เอเยนซี - ธนาคารกลางจีนได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิงใหม่ เพื่อใช้เป็นแนวทางให้กับบรรดาธนาคารพาณิชย์ ในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย ของเหล่าลูกค้าชั้นดี ด้านผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าจีนจะยังไม่มีความจำเป็นต้องคุมเข้มนโยบายการเงิน เพราะยังไม่มีแรงกดดันอะไรที่น่าวิตก
สื่อต่างประเทศเผย (25 ต.ค.) ว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิงใหม่นี้ จะช่วยให้เกิดการเคลื่อนไหวไปตามกลไกตลาด โดยบรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าว เป็นความคืบหน้าล่าสุดในการปล่อยอัตราดอกเบี้ยเคลื่อนไหวอย่างเสรี ขณะที่อัตราดอกเบี้ย เงินกู้อ้างอิงใหม่ จะมาแทนที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้นโยบาย ซึ่งจะค่อยๆ นำมาใช้เป็นอัตราอ้างอิง
รายงานข่าวกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิงใหม่นี้ จะกำหนดร่วมกันโดยธนาคารรายใหญ่สุดของจีน 4 แห่ง กับธนาคารพาณิชย์อีก 9 แห่ง ซึ่งจะมีการประกาศทางเว็บไซต์ Shanghai Interbank Offered Rate
ด้านนักเศรษฐศาสตร์เอชเอสบีซี เผย (25 ต.ค.) ว่า ขณะนี้ ธนาคารกลางจีนไม่ได้คุมเข้มนโยบายการเงินใดๆ โดยกล่าวถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้น (MMR-Money Market Rate) ที่พุ่งสูงขึ้นนั้น ว่าเป็นการชั่วคราวเท่านั้น ยังไม่เกี่ยวกับนโยบายคุมเข้มนโยบายการเงิน
นายฉู่ หงปิน หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจเอเชียของเอชเอสบีซี และนายซุน จวิ้นเหว่ย นักเศรษฐศาสตร์จากเอชเอสบีซี ระบุด้วยว่า ภายในช่วงหลายไตรมาสจากนี้ ยังไม่แรงกดดันเงินเฟ้อที่รุนแรง นอกจากนี้ยังจะมีเงินทุนไหลเข้ามาอีก เพราะเงินหยวนที่แข็งค่าต่อเนื่อง และธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังไม่ลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเร็วๆ นี้ ธนาคารกลางจีนจึงไม่มีความจำเป็นต้องคุมเข้มหรือผ่อนคลายนโยบายการเงิน เพียงแต่อาจต้องควบคุมสภาพคล่องให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เป็นเรื่องราคาผักและผลไม้ที่ปรับตามฤดูกาล ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ หลังข้อมูลตลาดอสังหาริมทรัพย์ พบว่า ราคาบ้านในจีนปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ผู้เชี่ยวชาญฯ กล่าวว่า รัฐบาลจีนน่าจะใช้การบริหารเพิ่มอุปทานบ้าน มากกว่าที่จะคุมเข้มนโยบายการเงินอีก