รองโฆษกประชาธิปัตย์ ขู่รัฐบาลหักดิบโหวต พ.ร.บ.กู้ 2 ล้านล้านชาติพังแน่ หวั่นถูกยื่นตีความกระทบเศรษฐกิจไทย
วันนี้ (13 ก.ย.) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า การที่วิปรัฐบาลขู่หักดิบผ่านร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท โดยไม่ให้ฝ่ายค้านอภิปรายในการประชุมสภาฯ ฝากเตือนไปยังรัฐบาลว่าหากมีการหักดิบปิดปากฝ่ายค้านในการอภิปรายเรื่องนี้ รับรองได้ว่าประเทศเสียหายแน่นอน เพราะหากกฎหมายนี้ต้องไปติดขัดในข้อกฎหมาย ในชั้นการยื่นตีความจะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประกาศปรับลดตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจลงเหลือ 4.5 เปอร์เซ็นต์ จากที่ตั้งไว้ 4.8-5.8 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากการลงทุนภาคเอกชน การบริโภคภายในประเทศ และการส่งออกลดลง สองหน่วยงานดังกล่าวจึงหวังเพียงการลงทุนภาครัฐ ในการอัดฉีดงบประมาณลงทุนในช่วงปลายปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้น หากร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ติดขัดในข้อกฎหมายเนื่องจากรัฐบาลหักดิบปิดปากฝ่ายค้านไม่ให้อภิปรายในการประชุมสภา จะส่งผลทำให้ประมาณการเศรษฐกิจของทั้ง 2 หน่วยงานคลาดเคลื่อนไป นอกจากนี้ หลายสำนักประมาณการตัวเลขทางเศรษฐกิจทั้งไทยและต่างประเทศ ต่างคาดการณ์ว่าเม็ดเงินจากเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทจะออกมาในช่วงปลายปีนี้ด้วย
ด้านนายชนินทร์ รุ่งแสง ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเศรษฐกิจ สภาฯเปิดเผยถึงกรณีที่จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงการสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศวงเงิน 2 ล้านล้านบาทในวาระที่ 2 ระหว่างวันที่ 19-20ก.ย.ว่า ตนไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกอยู่แล้วในเรื่องหลักการและวิธีการกู้เงิน รวมไปถึงรายละเอียดของโครงการที่ผ่านการพิจารณาของชั้นกรรมาธิการที่ยังไม่ครบถ้วนและไม่มีความพร้อม แต่ฝ่ายค้านก็ได้มีการเตรียมความพร้อมที่จะอภิปรายเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างเต็มที่ ทังนี้ทางฝ่ายค้านก็จะทำตามข้อบังคับการประชุมอย่างถูกต้องหากถูกสมาชิกฝ่ายรัฐบาลเสนอปิดอภิปราย และไม่มีความกังวลต่อเรื่องนี้
ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะมีการแถลงผลงานต่อรัฐสภาในวันที่ 25 ก.ย.นี้นั้น นายชนินทร์ กล่าวว่า ตนเห็นด้วย เพราะตามปกติทางข้อกฎหมายกำหนดให้รัฐบาลต้องแถลงผลงานภายใน 1 ปี แต่ขณะนี้มันเลยเวลามานานมากแล้ว ซึ่งทางฝ่ายค้านก็จะสอบถามถึงความล่าช้าของรัฐบาลด้วย
