xs
xsm
sm
md
lg

“ยรรยง” ยันพาณิชย์ขายข้าวได้ คืนเงินคลังแล้ว 1.69 แสนล้าน พร้อมให้ฉายาหมอวรงค์ “เฒ่าเลี้ยงแกะ” ฐานโม้เกิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ยรรยง” ของขึ้น อัดผู้ส่งออก ฝ่ายค้านกล่าวหามั่ว รัฐบาลขายข้าวไม่ได้ แต่จริงๆ ขายได้ และส่งเงินคืนคลังแล้ว 1.69 แสนล้าน คาดถึงสิ้นปีใกล้เคียงเป้า 2.2 แสนล้านแน่ อวยเป็นผลดีจากสมัย “บุญทรง” ที่ไปเจรจาขายเอาไว้มาออกดอกออกผลช่วงนี้ ยันจีนซื้อข้าวไทยปีละ 1 ล้านตัน ดีกว่าทำเอ็มโอยู เหตุเป็นการตกลงของผู้นำ ซัดหมอวรงค์ดีแต่โกหก รอไม่ไหว ตั้งฉายา “เฒ่าเลี้ยงแกะ” ให้ไปพลางๆ

นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้คืนเงินจากการขายข้าวในสต๊อกรัฐบาลให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตั้งแต่ ต.ค.2554-ต.ค. 2556 รวมเป็นเงิน 1.69 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจากการขายข้าวสารในสต๊อกที่ได้จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกฤดูกาล 2554/55 และ 2555/56 มูลค่า 1.29 แสนล้านบาท และเงินจากการขายข้าวสารสต๊อกเก่าตั้งแต่ปี 2548/49 ถึง 2552/53 มูลค่า 3.94 หมื่นล้านบาท

“แสดงว่ากระทรวงพาณิชย์สามารถขายข้าวในสต๊อกรัฐบาลได้ ไม่เป็นไปตามที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาว่ารัฐบาลขายข้าวไม่ได้ และเชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถคืนเงินจากการขายข้าวได้เพิ่มอีก 3 หมื่นล้านบาท หรือใกล้เคียงกับเป้าหมายการคืนเงินที่ 2.2 แสนล้านบาท ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ที่ได้มีการเจรจาขายจีทูจีเอาไว้ และมาส่งผลดีในช่วงนี้”

ทั้งนี้ ข้าวสารที่เหลือในสต๊อกรัฐบาลขณะนี้มีประมาณ 14 ล้านตัน มีภาระผูกพันแล้ว 5 ล้านตัน เหลืออีกประมาณ 9-10 ล้านตัน ซึ่งในจำนวนนี้จะต้องสำรองเพื่อความปลอดภัย (เซฟตี้สต๊อก) อีก 3-4 ล้านตัน เหลือข้าวที่จะขายได้อีกประมาณ 5-6 ล้านตัน โดยมีแผนที่จะขายให้ประเทศต่างๆ เช่น อิหร่าน อิรัก ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย โตโก กานา โดยอิหร่านได้มีข้อตกลงขายแล้ว 2.5 แสนตัน และกำลังทยอยส่งมอบให้ในเดือน ต.ค.นี้

นายยรรยงกล่าวว่า การขายข้าวให้จีนปีละ 1 ล้านตันเป็นรูปแบบความตกลงที่นายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรีจีนประชุมหารือกัน ถือว่าผูกมัดยิ่งกว่าการทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ซึ่งหลังจากนี้ฝ่ายปฏิบัติจะเป็นผู้ดำเนินการในขั้นตอนรายละเอียดให้ความตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นจริง

ส่วนการลงนามเอ็มโอยูระหว่างคอฟโกกับเอกชนไทยเพื่อซื้อข้าว 1 ล้านตันภายใน 5 ปี หรือปีละ 2 แสนตัน จุดเริ่มต้นก็มาจากที่รัฐบาล โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปหนานหนิง และได้เจรจากับรัฐบาลจีนจึงเกิดข้อตกลงดังกล่าว แต่ภาคเอกชนกลับออกมาระบุว่าเป็นเอ็มโอยูที่เอกชนดำเนินการ ไม่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ แสดงว่าคนพูดไม่รู้จริง

“ผมตั้งข้อสังเกตว่าตอนนี้มีฝ่ายค้าน กับผู้ส่งออกบางรายที่ตกงาน ที่ออกมาค้านสิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการ โดยเอกชนก็ยังยึดติดอยู่กับสิ่งเดิมๆ ที่เคยส่งข้าวไปขายจีนได้ไม่เกินปีละ 2 แสนตัน พอรัฐมาทำได้เยอะก็ไม่เชื่อ ส่วนฝ่ายค้าน ทั้งนายชวนนท์ หมอวรงค์ ก็ค้านแบบไม่มีหลักฐาน ซึ่งผมกำลังคิดฉายาให้ โดยนายชวนนท์ ผมยังให้ฉายาปลาบู่ชนเขื่อนเหมือนเดิม ส่วนหมอวรงค์ กำลังคิดอะไรที่เด็ดๆ แต่เบื้องต้นเอานี่ไปก่อน เฒ่าเลี้ยงแกะ เพราะโกหกไปเรื่อย ทั้งให้ข่าวข้าวปนสารพิษ ข้าวเสื่อม แต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่มี”

นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบโกดังเก็บข้าวสารสต๊อกรัฐบาลที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมที่ จ.นครราชสีมา ชื่อโกดังแสงอยุธยา โดยสามารถบรรจุข้าวได้ 1.2 แสนกระสอบ เบื้องต้นคาดว่าจะได้รับความเสียหายไม่ถึง 10% จากข้าวที่เก็บไว้ทั้งหมด เพราะน้ำท่วมประมาณ 1 เมตร ไม่ได้ท่วมเต็มพื้นที่โกดัง โดยในส่วนนี้ได้มีการทำประกันไว้กับบริษัทประกันภัย และกำลังเดินทางไปตรวจสอบความเสียหายเพื่อชดเชยค่าประกันภัยเต็มมูลค่าข้าวที่ทำประกันภัยไว้ เชื่อว่าไม่ส่งผลเสียหายต่อรัฐบาล เพราะได้รับเงินประกันภัยในส่วนนี้แน่นอน

นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า ได้รายงานข้าวที่ได้รับความเสียหายประมาณ 2 หมื่นตัน เป็นข้าวในพื้นที่อำเภอโชคชัย จ.นครราชสีมา จำนวน 1.2 หมื่นตัน เป็นผลจากเขื่อนลำตะคองปล่อยน้ำกะทันหันจึงไม่สามารถย้ายข้าวในโกดังได้ทัน และข้าวอีก 8,000 ตันโดนพายุพัดหลังคาโกดังทำให้ข้าวถูกน้ำฝน โดยข้าวที่เสียหายทั้งหมดโกดังได้ทำประกันน้ำท่วมไว้แล้ว จึงมั่นใจได้จะไม่กระทบต่อรัฐบาล และยังได้กำชับให้โกดังทุกพื้นที่เตรียมความพร้อม หากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมจะต้องป้องกัน และขนย้ายข้าวในโกดังได้ทัน


กำลังโหลดความคิดเห็น