กันมากยิ่งขึ้น
การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของ PBOC ในช่วงนี้ส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนหยวนในตลาดสปอตอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งกว่าค่ากลางราว 0.5 % ใน ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยลดลงจากระดับสูงกว่า 0.9 % ในช่วงเวลาหลายสัปดาห์ที่หยวนเคยพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ภาคเอกชนและภาคธนาคารต้องรับมือกับความเสี่ยงมากยิ่งขึ้นในตลาดปริวรรตเงินตรา แทนที่จะมองว่าการลงทุนในตลาดเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เพราะหยวนมีแนวโน้มเคลื่อนตัวในทิศทางเดียว โดยความจำเป็นในการเพิ่มความผันผวนในตลาดเป็นสิ่งที่ปรากฏชัดในช่วงฤดูใบไม้ผลิในปีนี้ เพราะในช่วงนั้นมีการเก็งกำไรในการแข็งค่าของหยวนเป็นจำนวนมาก และมีการทำอาร์บิทราจระหว่างอัตราแลกเปลี่ยนหยวนข้ามพรมแดน จนส่งผลให้ตัวเลขการค้าของจีนถูกบิดเบือน ไปจากความเป็นจริง
ในระยะอันใกล้นี้ การเข้าแทรกแซงตลาดของทางการจีนไม่ได้เป็นการเพิ่มความผันผวนในตลาด แต่เป็นการสกัดกั้นการแข็งค่าของหยวน และ สกัดกั้นการคาดการณ์ที่ว่า จีนกำลังจะปรับขึ้นค่าเงินหยวนรอบใหม่
ค่าความผันผวนหยวน/ดอลลาร์ระยะหนึ่งปีในตลาดในประเทศปรับตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค.ในช่วงนี้ และอาจลดลงเข้าใกล้จุดต่ำสุดของเดือนมี.ค.
ความเคลื่อนไหวของทางการจีนในช่วงนี้อาจเป็นการตอบรับต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ภายในประเทศที่ว่า การแข็งค่าของหยวนในระยะนี้เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆในเอเชีย ได้สร้างความเสียหายต่อความสามารถทางการแข่งขันของภาคส่งออกของจีน ในขณะที่เศรษฐกิจจีนยังคงฟื้นตัวอย่างไม่มั่นคง
เทรดเดอร์กล่าวว่า PBOC กำลังกังวลกับเรื่องที่ว่า ประเทศอื่นๆในเอเชียอาจจะประสบภาวะเงินทุนไหลออกต่อไป
สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ยกเว้นหยวนอ่อนค่าลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า เฟดจะเริ่มต้นปรับลดขนาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวันนี้
ถ้าหากเฟดประกาศปรับลดขนาด QE ลงเพียงเล็กน้อยในวันนี้ ตลาดเกิดใหม่ก็จะไม่เผชิญกับแรงเทขายอย่างรุนแรง อย่างไรก็ดี สกุลเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่อาจจะยังคงอยู่ในภาวะอ่อนแอ ถ้าหากดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อไป
ดีลเลอร์คนหนึ่งกล่าวว่า "การที่สกุลเงินเอเชียอ่อนค่าลงในปีนี้ อาจส่งผลให้จีนเลื่อนการปฏิรูปสกุลเงินหยวนออกไป"
"PBOC เคยส่งสัญญาณว่าจะยอมปล่อยให้หยวนแข็งค่าขึ้น ด้วยการเปิดโอกาสให้อัตราแลกเปลี่ยนในตลาดสปอตแข็งค่าขึ้นในเดือนเม.ย.และพ.ค. แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าตลาดอยู่ในภาวะไร้ทิศทาง เพราะเจ้าหน้าที่จีนไม่ต้องการ ให้หยวนแข็งค่าขึ้น ในขณะที่สกุลเงินอื่นๆในเอเชียร่วงลง"
หยวนแข็งค่าขึ้นมาแล้ว 1.8 % จากช่วงต้นปีนี้ แต่การแข็งค่าส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเดือนเม.ย.และพ.ค. โดยหยวนแข็งค่าขึ้น 1.5 % ในช่วงสองเดือนดังกล่าว
สัญญาล่วงหน้าพันธบัตรรัฐบาลของจีนแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ในสัปดาห์นี้ ขณะที่เทรดเดอร์คาดว่าธนาคารกลางจีน (PBOC) อาจผ่อนคลายนโยบายเพื่อรับมือกับการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลด มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินยังคงค่อนข้างทรงตัว และเทรดเดอร์ระบุว่า ไม่มีแนวโน้มที่ปริมาณเงินจะตึงตัวอีกครั้งในช่วงสิ้นไตรมาส
สัญญาพันธบัตรอายุ 5 ปีส่งมอบเดือนธ.ค. 2013 ปรับตัวขึ้นสูงถึง 94.558 หยวน (15.45 ดอลลาร์) เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่จีนเริ่มการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าพันธบัตรรัฐบาลในต้นเดือนก.ย. หลังการสั่งห้ามเป็นเวลา 18 ปี โดยการปรับตัวขึ้นของราคาสะท้อนการคาดการณ์ที่ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะลดลงในช่วง 3 เดือน ข้างหน้า
สัญญาล่วงหน้าอื่นๆปรับตัวเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน เมื่อวานนี้ ก่อนที่จะปรับฐานลงเล็กน้อยในวันนี้
เทรดเดอร์กล่าวว่า การทะยานขึ้นของสัญญาพันธบัตรรัฐบาลสะท้อนการคาดการณ์ของตลาดที่ว่า การปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟดอาจจะลดกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าสู่จีนและตลาดเกิดใหม่อื่นๆ และเพิ่มความเป็นไปได้ ที่ธนาคารกลางจีนจะผ่อนคลายนโยบายการเงิน
"การปรับลด QE และการยกเลิกในที่สุดนั้น จะไม่มีผลกระทบโดยตรง อย่างรวดเร็วต่อเศรษฐกิจจีนและตลาดอันเนื่องมาจากการควบคุมเงินทุน" ดีลเลอร์ธนาคารรายหนึ่งในเซี่ยงไฮ้กล่าว
"แต่ผลกระทบในระยะยาวจะได้แก่การที่มีเงินทุนไหลเข้าตลาดจีนน้อยลง และมีแนวโน้มที่จะผลักดันให้ PBOC มีจุดยืนที่ผ่อนคลายในการดำเนินนโยบายการเงิน"
อัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินของจีนปรับตัวไร้ทิศทางในสัปดาห์นี้หลังจาก PBOC ทำการดูดซับปริมาณเงินจากตลาดเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน แต่นักลงทุนเชื่อว่าไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะเงินสดตึงตัวเหมือนที่เคยกระทบตลาดในปลายเดือนมิ.ย.
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group
เทรดเดอร์ในตลาดสกุลเงินจีนกล่าวว่า PBOC ปรับเปลี่ยนแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารตลาดปริวรรตเงินตราในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และสิ่งนี้บ่งชี้ว่า PBOC กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดเสรีรอบใหม่ เพื่อเพิ่มความผันผวน สองทิศทางให้แก่ตลาดปริวรรตเงินตรา และทำให้ความเสี่ยงในตลาดเพิ่มขึ้น
รัฐบาลจีนเคยขยายกรอบซื้อขายหยวนในเดือนเม.ย. 2012 โดยเปิดโอกาสให้อัตราแลกเปลี่ยนหยวนแข็งค่าขึ้นหรืออ่อนค่าลง 1 % จากค่ากลางที่ PBOC กำหนดไว้ในแต่ละวัน
อย่างไรก็ดี สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับความผันผวน เพราะค่าเงินหยวนมักจะเคลื่อนตัวอยู่ใกล้กับเพดานของกรอบซื้อขายเป็น เวลานานหลายสัปดาห์ ในขณะที่บริษัทหลายแห่งคาดว่า หยวนจะแข็งค่าขึ้นไปอีกในอนาคต
สิ่งนี้หมายความว่า ค่ากลางของหยวนได้ทำหน้าที่เป็นปัจจัยสกัดกั้นการแข็งค่าของหยวน แทนที่จะทำหน้าที่เป็นอัตราชี้นำที่สะท้อนระดับเฉลี่ยในตลาด
เทรดเดอร์กล่าวว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่นักปฏิรูปต้องการ และส่งผลให้ PBOC ดำเนินมาตรการสองอย่างในขณะนี้
มาตรการแรกคือการที่ PBOC กำหนดค่ากลางไว้ที่ระดับสูงหลายครั้ง และส่งผลให้หยวนขึ้นไปทำสถิติสูงสุดที่ 6.1554 หยวน/ดอลลาร์ในช่วงเปิดตลาดวันจันทร์ โดย PBOC กำหนดค่ากลางของวันนี้ไว้ที่ 6.1557 หยวน/ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าสถิติสูงสุดเพียง 0.0003 หยวน/ดอลลาร์ เท่านั้น
มาตรการที่สองคือการที่ PBOC แอบแทรกแซงตลาดโดยผ่านทางธนาคารพาณิชย์ของรัฐบาลจีน เพื่อควบคุมหยวนในตลาดสปอตให้เคลื่อน ตัวในกรอบแคบใกล้ 6.1200 หยวน/ดอลลาร์ หยวนในตลาดสปอตเคลื่อนตัวระหว่างระดับ 6.1207-6.1212หยวน/ดอลลาร์ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้
เทรดเดอร์คนหนึ่งในธนาคารพาณิชย์จีนกล่าวว่า "PBOC ดูเหมือน จะหันมาใช้กลยุทธ์แบบใหม่ ขณะที่การกำหนดค่ากลางที่สูงขึ้นช่วยลดส่วนต่างระหว่างค่ากลางกับอัตราในตลาดสปอต และส่งผลให้หยวนสามารถแกว่งตัว ได้กว้างขึ้นในอนาคต และเปิดโอกาสสำหรับการขยายกรอบซื้อขายหยวน/ดอลลาร์ให้กว้างขึ้นอีกครั้ง"
นักเศรษฐศาสตร์หลายรายเคยกล่าวว่า รัฐบาลจีนจำเป็นต้องเปิดพื้นที่สำหรับความผันผวนสองทิศทางให้มากยิ่งขึ้น โดยใช้วิธีปรับค่ากลางกับอัตราในตลาดสปอตให้เข้าใกล้กันมากยิ่งขึ้น
การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของ PBOC ในช่วงนี้ส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนหยวนในตลาดสปอตอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งกว่าค่ากลางราว 0.5 % ใน ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยลดลงจากระดับสูงกว่า 0.9 % ในช่วงเวลาหลายสัปดาห์ที่หยวนเคยพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ภาคเอกชนและภาคธนาคารต้องรับมือกับความเสี่ยงมากยิ่งขึ้นในตลาดปริวรรตเงินตรา แทนที่จะมองว่าการลงทุนในตลาดเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เพราะหยวนมีแนวโน้มเคลื่อนตัวในทิศทางเดียว โดยความจำเป็นในการเพิ่มความผันผวนในตลาดเป็นสิ่งที่ปรากฏชัดในช่วงฤดูใบไม้ผลิในปีนี้ เพราะในช่วงนั้นมีการเก็งกำไรในการแข็งค่าของหยวนเป็นจำนวนมาก และมีการทำอาร์บิทราจระหว่างอัตราแลกเปลี่ยนหยวนข้ามพรมแดน จนส่งผลให้ตัวเลขการค้าของจีนถูกบิดเบือน ไปจากความเป็นจริง
ในระยะอันใกล้นี้ การเข้าแทรกแซงตลาดของทางการจีนไม่ได้เป็นการเพิ่มความผันผวนในตลาด แต่เป็นการสกัดกั้นการแข็งค่าของหยวน และ สกัดกั้นการคาดการณ์ที่ว่า จีนกำลังจะปรับขึ้นค่าเงินหยวนรอบใหม่
ค่าความผันผวนหยวน/ดอลลาร์ระยะหนึ่งปีในตลาดในประเทศปรับตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค.ในช่วงนี้ และอาจลดลงเข้าใกล้จุดต่ำสุดของเดือนมี.ค.
ความเคลื่อนไหวของทางการจีนในช่วงนี้อาจเป็นการตอบรับต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ภายในประเทศที่ว่า การแข็งค่าของหยวนในระยะนี้เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆในเอเชีย ได้สร้างความเสียหายต่อความสามารถทางการแข่งขันของภาคส่งออกของจีน ในขณะที่เศรษฐกิจจีนยังคงฟื้นตัวอย่างไม่มั่นคง
เทรดเดอร์กล่าวว่า PBOC กำลังกังวลกับเรื่องที่ว่า ประเทศอื่นๆในเอเชียอาจจะประสบภาวะเงินทุนไหลออกต่อไป
สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ยกเว้นหยวนอ่อนค่าลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า เฟดจะเริ่มต้นปรับลดขนาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวันนี้
ถ้าหากเฟดประกาศปรับลดขนาด QE ลงเพียงเล็กน้อยในวันนี้ ตลาดเกิดใหม่ก็จะไม่เผชิญกับแรงเทขายอย่างรุนแรง อย่างไรก็ดี สกุลเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่อาจจะยังคงอยู่ในภาวะอ่อนแอ ถ้าหากดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อไป
ดีลเลอร์คนหนึ่งกล่าวว่า "การที่สกุลเงินเอเชียอ่อนค่าลงในปีนี้ อาจส่งผลให้จีนเลื่อนการปฏิรูปสกุลเงินหยวนออกไป"
"PBOC เคยส่งสัญญาณว่าจะยอมปล่อยให้หยวนแข็งค่าขึ้น ด้วยการเปิดโอกาสให้อัตราแลกเปลี่ยนในตลาดสปอตแข็งค่าขึ้นในเดือนเม.ย.และพ.ค. แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าตลาดอยู่ในภาวะไร้ทิศทาง เพราะเจ้าหน้าที่จีนไม่ต้องการ ให้หยวนแข็งค่าขึ้น ในขณะที่สกุลเงินอื่นๆในเอเชียร่วงลง"
หยวนแข็งค่าขึ้นมาแล้ว 1.8 % จากช่วงต้นปีนี้ แต่การแข็งค่าส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเดือนเม.ย.และพ.ค. โดยหยวนแข็งค่าขึ้น 1.5 % ในช่วงสองเดือนดังกล่าว
สัญญาล่วงหน้าพันธบัตรรัฐบาลของจีนแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ในสัปดาห์นี้ ขณะที่เทรดเดอร์คาดว่าธนาคารกลางจีน (PBOC) อาจผ่อนคลายนโยบายเพื่อรับมือกับการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลด มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินยังคงค่อนข้างทรงตัว และเทรดเดอร์ระบุว่า ไม่มีแนวโน้มที่ปริมาณเงินจะตึงตัวอีกครั้งในช่วงสิ้นไตรมาส
สัญญาพันธบัตรอายุ 5 ปีส่งมอบเดือนธ.ค. 2013 ปรับตัวขึ้นสูงถึง 94.558 หยวน (15.45 ดอลลาร์) เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่จีนเริ่มการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าพันธบัตรรัฐบาลในต้นเดือนก.ย. หลังการสั่งห้ามเป็นเวลา 18 ปี โดยการปรับตัวขึ้นของราคาสะท้อนการคาดการณ์ที่ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะลดลงในช่วง 3 เดือน ข้างหน้า
สัญญาล่วงหน้าอื่นๆปรับตัวเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน เมื่อวานนี้ ก่อนที่จะปรับฐานลงเล็กน้อยในวันนี้
เทรดเดอร์กล่าวว่า การทะยานขึ้นของสัญญาพันธบัตรรัฐบาลสะท้อนการคาดการณ์ของตลาดที่ว่า การปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟดอาจจะลดกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าสู่จีนและตลาดเกิดใหม่อื่นๆ และเพิ่มความเป็นไปได้ ที่ธนาคารกลางจีนจะผ่อนคลายนโยบายการเงิน
"การปรับลด QE และการยกเลิกในที่สุดนั้น จะไม่มีผลกระทบโดยตรง อย่างรวดเร็วต่อเศรษฐกิจจีนและตลาดอันเนื่องมาจากการควบคุมเงินทุน" ดีลเลอร์ธนาคารรายหนึ่งในเซี่ยงไฮ้กล่าว
"แต่ผลกระทบในระยะยาวจะได้แก่การที่มีเงินทุนไหลเข้าตลาดจีนน้อยลง และมีแนวโน้มที่จะผลักดันให้ PBOC มีจุดยืนที่ผ่อนคลายในการดำเนินนโยบายการเงิน"
อัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินของจีนปรับตัวไร้ทิศทางในสัปดาห์นี้หลังจาก PBOC ทำการดูดซับปริมาณเงินจากตลาดเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน แต่นักลงทุนเชื่อว่าไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะเงินสดตึงตัวเหมือนที่เคยกระทบตลาดในปลายเดือนมิ.ย.
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group