xs
xsm
sm
md
lg

พท.สู่รู้ ปชป.ต้านกู้หวั่นเป็นฝ่ายค้านยาว สั่งลุยแก้ที่มา ส.ว. ยันการเมืองชักใยม็อบยาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย(แฟ้มภาพ)
“เด็จพี่” แจงอังคารนี้ พท.นัดถกรับกู้ 2 ล้านล้าน สั่ง ส.ส.งดภารกิจ เตรียมพร้อมสุดสัปดาห์หน้า พรุ่งนี้ถกกรอบเวลา เชื่อ 2 วันจบ ขู่ฝ่ายค้านตื้อปิดประชุมตามถนัด เทียบไทยเข้มแข็งยันไม่ขัด รธน. สู่รู้ชี้ผู้ใหญ่ ปชป.กลัวกู้ผ่านเป็นฝ่ายค้านยาว ลูกพรรคเอือม หน.หวังเปลี่ยนตัว ฉะไม่เคารพเสียงข้างมาก ยื่นศาลระงับแก้ที่มา ส.ว. สั่งลุยวาระ 3 ไม่กลัว ขู่ยื่นถอน ส.ส.-ส.ว.หนุนแก้ เจอยื่นสวน ชี้กลุ่มการเมือง-พ่อค้า ได้ประโยชน์ ม็อบยางชุมนุมขอ กก.120 บ. โวไม่หยุดพร้อมแฉชื่อ

วันนี้ (15 ก.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ในวันที่ 17 ก.ย. พรรคเพื่อไทยจะประชุม ส.ส.เพื่อทำความเข้าใจถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ.... หรือร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท วาระ 2 ในการประชุมสภาในวันที่ 19-20 ก.ย.โดยจะจัดทีมแบ่งหน้าที่ส.ส.อภิปรายสนับสนุนร่างเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท พร้อมขอความร่วมมือจากส.ส.ระหว่างวันที่ 18-20 ก.ย.ให้งดภารกิจในต่างจังหวัด และอาจต้องเตรียมความพร้อมช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หากการอภิปรายยืดเยื้อ จึงขอให้ ส.ส.อยู่ครบองค์ประชุม และรักษาภาพลักษณ์การประชุม ประท้วงให้น้อยที่สุด

ทั้งนี้ ในวันที่ 16 ก.ย.จะมีการประชุมวิปรัฐบาล เพื่อกำหนดกรอบเวลาการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว และจะประสานงานกับฝ่ายค้านไม่ให้การอภิปรายยืดเยื้อ เชื่อว่าเวลา 2 วันน่าจะเพียงพอ แต่หากฝ่ายค้านยังใช้วิธีการเดิม อภิปรายยืดเยื้อ ก็จะเสนอปิดการอภิปรายทันที ไม่ใช่การปิดปาก แต่เป็นการทำตามข้อบังคับ เพราะการสู้กับคนที่ไม่เคารพกติกาต้องใช้กติกาอย่างเข้มงวด

นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวว่า ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์เตรียมยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 169 นั้น ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยตรวจสอบแล้วว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็เคยออก พ.ร.บ.และพ.ร.ก.กู้เงินในโครงการไทยเข้มแข็งมาแล้ว ดังนั้น การยื่นคัดค้าน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เป็นการขัดขวางความเจริญของประเทศ ทราบว่าผู้ใหญ่พรรคประชาธิปัตย์หลายคนปรารภว่า ถ้าร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทผ่าน รัฐบาลจะได้ผลงาน ส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นฝ่ายค้านยาว ไม่มีโอกาสเป็นรัฐบาล จึงอยากรู้ว่า การคัดค้านเรื่องนี้เพราะกลัวเป็นผลงานของรัฐบาลหรือไม่ ทราบว่าวันนี้พรรคประชาธิปัตย์เกิดคลื่นใต้น้ำในพรรค ที่สมาชิกเอือมระอาบทบาทของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่หลายคนเป็นห่วงการทำหน้าที่ในและนอกสภาของนายอภิสิทธิ์กำลังมีปัญหา รวมถึงเป็นห่วงคดีการสลายการชุมนุม คดีหนีทหาร และการให้สัมภาษณ์ดูหมิ่นสตรี จนส่งผลต่อภาพลักษณ์พรรคประชาธิปัตย์ จึงอยากรู้ว่า จริงหรือไม่ที่จะเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคจากอภิสิทธิ์เป็นคนอื่น

นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว. ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 พร้อมยื่นถอดถอน ส.ส.ที่โหวตผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวว่า เป็นการไม่เคารพเสียงข้างมาก ทำตัวเป็นเผด็จการเสียงข้างน้อย การแก้รัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยระบุว่า การแก้รัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของรัฐสภา และเสนอแนะให้แก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราได้ ดังนั้นเมื่อสมาชิกรัฐสภาดำเนินการตามที่ศาลรัฐธรรมนูญแนะนำไว้ จึงไม่ต้องดูข้อกฎหมาย ทั้งนี้ ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าการแก้รัฐธรรมนูญเป็นการทำหน้าที่ของรัฐสภา ศาลรัฐธรรมนูญก้าวล่วงไม่ได้ ดังนั้นหลังครบกำหนด 15 วัน ในวันที่ 27 ก.ย.แล้ว จะเดินหน้าลงมติวาระ 3 อย่างแน่นอน ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ในพรรคสนับสนุนให้โหวตวาระ 3 โดยไม่สนใจคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คาดว่าจะลงมติวาระ 3 ได้ประมาณวันที่ 27 ก.ย. - 2 ต.ค. เรื่องนี้เราไม่กลัว และไม่ใช่การท้าทายอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ แต่เป็นไปตามหลักการแบ่งแยกอำนาจ ถ้ากลัวไปทุกเรื่อง บ้านเมืองก็เดินหน้าไม่ได้ หรือถ้ามีอำนาจแล้วไม่ทำ ก็เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง แต่ฝ่ายค้านพยายามมั่วให้เหมือนเป็นการล้มล้างการปกครอง เป็นจระเข้ขวางประชาธิปไตย ทั้งนี้หากมีการยื่นถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่เข้าชื่อสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ตนจะก็ยื่นถอดถอนส.ว.ที่ยื่นคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เช่นกัน เพราะเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน เนื่องจากหากร่างรัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว.มีผลบังคับใช้ ทำให้ ส.ว.สรรหาต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที ดังนั้นการยื่นคัดค้าน ถือว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนเช่นกัน

โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีม็อบสวนยางพาราปิดถนนสองจุดที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยยืนยันเรียกร้องให้รัฐบาลแทรกแซงราคายางอยู่ที่ 120 บาทต่อกิโลกรัมว่า ประชาชนส่วนใหญ่พอใจกับค่าชดเชย 2,520 บาทต่อไรตามมติ ครม. แต่มีคนส่วนน้อยไม่พอใจเรียกร้องให้ประกันราคายางที่ 120 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่มีประเด็นการเมืองอยู่เบื้องหลัง คนที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้มี 2 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มการเมืองบางกลุ่มที่ไปปลุกระดมให้ปิดถนน ซึ่งจุดที่ปิดถนนห่างจากบ้านนักการเมืองนิดเดียว เป็นการใช้ความเดือดร้อนของเกษตรกรมาทำลายเสถียรภาพรัฐบาล 2. กลุ่มพ่อค้าที่มีการกักตุนยางไว้หลายแสนตันเพื่อเก็งกำไร เป็นกลุ่มที่ซื้อยางเก็บไว้ในราคาต่ำตั้งแต่ช่วงที่รู้ว่าจะมีการปิดถนน หากได้ราคา 120 บาทต่อกิโลกรัมตามที่ต้องการ กลุ่มพ่อค้านี้จะได้กำไรหลายร้อยล้านบาท ทราบว่า มีพ่อค้ารายหนึ่งเป็นญาติของนักการเมืองที่คนใต้รู้จักดีกักตุนยางไว้ถึง 2 แสนตัน ถ้ายังไม่หยุดยุยงจะเปิดเผยชื่อให้ทราบว่าเป็นญาติของนักการเมืองคนใด ตนมีหลักฐานครบถ้วนเรื่องกักตุนยางทั้งคลิปและภาพ


กำลังโหลดความคิดเห็น