หยวนแข็งค่าไม่หยุด จีนเร่งสกัดเงินร้อนเก็งกำไร

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - จีนออกมาตรการสกัดเงินร้อนไหลเข้าในประเทศ เพื่อเก็งกำไรจากการแข็งค่าของเงินหยวน

สำนักปริวรรตเงินตราแห่งชาติของจีน (SAFE) ส่งจดหมายเวียนไปยังธนาคารพาณิชย์ โดยมีการเสนอมาตรการเป็นครั้งแรกในการจำกัดการปล่อยกู้เงินดอลลาร์สหรัฐฯของธนาคารให้แก่บริษัท หลังจากที่เงินหยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าถึงร้อยละ 1 แล้วในปีนี้ และบริษัทหลายรายได้ขอกู้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ นำมาแลกเป็นหยวน แล้วซื้อสินทรัพย์ ที่อยู่ในรูปเงินหยวน เพื่อรอให้เงินหยวนแข็งค่ามากขึ้น

มาตรการควบคุมของสำนักปริวรรตเงินตราแห่งชาติของจีน ยังรวมถึงการเพิ่มความเข้มงวดกวดขันผู้ส่งออกและนำเข้าสินค้า ซึ่งอาศัยใบเก็บเงินค่าสินค้ามาบังหน้าในการนำเงินทุนจากต่างประเทศ เข้ามาเก็งกำไร โดยมีการออกมาตรการควบคุม หลังจากพบว่า ตัวเลขการส่งออกในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้สูงจนน่าประหลาดใจ จึงทำให้สงสัยว่า อาจมีการลงใบกำกับราคาสินค้า ที่ผิดไปจากความจริง

ขณะที่สื่อมวลชนแดนมังกรรายงานว่า ผู้ส่งออกจำนวนมากได้ลงบัญชีรายการสินค้าสูงเกินจริง ซึ่งเป็นช่องทางในการเก็งกำไรในอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อรอเวลาให้เงินหยวนแข็งค่า

นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารเอชเอสบีซี ระบุเมื่อวันจันทร์ (6 พ.ค.) ว่า การออกมาตรการควบคุมดังกล่าวบ่งชี้ว่า การแข็งค่าของเงินหยวนทำให้ผู้กำกับดูแลด้านการปริวรรตเงินตราของจีนสิ้นความอดทนอีกต่อไปแล้ว และคาดว่า เงินหยวนจะแข็งค่าแตะระดับ 6.14 ภายในสิ้นปีนี้ ฉะนั้น การเปลี่ยนแปลงในด้านกฎระเบียบ ที่จะเกิดขึ้นต่อไป เพื่อชะลอเงินร้อนไหลเข้าจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้

การแข็งค่าของเงินหยวนส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเดือนที่แล้ว เมื่อมีกองทุนทะลักเข้ามาเก็งกำไรจากเศรษฐกิจ ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งของจีน และเงินเก็งกำไรยิ่งเข้ามามากขึ้น หลังจากธนาคารกลางของจีนกล่าวว่า จีนจะขยายกรอบการซื้อขายเงินหยวนรายวันในปีนี้
ในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ (6 พ.ค.) เงินหยวนอ่อนค่าลงร้อยละ 0.34 จากระดับ 6.1768 ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปิดตลาดวันศุกร์ (3 พ.ค.) จากนั้น ได้ปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 6.1667 ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

ทั้งนี้ การเกินดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้าย (capital and financial account) ของจีนโป่งพองจาก 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสสุดของปี 2555 เป็น 102,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสแรกของปี 2556 แสดงถึงเงินทุน ที่ทะลักเข้าแดนมังกรอย่างหนัก

ขณะที่ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ยอดส่งออกของแผ่นดินใหญ่เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเร็วกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ถึงร้อยละ 11.7

นายกั๊วะ เจียนเว่ย รองผู้อำนวยการแผนก ที่ดูแลนโยบายการเงินของธนาคารกลางจีนระบุเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ธนาคารกลางของจีนยังมีแผน ที่จะอนุญาตให้บุคคลชำระค่าสินค้าด้วยเงินหยวนในปีนี้อีกด้วย