บอร์ด ทอท.ไฟเขียว “เมฆินทร์ เพ็ชรพลาย” บิ๊กไทยคมนั่งเก้าอี้เอ็มดีคนใหม่ตามคาด เร่งเจรจาค่าตอบแทนสรุปก่อน 25 พ.ย.นี้ พร้อมเห็นชอบปรับขึ้นค่า PSC ผู้โดยสารในประเทศจาก 100 เป็น 200 บาท ส่วนต่างประเทศจาก 700 เป็น 800 บาท คาดรายได้เพิ่มอีก 3,800 ล้าน ยืนยันปรับเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกและชดเชยกรณีเที่ยวบินล่าช้าเป็นการตอบแทน
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ กรรมการและรักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด ทอท.ที่มี น.ต.ศิธา ทิวารี เป็นประธานเมื่อวันที่ 24 ต.ค. เห็นชอบผลการสรรหาผู้อำนวยการใหญ่ (เอ็มดี) ทอท. ตามที่คณะกรรมการสรรหาฯ ที่มีนายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ เป็นประธาน เสนอว่า นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนการตลาดและงานขาย สำหรับประเทศไทยและกลุ่มอินโดจีน บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM เป็นผู้ได้รับการคัดเลือก โดยจะมีการเจรจาค่าตอบแทนและเงื่อนไขสัญญาจ้างกับคณะอนุกรรมการพิจารณาผลตอบแทนของผู้อำนวยการใหญ่ จากนั้น จะเสนอต่อบอร์ด ทอท.และกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบและแต่งตั้งอย่างเป็นทางการคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 ซึ่งจะครบ 1 ปีที่เอ็มดี ทอท.ว่าง
นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบการปรับขึ้นอัตราค่าบริการผู้โดยสารขาออก ( Passenger Service Charge : PSC) ของท่าอากาศยาน 6 แห่งในความรับผิดชอบของ ทอท. ในส่วนของผู้โดยสารระหว่างประเทศจาก 700 บาทเป็น 800 บาทต่อคนผู้โดยสารภายในประเทศปรับจาก 100 บาทเป็น 200 บาทต่อคน เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงโดยใช้หลักเกณฑ์คำนวณต้นทุนตามที่เกิดขึ้นจริงระหว่างปีงบ 2554-2558 ซึ่งยังไม่เคยมีการปรับมาเป็นเวลา 6 ปีแล้ว โดยขั้นตอนหลังจากนี้ ไปยังกรมการบินพลเรือน (บพ.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุม กบร. ที่มีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิจารณาอนุมัติก่อนประกาศเป็นกฎกระทรวง และจะต้องประกาศให้สายการบินทราบล่วงหน้าเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 4-6 เดือนเพื่อเตรียมความพร้อมในการขายตั๋วล่วงหน้า
ทั้งนี้ คาดว่าการปรับขึ้นค่า PSC ดังกล่าวจะทำให้ ทอท.มีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 3,800 ล้านบาทต่อปี แบ่งเป็นรายได้จาก PSC ผู้โดยสารภายในประเทศ 1,400 ล้านบาท PSC ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 2,400 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีรายได้ค่า PSC ประมาณ 16,700 ล้านบาทต่อปี โดยยอมรับว่าก่อนหน้านี้จะปรับขึ้นค่า PSC ผู้โดยสารภายในประเทศเป็น 150 บาทต่อคน แต่เมื่อพิจารณาต้นทุนจริงที่ ทอท.รับภาระที่ 336 บาทต่อคน จึงเห็นว่าควรปรับขึ้นเป็น 200 บาทต่อคนเพื่อลดการขาดทุนและส่วนที่เหลือจะนำกำไรจาก PSC ผู้โดยสารระหว่างประเทศที่มีต้นทุนประมาณ 500 บาทต่อคนมาอุดหนุน โดยมั่นใจว่าการปรับขึ้นค่า PSC จะไม่กระทบต่อการตัดสินใจเดินทางของผู้โดยสารแน่นอน โดย ทอท.จะมีการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารเพิ่มกว่าเดิม
ด้าน น.ต.ศิธากล่าวว่า การขึ้นค่า PSC นั้น ทอท.จะต้องจัดหาและปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อตอบแทนให้ผู้โดยสาร ซึ่งบอร์ดได้พิจารณารับทราบแนวทางเรื่อง Airport Travel Guard ซึ่งเป็นประกันให้ผู้โดยสารในกรณีต่างๆ เช่น เที่ยวบินล่าช้า ผู้โดยสารจะได้รับการชดเชย ยกตัวอย่างหากเกิดเที่ยวบินดีเลย์ 3 ชั่วโมง ผู้โดยสารอาจจะได้รับชดเชยเป็นตั๋วฟรี 1 เที่ยวบินหรือได้รับการคืนเงิน แล้วแต่จะกำหนดเงื่อนไขตกลงกัน เป็นต้น ซึ่งจะเป็นแนวทางที่จะทำให้ผู้โดยสารเกิดความมั่นใจในการใช้บริการเพิ่มขึ้น ซึ่งการปรับค่า PSC ครั้งนี้เพื่อทำให้การขาดทุนลดลง ส่วน กบร.จะอนุมัติให้หรือไม่ เป็นดุลยพินิจ แต่บอร์ด ทอท.ได้พิจารณาตามเหตุผลเพื่อดูแลในเรื่องผลการดำเนินงานของ ทอท.ซึ่งเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์อย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ บอร์ด ยังมีมติเห็นชอบให้ ทอท.ร่วมลงทุนในกองทุนรวมวายุภักษ์ จำนวน 1 ล้านบาท และเห็นชอบให้ ทอท.จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2556 ในวันที่ 24 มกราคม 2557 ซึ่งบอร์ดรับทราบรายงานผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2556 (ต.ค. 55 - ก.ย. 56) แล้ว แต่ยังต้องมีการปรับปรุงตัวเลขอีกเล็กน้อยก่อนมาเสนอบอร์ดอีกครั้งในวันที่ 6 ธันวาคม ส่วนปี 2557นั้น มั่นใจว่าปริมาณผู้โดยสารยังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่ง ทอท.ต้องรอให้การปรับปรุงขยายขีดความ สามารถท่าอากาศยานภูเก็ตและดอนเมืองเสร็จสิ้นก่อน จึงจะสามารถประเมินได้ว่าผู้โดยสารจะเติบโตเท่าไร