เมื่อเวลา 11.40 น.วานนี้ (18 ก.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน พร้อมด้วยส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ประมาณ 20 คน นำรายชื่อ ส.ส.จำนวน 138 รายชื่อ ยื่นต่อนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เพื่อถอดถอน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ตามมาตรา 270 และ 271 ฐานปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่เป็นกลาง และขัดต่อรัฐธรรมนูญ ระหว่างทำหน้าที่ประธานการประชุมร่วมกันรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม เกี่ยวกับที่มาของ ส.ว. เนื่องจากไม่เปิดโอกาสให้ผู้ สงวนคำแปรญัตติ อภิปราย และ รวบรัดลงมติ ซึ่งขัดกับข้อบังคับ
ทั้งนี้ นายนิคม ระบุว่า จะตรวจสอบความถูกต้อง และส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. ภายใน 15 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด
**จี้"ปู"เข้าประชุมสภาถกเงินกู้ 2 ล้านล้าน
นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายกรัฐมนตรี สั่งยกเลิกการประชุมครม.สัญจร ที่จ.ลพบุรี ในวันที่ 19-20 ก.ย. โดยระบุว่า ติดภารกิจการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ... วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ว่า ขอชื่นชม แต่หากมีการยกเลิกครม.สัญจรแล้ว นายกรัฐมนตรี ยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และยังคงหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมประชุมสภา ก็คงไม่มีประโยชน์ ดังนั้น จึงขอเรียกร้องไปยัง นายกรัฐมนตรี ให้เข้าร่วมประชุมสภา และตอบคำถามทุกคำถามของสมาชิกด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เพื่อความสบายใจของนายกรัฐมนตรี ตนจะแนะแนวข้อสอบที่นายกรัฐมนตรีต้องตอบในที่ประชุม คือ นายกรัฐมนตรีจะต้องตอบให้ได้เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นของงบประมาณ 2 ล้านล้านบาท และเรื่องการซ้ำซ้อนของโครงการ
ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่า จะชี้แจง ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ในสภาฯ ด้วยตัวเองหรือไม่ว่า เป็นเรื่องที่อยู่ในชั้นกรรมาธิการ เป็นหน้าที่ของกรรมาธิการเป็นผู้ชี้แจง
** หากปชป.เล่นเกมตีรวน เจอปิดปาก
นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่จะมีขึ้นในวันนี้ (19ก.ย.) ว่า วิปรัฐบาลได้มอบหมายให้ นายวิทยา บุรณศิริ ที่ปรึกษาวิปรัฐบาล ไปประสานงานกับฝ่ายค้าน เบื้องต้นกำหนดวันอภิปรายวาระ 2 ในวันที่ 19-20 ก.ย. โดยจะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านอภิปรายเต็มที่ ส่วนจะขยายเวลาหรือไม่ ต้องประเมินหน้างานอีกที แต่ยืนยันว่า จะไม่พิจารณากันในวันที่ 21-22 ก.ย. ซึ่งเป็นวันเสาร์-อาทิตย์
อย่างไรก็ตาม อยากขอให้พรรคประชาธิปัตย์ เคารพข้อบังคับการประชุม ให้ความร่วมมืออภิปรายในประเด็น ไม่วนเวียน ซ้ำซาก ไม่ใช่แปรญัตติบรรทัดเดียว แต่อภิปรายย้อนไปย้อนมา อย่างนี้ประธานในที่ประชุมก็ต้องใช้ข้อบังคับควบคุมอย่างเคร่งครัด และหากสมาชิกรัฐสภาเห็นว่า อภิปรายสมควรแล้ว ก็เสนอปิดอภิปรายในแต่ละมาตราได้ เช่นกัน
ทั้งนี้ วิปรัฐบาลได้มีการกำชับส.ส.ฝ่ายรัฐบาล รักษาองค์ประชุมอย่างเคร่งครัด โดยวิป 1 คน ดูแล ส.ส. 7-8 คน วางมาตรการให้ส.ส.มาก่อนประชุม และกลับบ้านหลังเลิกประชุม เชื่อว่าภาพรวมการอภิปรายจะดีกว่า ร่าง แก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. เพราะพรรคประชาธิปัตย์ เสียหายไปเยอะ โดนท้วงติงมาก
**เปรียบ 2ล้านล้านเหมือนบัตรเครดิต
นายวิม รุ่งวัฒนจินดา เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าฝ่ายประสานงานและเผยแพร่นโยบายรัฐบาลด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า การกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทครั้งนี้ เป็นไปตามแผนพัฒนาเพื่อประชาชนทั่วทั้งประเทศ ไม่เฉพาะในพื้นที่ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย ตามที่ฝ่ายค้านกล่าวอ้าง เป็นการขอกรอบวงเงิน 2 ล้านล้านบาทไว้ก่อน หลังจากที่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านแล้ว ถึงจะมีการตั้งงบประมาณเพื่อที่จะร่างรายละเอียดโครงการ และดำเนินการในการขอใช้เงิน หลังจากนั้นจะมีการชี้แจงรายละเอียดของเงิน ว่าเอาไปใช้อะไรบ้าง การที่โจมตีว่ารัฐบาลทุจริต หรือทำประโยชน์เพื่อพวกพ้องนั้น ขอให้เข้าใจว่า งบฯจะใช้ในการก่อสร้างตามสัญญาที่ตกลงไว้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ก็ต่อเมื่อมีรายละเอียดของแผนงาน และกรอบวงเงินที่ขออนุมัติแล้วเท่านั้น อนาคตโครงการใดไม่สามารถดำเนินการตามแผนได้ งบฯดังกล่าวจะไม่ถูกเบิกจ่าย เหมือนบัตรเครดิต ที่หากยังไม่รูดบัตร หนี้ไม่มี ดอกเบี้ยไม่เกิด
**พท.เตรียมงัดม.291 โหวตวาระ 3
นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กลุ่มนปช. กล่าวถึงกรณี กลุ่ม 40 ส.ว. ยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว. ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 หรือไม่ ว่า หากศาลไปบ้าจี้ตามฝ่ายที่ร้อง ไม่นึกถึงส่วนรวม บ้านเมืองคงเดินไม่ได้ ก่อนหน้ามีการยื่นเรื่องให้ศาลวินิจฉัยทั้ง ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย 2557 การแก้รัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท มาวันนี้ยังมาร้องเรื่องแก้ที่มา ส.ว.อีก ตนกลัวเพียงอย่างเดียว ถ้าเจ้าของประเทศ ประชาชนลุกมาทวงอำนาจของเขาบ้าง แล้วจะเป็นอย่างไร ถ้าท่านคิดว่าทำตามกฎหมาย ทำตามหน้าที่วางตัวเป็นกลางจริงๆ คงไม่มีใครว่า จากเรื่องดังกล่าวมี ส.ส.คุยกันว่า ถ้าทุกอย่างมันสะดุดมากๆ ศาลไม่พิจารณาตามหลักนิติธรรมทั้งเรื่อง พ.ร.บ.งบประมาณปี 57 หรือแก้ที่มา ส.ว. เราจะเอาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 วาระ 3 ที่ยังค้างในสภาฯ มาโหวตกันเลย แต่ที่สุดแล้วเชื่อว่า ที่มีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญหลายเรื่อง รวมทั้งแก้ที่มา ส.ว.ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะรัฐบาลเดินตามช่องทางกฎหมายทุกอย่าง
**ยังไร้ข้อสรุปสมาชิกภาพส.ส.“มาร์ค”
รายงานข่าวแจ้งว่าในการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวานนี้ ( 18 ก.ย.) ที่ประชุมได้มีการพิจารณาอภิรปรายในคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความเห็นของสมาชิกจำนวน 134 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 ว่า สมาชิกภาพการเป็นส.ส.ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 (5) ประกอบ มาตรา 102(6) หรือไม่ เนื่องจากกระทรวงกลาโหม มีคำสั่งปลดร.ต.อภิสิทธิ์ ออกจากราชการเป็นนายทหารกองหนุน หลังจากที่กระทรวงกลาโหม ได้ส่งเอกสารเพิ่มเติมเป็นรายงานผลการดำเนินการเกี่ยวกับการมีคำสั่งปลด ร.ต.อภิสิทธิ์ มาให้ เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ตามที่ศาลได้มีคำสั่งเรียก แต่ที่ประชุมเห็นว่า ยังขาดเอกสารประกอบตามที่มีการอ้างอิงในรายงาน จึงให้ทางสำนักงานไปพิจารณาว่ามีเอกสารใดที่สำคัญ และจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีของตุลาการ ก็ให้สำนักงานมีหนังสือแจ้งไปยังกระทรวงกลาโหม ให้นำส่งมาประกอบการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะกำหนดแนวทางในการไต่สวน และวินิจฉัยอย่างไร ซึ่งขณะนี้ยังไม่เป็นข้อยุติ
ทั้งนี้ นายนิคม ระบุว่า จะตรวจสอบความถูกต้อง และส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. ภายใน 15 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด
**จี้"ปู"เข้าประชุมสภาถกเงินกู้ 2 ล้านล้าน
นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายกรัฐมนตรี สั่งยกเลิกการประชุมครม.สัญจร ที่จ.ลพบุรี ในวันที่ 19-20 ก.ย. โดยระบุว่า ติดภารกิจการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ... วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ว่า ขอชื่นชม แต่หากมีการยกเลิกครม.สัญจรแล้ว นายกรัฐมนตรี ยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และยังคงหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมประชุมสภา ก็คงไม่มีประโยชน์ ดังนั้น จึงขอเรียกร้องไปยัง นายกรัฐมนตรี ให้เข้าร่วมประชุมสภา และตอบคำถามทุกคำถามของสมาชิกด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เพื่อความสบายใจของนายกรัฐมนตรี ตนจะแนะแนวข้อสอบที่นายกรัฐมนตรีต้องตอบในที่ประชุม คือ นายกรัฐมนตรีจะต้องตอบให้ได้เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นของงบประมาณ 2 ล้านล้านบาท และเรื่องการซ้ำซ้อนของโครงการ
ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่า จะชี้แจง ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ในสภาฯ ด้วยตัวเองหรือไม่ว่า เป็นเรื่องที่อยู่ในชั้นกรรมาธิการ เป็นหน้าที่ของกรรมาธิการเป็นผู้ชี้แจง
** หากปชป.เล่นเกมตีรวน เจอปิดปาก
นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่จะมีขึ้นในวันนี้ (19ก.ย.) ว่า วิปรัฐบาลได้มอบหมายให้ นายวิทยา บุรณศิริ ที่ปรึกษาวิปรัฐบาล ไปประสานงานกับฝ่ายค้าน เบื้องต้นกำหนดวันอภิปรายวาระ 2 ในวันที่ 19-20 ก.ย. โดยจะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านอภิปรายเต็มที่ ส่วนจะขยายเวลาหรือไม่ ต้องประเมินหน้างานอีกที แต่ยืนยันว่า จะไม่พิจารณากันในวันที่ 21-22 ก.ย. ซึ่งเป็นวันเสาร์-อาทิตย์
อย่างไรก็ตาม อยากขอให้พรรคประชาธิปัตย์ เคารพข้อบังคับการประชุม ให้ความร่วมมืออภิปรายในประเด็น ไม่วนเวียน ซ้ำซาก ไม่ใช่แปรญัตติบรรทัดเดียว แต่อภิปรายย้อนไปย้อนมา อย่างนี้ประธานในที่ประชุมก็ต้องใช้ข้อบังคับควบคุมอย่างเคร่งครัด และหากสมาชิกรัฐสภาเห็นว่า อภิปรายสมควรแล้ว ก็เสนอปิดอภิปรายในแต่ละมาตราได้ เช่นกัน
ทั้งนี้ วิปรัฐบาลได้มีการกำชับส.ส.ฝ่ายรัฐบาล รักษาองค์ประชุมอย่างเคร่งครัด โดยวิป 1 คน ดูแล ส.ส. 7-8 คน วางมาตรการให้ส.ส.มาก่อนประชุม และกลับบ้านหลังเลิกประชุม เชื่อว่าภาพรวมการอภิปรายจะดีกว่า ร่าง แก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. เพราะพรรคประชาธิปัตย์ เสียหายไปเยอะ โดนท้วงติงมาก
**เปรียบ 2ล้านล้านเหมือนบัตรเครดิต
นายวิม รุ่งวัฒนจินดา เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าฝ่ายประสานงานและเผยแพร่นโยบายรัฐบาลด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า การกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทครั้งนี้ เป็นไปตามแผนพัฒนาเพื่อประชาชนทั่วทั้งประเทศ ไม่เฉพาะในพื้นที่ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย ตามที่ฝ่ายค้านกล่าวอ้าง เป็นการขอกรอบวงเงิน 2 ล้านล้านบาทไว้ก่อน หลังจากที่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านแล้ว ถึงจะมีการตั้งงบประมาณเพื่อที่จะร่างรายละเอียดโครงการ และดำเนินการในการขอใช้เงิน หลังจากนั้นจะมีการชี้แจงรายละเอียดของเงิน ว่าเอาไปใช้อะไรบ้าง การที่โจมตีว่ารัฐบาลทุจริต หรือทำประโยชน์เพื่อพวกพ้องนั้น ขอให้เข้าใจว่า งบฯจะใช้ในการก่อสร้างตามสัญญาที่ตกลงไว้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ก็ต่อเมื่อมีรายละเอียดของแผนงาน และกรอบวงเงินที่ขออนุมัติแล้วเท่านั้น อนาคตโครงการใดไม่สามารถดำเนินการตามแผนได้ งบฯดังกล่าวจะไม่ถูกเบิกจ่าย เหมือนบัตรเครดิต ที่หากยังไม่รูดบัตร หนี้ไม่มี ดอกเบี้ยไม่เกิด
**พท.เตรียมงัดม.291 โหวตวาระ 3
นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กลุ่มนปช. กล่าวถึงกรณี กลุ่ม 40 ส.ว. ยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว. ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 หรือไม่ ว่า หากศาลไปบ้าจี้ตามฝ่ายที่ร้อง ไม่นึกถึงส่วนรวม บ้านเมืองคงเดินไม่ได้ ก่อนหน้ามีการยื่นเรื่องให้ศาลวินิจฉัยทั้ง ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย 2557 การแก้รัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท มาวันนี้ยังมาร้องเรื่องแก้ที่มา ส.ว.อีก ตนกลัวเพียงอย่างเดียว ถ้าเจ้าของประเทศ ประชาชนลุกมาทวงอำนาจของเขาบ้าง แล้วจะเป็นอย่างไร ถ้าท่านคิดว่าทำตามกฎหมาย ทำตามหน้าที่วางตัวเป็นกลางจริงๆ คงไม่มีใครว่า จากเรื่องดังกล่าวมี ส.ส.คุยกันว่า ถ้าทุกอย่างมันสะดุดมากๆ ศาลไม่พิจารณาตามหลักนิติธรรมทั้งเรื่อง พ.ร.บ.งบประมาณปี 57 หรือแก้ที่มา ส.ว. เราจะเอาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 วาระ 3 ที่ยังค้างในสภาฯ มาโหวตกันเลย แต่ที่สุดแล้วเชื่อว่า ที่มีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญหลายเรื่อง รวมทั้งแก้ที่มา ส.ว.ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะรัฐบาลเดินตามช่องทางกฎหมายทุกอย่าง
**ยังไร้ข้อสรุปสมาชิกภาพส.ส.“มาร์ค”
รายงานข่าวแจ้งว่าในการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวานนี้ ( 18 ก.ย.) ที่ประชุมได้มีการพิจารณาอภิรปรายในคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความเห็นของสมาชิกจำนวน 134 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 ว่า สมาชิกภาพการเป็นส.ส.ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 (5) ประกอบ มาตรา 102(6) หรือไม่ เนื่องจากกระทรวงกลาโหม มีคำสั่งปลดร.ต.อภิสิทธิ์ ออกจากราชการเป็นนายทหารกองหนุน หลังจากที่กระทรวงกลาโหม ได้ส่งเอกสารเพิ่มเติมเป็นรายงานผลการดำเนินการเกี่ยวกับการมีคำสั่งปลด ร.ต.อภิสิทธิ์ มาให้ เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ตามที่ศาลได้มีคำสั่งเรียก แต่ที่ประชุมเห็นว่า ยังขาดเอกสารประกอบตามที่มีการอ้างอิงในรายงาน จึงให้ทางสำนักงานไปพิจารณาว่ามีเอกสารใดที่สำคัญ และจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีของตุลาการ ก็ให้สำนักงานมีหนังสือแจ้งไปยังกระทรวงกลาโหม ให้นำส่งมาประกอบการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะกำหนดแนวทางในการไต่สวน และวินิจฉัยอย่างไร ซึ่งขณะนี้ยังไม่เป็นข้อยุติ