xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.เตือน “ปู” ข้าว-ยางแลกรถไฟขนผัก หวั่นซ้ำรอยลำไย โต้ พท.ส่งรถสุขา-พยาบาลทุกม็อบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอรรถวิช สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ภาพจากแฟ้ม)
“อรรถวิชช์” จวก “หมวดเจี๊ยบ” กลับไปศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูง ยันรถไฟถึงแค่หนองคาย-หัวหิน แนะ รบ.เปิดเผยสต๊อก-ตรวจคุณภาพข้าว ก่อนทำโครงการข้าวแลกรถไฟ หวั่นซ้ำรอยลำไย “ณัฏฐ์” จี้ “ปู” แถลงข้อดี-ข้อเสีย ทำสัญญาซื้อข้าว-ยาง กับจีน หวั่นซ้ำรอยเอฟทีเอส่องออกเหล็ก ป้อง “ชายหมู” ยัน กทม.ส่งรถดับเพลิง-พยาบาล อำนวยความสะดวกทุกม็อบ วอนทีมโฆษก พท.อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่

วันนี้ (14 ต.ค.) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ หรือเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ในฐานะโฆษกคณะรัฐมนตรีเงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่มีการแถลงข่าวพาดพิงว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พูดโกหกเรื่องรถไฟความเร็วสูงเส้นทาง กรุงเทพฯ-หนองคาย ไปถึงแค่นครราชสีมาเท่านั้น ว่า ร.ท.หญิง สุณิสา ควรไปศึกษาข้อมูลลึกซึ้งก่อนแถลงข่าว เพราะกรรมาธิการทุกคนในชุดดังกล่าว รวมทั้งรัฐบาลเองก็รู้ว่ารถไฟไม่ได้ไปถึงหนองคายแต่จะไปถึงแค่นครราชสีมา ซึ่ง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นคนยอมรับเอง ดังนั้นการที่รัฐบาลไปจัดงานสร้างอนาคตไทย 2020 ก็เป็นการโกหกประชาชน เพราะเส้นทางรถไฟความเร็วสูงมีเส้นทางเดียวที่ทำถึงปรายทางคือเส้นทาง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ส่วนเส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย และกรุงเทพฯ-ปาดังเบซา จะเป็นเส้นทางที่กุดไม่ถึงปรายทาง

นายอรรถวิชช์ กล่าวอีกว่า การที่รัฐบาลมีแนวคิดเอาข้าวแลกกับรถไฟความเร็วสูงจากประเทศจีนนั้น ตนขอให้รัฐบาลรีบทำการปิดสต๊อก และแจ้งประชาชนว่ามีสต๊อกเท่าไหร่ คุณภาพข้าวเป็นอย่างไร ซึ่งรัฐบาลต้องออกแถลงการณ์โดยละเอียด เพราะ 2 ปีที่ผ่านมาภายใต้โครงการจำนำข้าวนั้นรัฐบาลไม่ได้เปิดเผยตัวเลขข้าวในสต๊อกที่ชัดเจน ซึ่งกรณีอย่างนี้เคยเกิดขึ้นแล้วในอดีต คือโครงการลำไยแลกรถไฟในปี 2548 ซึ่งไม่มีการตรวจสภาพและสต๊อกลำใยก่อนแต่กลับมีการไปตกลงกับประเทศจีนว่า จะนำลำไย 56,794 ตัน มูลค่า 1,615 ล้านบาท แลกกับหัวรถจักร 7 คัน แต่ปรากฏว่าสุดท้ายต้องยกเลิกโครงการไป เพราะรัฐบาลไม่เคยมีการประกาศคุณภาพลำไยส่งผลให้ประเทศจีนตีกลับลำใยเพราะไม่ได้มาตรฐาน

“ผมเห็นด้วยที่รัฐบาลจะเอาข้าว หรือยางพาราไปแลกกับรถไฟ หรือความช่วยเหลืออื่นๆจากจีน แต่รัฐบาลต้องบอกว่าสต๊อกข้าวในตอนนี้มีเท่าไหร่ คุณภาพเป็นอย่างไร เพราะโอกาสที่จะเป็นเหมือนโครงการลำไยแลกรถไฟนั้นมีสูงเพราะรัฐบาลไม่มีการเปิดเผยสต๊อกข้าว ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถทำได้จริง และจะเป็นเพียงการโฆษณาหาเสียงเท่านั้น” นายอรรถวิชช์ กล่าว

ด้าน นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน ส.ส.กทม.รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงข่าวว่าจีนปรับการซื้อข้าวจากไทยเพิ่มเติม เป็นปีละ 1 ล้านตัน และจะรับซื้อยางพาราจากไทย ปีละ 2 แสนตันนั้น ว่า ขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกมาแถลงรายละเอียดของสัญญาดังกล่าวให้ครบถ้วน ไม่ใช่เอาแค่ส่วนดีมาพูด เพราะในสัญญาดังกล่าวมีรายละเอียดอีกมากรวมทั้งเรื่องที่เป็นผลเสียด้วย เพราะที่ผ่านมาในอดีตมีการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) เรื่องการส่งออกเหล็กไปยังประเทศจีนมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องสูญเสียในเรื่องการนำเข้าสินค้าหมวดเซอรามิก ที่ทำให้ผู้ผลิตภายในประเทศไม่สามารถแข่งขันกับสินค้านำเข้าได้ จนเกิดปัญหาการทำธุรกิจขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์แถลงให้ครบถ้วนทั้งส่วนดีส่วนเสียของสัญญานี้ รวมทั้งชี้แจงรายละเอียดวิธีการรับซื้อมีกระบวนการอย่างไร ระยะเวลา และวิธีการจ่ายเงินเป็นอย่างไรต้องชี้แจงให้เกิดความชัดเจน

ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยพยายามที่จะยื่นถอดถอน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยอ้างว่ามีการสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจากมีการส่งรถพยาบาล รถดับเพลิง รถสุขาของ กทม.ในการอำนวยความสะดวกการชุมนุมนั้น ว่า การที่พรรคเพื่อไทยพยายามโจมตี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ นั้น อยากให้กลับไปทบทวนให้ดีว่าตั้งแต่มีการชุมนุมตั้งแต่ปี 2552-2553 ที่ผ่านมานั้น กทม.ก็มีการนำรถพยาบาล รถดับเพลิง รถสุขาของ กทม.อำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งมีการอำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมนุมมาโดยตลอดไม่ใช่อำนวยความสะดวกกับกลุ่มที่ล้มรัฐบาลเท่านั้น เพราะเป็นการสนับสนุนตามหลักมนุษยธรรม และอยากเรียกร้องทีมโฆษกพรรคเพื่อไทยอย่าทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะการชุมนุมไม่ได้ก่อให้เกิดความวุ่นวาย แต่รัฐบาลเองกลับประสานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลปิดถนน เพื่อให้การชุมนุมเป็นไปอย่างลำบาก ทั้งที่หากปล่อยให้มีการชุมนุมโดยสงบภายใต้กฎหมายความเดือดร้อนวุ่นวายในวันนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น