xs
xsm
sm
md
lg

ธนาคารกลางจีนเพิ่มความโปร่งใส หลังเผยข้อมูลปล่อยกู้ระยะสั้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

        ธนาคารกลางจีน (PBOC) เริ่มต้นเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับวงเงินปล่อยกู้ระยะสั้น (SLF) ในวันนี้ โดย SLF ถือเป็นเครื่องมือบริหารสภาพคล่องอย่างหนึ่ง และการเปิดเผยข้อมูลในครั้งนี้ถือเป็นขั้นตอนหนึ่งในการเพิ่มความโปร่งใส หลังจากเกิดภาวะสภาพคล่องหดตัวในจีนในเดือนมิ.ย. 
        ภาวะสภาพคล่องหดตัวในครั้งนั้นสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายในตลาดการเงินโลก และทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ธนาคารกลางจีนมีปัญหาในการสื่อสารกับตลาด
        ธนาคารกลางจีนระบุในวันนี้ว่า สินเชื่อคงค้างภายใต้ SLF ลดลงสู่ 3.86 แสนล้านหยวน (6.33 หมื่นล้านดอลลาร์) ในช่วงสิ้นเดือนก.ย. จาก 4.10 แสนล้านหยวนในช่วงสิ้นเดือนส.ค.
        ธนาคารกลางจีนเริ่มต้นใช้ SLF ในเดือนม.ค. โดยวงเงินนี้เปิดโอกาสให้ธนาคารพาณิชย์สามารถกู้ยืมเงินจากธนาคารกลางจีนได้เป็นเวลา 1-3 เดือน
        กลไกนี้ถือเป็นเครื่องมือใหม่สำหรับทางการจีนในการบริหารสภาพคล่องระยะสั้น ขณะที่เครื่องมืออื่นๆที่ทางการจีนนำมาใช้ได้แก่ การทำข้อตกลงซื้อคืนพันธบัตร (รีโป) และการขายตั๋วเงินคลังในตลาด 2 ครั้งต่อสัปดาห์
        กลไก SLF นี้เป็นการทำตามกลไกของธนาคารกลางอื่นๆที่ใช้ชื่อเรียกแตกต่างกันไป ซึ่งรวมถึงกลไกที่เรียกว่า discount window ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), Marginal Lending Facility ของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และ Operational Standing Facility ของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE)
        อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางจีนเผยแพร่ข้อมูลของ SLF เพียงไตรมาสละครั้งเท่านั้น และส่งนี้ส่งผลให้นักลงทุนขาดความเข้าใจในปฏิบัติการโดยรวมของธนาคารกลางจีนในการควบคุมปริมาณเงิน โดยธนาคารกลางจีน ระบุในวันนี้ว่า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปธนาคารกลางจีนจะเปิดเผยข้อมูลนี้เป็น ประจำทางเว็บไซท์ที่ www.pbc.gov.cn ;
        ธนาคารกลางจีนระบุว่า "อุปสงค์และอุปทานในสภาพคล่องระยะสั้นใน ระบบธนาคารจีนแกว่งตัวผันผวนอย่างรุนแรงขึ้นมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยได้รับอิทธิพลจากความไม่แน่นอนที่เพิ่มสูงขึ้นในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และการเงินทั่วโลก"
        ธนาคารกลางจีนระบุว่า "ธนาคารกลางจีนจัดตั้ง SLF ขึ้นในช่วงต้นปีนี้ เพื่อจัดการกับความผันผวนชั่วคราวของสภาพคล่องในระบบธนาคาร" และระบุว่าธนาคารกลางจีนประสบความสำเร็จในการดำเนินปฏิบัติการ SLF ในเดือนม.ค.-ก.ย.
        ธนาคารกลางจีนเคยทำให้เกิดภาวะสภาพคล่องหดตัวในช่วงปลายเดือน มิ.ย.ปีนี้ โดยมีจุดประสงค์เพื่อลงโทษธนาคารพาณิชย์ที่ปล่อยกู้แบบเสี่ยงสูง  โดยในช่วงนั้นอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินจีนพุ่งแตะ 30 % ในระหว่างวัน จากระดับปกติที่ 3-4 % และเหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดภาวะปั่นป่วนวุ่นวายในตลาดการเงินทั่วโลก และทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ธนาคารกลางจีนประสบความล้มเหลวในการสื่อสาร
        ธนาคารกลางจีนได้ให้สัญญาหลังจากนั้นว่าจะปรับปรุงในเรื่องนี้ ซึ่งในช่วงที่เกิดภาวะสภาพคล่องหดตัวอีกครั้งในช่วงปลายเดือนก.ย. ธนาคารกลางจีนก็ได้เรียกประชุมธนาคารพาณิชย์เพื่อแจ้งสถานการณ์ ให้ทราบ และได้อัดฉีดเม็ดเงินระยะสั้นเข้าสู่ตลาดผ่านทางปฏิบัติการซื้อขายพันธบัตร โดยมีจุดประสงค์เพื่อตอบสนองความต้องการเม็ดเงินแบบเร่งด่วนในขณะนั้น
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
 
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group
กำลังโหลดความคิดเห็น