“ยรรยง” โปรโมต AEC ดึงนักลงทุนฮ่องกง โวปี 58 เปิดเสรีทั้ง AEC และ RCEP จะทำให้เกิดกลุ่มการค้าเสรีใหญ่ที่สุดในโลก จึงเป็นแหล่งลงทุนที่น่าสนใจมากที่สุด สบช่องจีบร่วมพัฒนาระบบลอจิสติกส์ในอาเซียน พร้อมชวนร่วมประมูลโครงการลงทุน 2.2 ล้านล้าน
นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในระหว่างที่รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) เดินทางโรดโชว์ที่ฮ่องกงว่า ไทยในฐานะที่เป็นผู้ประสานงานระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนกับจีน ได้เชิญชวนให้นักลงทุนฮ่องกงเข้ามาลงทุนในอาเซียนเพราะเป็นแหล่งที่น่าลงทุนมากที่สุดในโลก โดยมีนโยบายการค้าและการลงทุนที่เปิดกว้างและเชื่อมโยงกับภูมิภาคต่างๆ ของโลก จากการที่อาเซียนกำลังจะเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 และอยู่ระหว่างการเจรจาตกลงพันธมิตรทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) กับอีก 6 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย ซึ่งมีกำหนดเจรจาจบในปี 2558 เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ เฉพาะอาเซียนเป็นตลาดที่น่าลงทุน มีประชากรกว่า 600 ล้านคน มูลค่าจีดีพีรวม 2.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ มีการเติบโตทางเศรษฐกิจร้อยละ 5.7 ในปี 2555 มีทรัพยากรทั้งน้ำมัน ก๊าซ ไม้ พืชอาหาร ประมง และมีงานฝีมือเพิ่มมากขึ้น ทำให้อาเซียนเป็นผู้ผลิตที่มีศักยภาพในการแข่งขันและส่งออกด้านอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ รถยนต์ อุปกรณ์จักรกล และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ
“ยิ่งเมื่ออาเซียนเปิด AEC และร่วมเปิดเสรีในกรอบ RCEP กับประเทศคู่เจรจา จะทำให้เกิดกลุ่มการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุด มีประชากร 3,200 ล้านคน นับเป็นครึ่งหนึ่งของประชากรโลก มีมูลค่าการค้าถึงร้อยละ 40 ของโลก มีจีดีพีรวมกันมูลค่าประมาณ 17 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหากฮ่องกงมาลงทุนในอาเซียนก็จะได้รับประโยชน์จาก FTA ของอาเซียนและระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาอื่นๆ” นายยรรยงกล่าว
นายยรรยงกล่าวว่า ยังได้เชิญชวนให้นักลงทุนฮ่องกงเข้ามาลงทุนพัฒนาระบบลอจิสติกส์ในอาเซียน รวมทั้งไทย เพราะปัจจุบันอาเซียนมีแผนที่จะพัฒนาระบบลอจิสติกส์เชื่อมโยงในภูมิภาค โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับจีนภายใต้ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอาเซียน-ลุ่มแม่น้ำโขง (ASEAN-Mekong Basin Development Cooperation) ที่จะมีโครงการสร้างทางรถไฟเชื่อมคุนหมิงไปยังสิงคโปร์ผ่านประเทศอาเซียนบางประเทศ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดค่าขนส่งและความสูญเสียทางเศรษฐกิจของภูมิภาคแล้ว ยังจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และดึงดูดนักลงทุนมาสู่อาเซียนด้วย
โดยในส่วนของไทยมีแผนที่จะลงทุนในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาท เช่น การสร้างทางรถไฟความเร็วสูงไปสู่เมืองสำคัญๆ และประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการปรับปรุงการขนส่งสาธารณะในกรุงเทพฯ ซึ่งไทยได้เปิดให้ต่างชาติมายื่นประมูล และพร้อมที่จะเปิดรับนักลงทุนจากฮ่องกง
นอกจากนี้ ในส่วนของฮ่องกง อาเซียนกำลังจะเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีกับฮ่องกงเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทั้งด้านการค้าและการลงทุน โดยจะเริ่มการเจรจาในปี 2557 ประกอบด้วย การค้าสินค้า บริการ การลงทุน ทรัพย์สินทางปัญญา ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและอื่นๆ ซึ่ง FTA อาเซียน-ฮ่องกง จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ทั้งด้านการค้าและการลงทุนระหว่างอาเซียนกับฮ่องกงมากขึ้น
