เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - เงินหยวนแข็งค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบเกือบ 20 ปี เมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ ตอกย้ำว่ารัฐบาลปักกิ่งมุ่งมั่น ที่จะปล่อยให้สกุลเงินของจีนเคลื่อนไหวยืดหยุ่นมากขึ้น แม้การแข็งค่าของเงินหยวนจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกในระยะสั้นก็ตาม
เงินหยวนปิดที่ระดับ 6.1192 ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวันพุธ ( 7 ส.ค.) ซึ่งทะยานสูงสุด นับตั้งแต่สิ้นปี 2536 เป็นต้นมา และเกือบชนเพดานการซื้อขาย+/- 1 % จากค่ากลางอ้างอิงรายวัน ที่ธนาคารกลางจีนกำหนด
ความเคลื่อนไหวของเงินหยวนเป็นไปในทิศทางของการแข็งค่ามาโดยตลอดนับตั้งแต่เดือนก.พ. จนถึงเดือนมิ.ย. ของปีนี้ และท่ามกลางการคาดการณ์กันว่า การแข็งค่าของเงินหยวนจะแผ่วลง หลังจากมีการรายงานข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจของจีนออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ แต่เงินหยวนก็กลับได้แรงหนุนแข็งค่าขึ้นมาอีกเมื่อปลายเดือนก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งสวนทางกับตัวเลขเศรษฐกิจ ที่ส่งสัญญาณว่า เศรษฐกิจจีนจะชะลอการเติบโตต่อไป ซึ่งโดยหลักเหตุผลแล้วจะกระตุ้นให้เงินหยวนอ่อนค่าตาม
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์หลายคนมองว่า โอกาสที่เงินหยวนจะแข็งค่าขึ้นอีกจากระดับในขณะนี้จะมีอย่างจำกัดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ต่อเนื่องไปถึงปี 2557 เนื่องจากรัฐบาลปักกิ่งต้องพยายามรักษาอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจให้อยู่ที่ประมาณ 7.5 % ให้ได้
ทั้งนี้ นับตั้งแต่จีนยกเลิกระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบผูกติดเงินหยวนกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปี 2548 เงินหยวนได้แข็งค่ามากกว่า 30 % และได้แข็งค่า 1.8 % ในปีนี้
นายแอนดี้ เซี่ย นักเศรษฐศาสตร์อิสระคาดการณ์ว่า เงินหยวนจะเคลื่อนไหวป้วนเปี้ยนอยู่ที่ระดับในปัจจุบันไปจนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากจีนกำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว และผู้กำหนดนโยบายต้องการควบคุมเงินในประเทศ เพื่อป้องกันเงินทุนไหลออก โดยเขาเห็นว่า ผู้กำหนดนโยบายควรดำเนินแนวทางเหมือนเมื่อปี 2551 ที่รัฐบาลจีนรับมือกับวิกฤตการณ์เงินโลก ที่เกิดขึ้นในเวลานั้นด้วยการรักษาเสถียรภาพของค่าเงิน
นักเศรษฐศาสตร์บางคนเชื่อว่า ธนาคารกลางจีนต้องการส่งสัญญาณอะไรบางอย่างด้วยการกำหนดค่ากลางอ้างอิงรายวันที่แข็งแกร่ง โดยกำหนดค่ากลางที่ 6.1726 เมื่อวันพุธ ( 7 ส.ค.) เพิ่มขึ้น 0.04 % จากเมื่อวันอังคาร (6 ส.ค.) ที่ 6.1753
นายหลิว ลี่กัง นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ กรุ๊ป ลิมิเต็ด (ANZ) มองว่า อาจเป็นสัญญาณว่า ธนาคารกลางจีนต้องการขยายช่วงการซื้อขายอย่างที่เคยพูดไว้เมื่อต้นปี เพื่อที่ว่า เมื่อหนุนให้เงินหยวนเคลื่อนไหวไปสู่แดนแข็งค่า ซึ่งไม่ยั่งยืนแล้ว จากนั้น ธนาคารกลางจีนก็ต้องการเห็นเงินหยวนไถลสู่แดนอ่อนค่าด้วยแรงซื้อขายของตลาด เขาเห็นว่า จะมีการใช้นโยบายดังกล่าวในระยะเวลาอันใกล้นี้
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนได้เพิ่มช่วงการซื้อขายเงินหยวนเป็น+/- 1 % จาก 0.5 % เมื่อปีที่แล้ว และตลาดคาดหวังว่า จะมีการเพิ่มช่วงการซื้อขาย ที่กว้างออกไปอีก หลังจากการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเดือนต.ค.นี้