บริษัทไชน่า โกลด์ กรุ๊ป คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองรายใหญ่ที่สุดของจีน คาดว่า การอุปโภคบริโภคทองของจีนจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับมากกว่า 1,000 ตันในปีนี้ แต่ทิศทางดังกล่าวไม่ยั่งยืน และอาจจะร่วงต่ำกว่าระดับนี้ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
นายตู้ ไห่ชิง รองผู้จัดการบริษัทไชน่า โกลด์ กรุ๊ป คอร์ปกล่าวว่า คาดว่าการผลิตทองในปีนี้จากจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองชั้นนำของโลก จะเพิ่มขึ้นราว 7% สู่ระดับ 430 ตัน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง
อุปสงค์ทองจากจีนพุ่งขึ้นกว่า 50% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่ราคาทองที่ดิ่งลงดึงดูดผู้ซื้อ ซึ่งหนุนการคาดการณ์ที่ว่า จีนจะกลายเป็นผู้บริโภคทองรายใหญ่ที่สุดในปีนี้แทนอินเดีย
ข้อมูลจากสมาคมทองของจีนระบุว่า การอุปโภคทองในปี 2012 อยู่ที่ 832.18 ตัน
อุปสงค์เพิ่มขึ้นมากกว่าการผลิตอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทำให้การนำเข้า ทองจากฮ่องกงพุ่งขึ้น และอยู่ที่ระดับสูงกว่า 100 ตันเป็นเวลา 5 เดือนติดต่อกันจนถึงเดือนก.ย.
แต่การอุปโภคในปีนี้ "ผิดปกติ" เนื่องจากราคาที่ดิ่งลงอย่างมาก ในเดือนเม.ย.ทำให้เกิดกระแสการแห่ซื้อทอง
"การอุปโภคจะค่อยๆชะลอตัวลง การอุปโภคในระดับปัจจุบันที่มากกว่า 1,000 ตันจะไม่ยั่งยืน และจะลดลงสู่ระดับปกติ เนื่องจากผู้บริโภคจะใช้เหตุผลมากขึ้น"
นายตู้คาดว่า การผลิตทองของจีนจะแตะระดับ 430 ตันในปีนี้ เทียบกับ 403 ตันในปี 2012
การนำเข้าทองสุทธิของจีนจากฮ่องกงมีปริมาณรวมราว 855 ตัน ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ และนักวิเคราะห์กล่าวว่า การนำเข้าทองจำนวนมาก อาจจะมีสาเหตุมาจากการซื้อของธนาคารกลางจีน
จีนไม่เปิดเผยข้อมูลการซื้อขายทอง และข้อมูลนำเข้าจากฮ่องกงก็เป็นข้อมูลที่ดีที่สุดที่แสดงภาพการซื้อขายทองของจีน
ธนาคารกลางจีนกำลังวางแผนที่จะเพิ่มจำนวนบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าและส่งออกทองได้ และจะผ่อนคลายข้อจำกัดการซื้อทองของรายย่อย
นายตู้ยังเรียกร้องให้จีนทบทวนระบบการให้ใบอนุญาตทำเหมืองจีน ซึ่งกฎที่หย่อนยานทำให้ผู้สำรวจสามารถซื้อทองและเก็งกำไรแร่ที่สำรวจได้ โดยที่ไม่ต้องพัฒนาแร่ดังกล่าว สิ่งนี้ทำให้ต้นทุนสำหรับผู้ผลิตพุ่งขึ้น ขณะที่พวกเขาจำเป็นต้องซื้อสิทธิในการทำเหมืองจากนักลงทุนภาคเอกชนในราคาที่สูงขึ้น
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group
นายตู้ ไห่ชิง รองผู้จัดการบริษัทไชน่า โกลด์ กรุ๊ป คอร์ปกล่าวว่า คาดว่าการผลิตทองในปีนี้จากจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองชั้นนำของโลก จะเพิ่มขึ้นราว 7% สู่ระดับ 430 ตัน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง
อุปสงค์ทองจากจีนพุ่งขึ้นกว่า 50% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่ราคาทองที่ดิ่งลงดึงดูดผู้ซื้อ ซึ่งหนุนการคาดการณ์ที่ว่า จีนจะกลายเป็นผู้บริโภคทองรายใหญ่ที่สุดในปีนี้แทนอินเดีย
ข้อมูลจากสมาคมทองของจีนระบุว่า การอุปโภคทองในปี 2012 อยู่ที่ 832.18 ตัน
อุปสงค์เพิ่มขึ้นมากกว่าการผลิตอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทำให้การนำเข้า ทองจากฮ่องกงพุ่งขึ้น และอยู่ที่ระดับสูงกว่า 100 ตันเป็นเวลา 5 เดือนติดต่อกันจนถึงเดือนก.ย.
แต่การอุปโภคในปีนี้ "ผิดปกติ" เนื่องจากราคาที่ดิ่งลงอย่างมาก ในเดือนเม.ย.ทำให้เกิดกระแสการแห่ซื้อทอง
"การอุปโภคจะค่อยๆชะลอตัวลง การอุปโภคในระดับปัจจุบันที่มากกว่า 1,000 ตันจะไม่ยั่งยืน และจะลดลงสู่ระดับปกติ เนื่องจากผู้บริโภคจะใช้เหตุผลมากขึ้น"
นายตู้คาดว่า การผลิตทองของจีนจะแตะระดับ 430 ตันในปีนี้ เทียบกับ 403 ตันในปี 2012
การนำเข้าทองสุทธิของจีนจากฮ่องกงมีปริมาณรวมราว 855 ตัน ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ และนักวิเคราะห์กล่าวว่า การนำเข้าทองจำนวนมาก อาจจะมีสาเหตุมาจากการซื้อของธนาคารกลางจีน
จีนไม่เปิดเผยข้อมูลการซื้อขายทอง และข้อมูลนำเข้าจากฮ่องกงก็เป็นข้อมูลที่ดีที่สุดที่แสดงภาพการซื้อขายทองของจีน
ธนาคารกลางจีนกำลังวางแผนที่จะเพิ่มจำนวนบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าและส่งออกทองได้ และจะผ่อนคลายข้อจำกัดการซื้อทองของรายย่อย
นายตู้ยังเรียกร้องให้จีนทบทวนระบบการให้ใบอนุญาตทำเหมืองจีน ซึ่งกฎที่หย่อนยานทำให้ผู้สำรวจสามารถซื้อทองและเก็งกำไรแร่ที่สำรวจได้ โดยที่ไม่ต้องพัฒนาแร่ดังกล่าว สิ่งนี้ทำให้ต้นทุนสำหรับผู้ผลิตพุ่งขึ้น ขณะที่พวกเขาจำเป็นต้องซื้อสิทธิในการทำเหมืองจากนักลงทุนภาคเอกชนในราคาที่สูงขึ้น
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group